เที่ยวไทเป ไต้หวัน 4 วัน 3 คืน (Taiwan Taipei 4 Day 3 Night) ไปไหนได้บ้าง ? #เน้นไฮไลท์ อ่านรีวิวนี้จบ ไปเองได้ !!!!

2 min read

ไต้หวันก็แค่ปากซอย ไปเองได้ ผมเองก็เพิ่งเคยไปไต้หวันครั้งแรกครับ หลักๆ ก็อยากจะไปเช็คอินที่ ไทเป 101 เก็บอีกซักประเทศในการเดินทางท่องเที่ยวของตัวเอง ส่วนของข้อมูลต่างๆ ในการท่องเที่ยวไต้หวัน ผมก็หาข้อมูลจากเว็บไซต์บ้าง กลุ่มเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองใน Facebook บ้าง Youtube บ้าง รวบรวมข้อมูลต่างๆ ได้ก็มาทำแพลนในแต่ละวันด้วย Google Map ดีนะครับ ที่ไต้หวันใช้ Google Map ได้ สะดวกสบายขึ้นเยอะมากกกกก ส่วนของแพลน ถ้าขี้เกียจทำแพลนทริปเอง ก็ลอกแพลนของผมได้เลยน้า ไม่ต้องเหนื่อย เดี๋ยวผมจะค่อยๆ บอกแบบ Step by Step แล้วสรุปแพลนทั้งหมดไว้ที่ท้ายรีวิวนะครับ

ก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวที่ไต้หวันมาทำความเข้าใจการเดินทางเข้าประเทศไต้หวันกันก่อนซักนิดนึงน้า ส่วนของคนไทยที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวที่ไต้หวัน สามารถเข้าไต้หวันได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ในกรณีที่อยู่ไต้หวันน้อยกว่า 14 วัน แต่ขอแนะนำให้กรอก Taiwan online arrival card ไปก่อนล่วงหน้าเพื่อความสะดวกสบายนะครับ คลิกลิงค์ https://niaspeedy.immigration.gov.tw/webacard นี้ กรอกข้อมูลส่วนตัว วันที่เดินทาง โรงแรมที่พัก (ข้อมูลเพิ่มเติมการกรอก Taiwan online arrival card) ยังไม่หมดเท่านี้น้า ตอนนี้ทางประเทศไต้หวันเค้าส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างหนัก ด้วยการสุ่มแจกคูปอง 5,000 NTD (5,000 กว่าบาทเลยน้า) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ไปเที่ยวแถม Pocket Money ใครจะไม่อยากไปเนอะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Taiwan the Lucky Land ที่ลิงค์นี้เลยครับ

กรอกข้อมูลก่อนเดินทางพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางกันได้เล้ย…

ส่วนของการสายการบินที่ผมใช้บริการในทริปนี้ก็คือ STARLUX (No Sponsor) ที่ผมเลือกสายการบินนี้ก็คือเพราะว่า ช่วงที่ผมไป เค้าเพิ่งเปิดตัวแบบว่าราคาดีย์มากกกกกก แถมยังเป็น Full Service ด้วยครับ ถ้าเทียบกับสายการบินอื่นๆ แล้ว จะถูกกว่า Full Service อื่นๆ ราคาพอๆ กับ Low Cost ครับ ดูที่นั่งแล้วก็นั่งสบายด้วยครับ มีจอทู้กที่นั่ง แต่แอบเสียดายนิดนึงคือช่วงเวลาการบินจะทำให้เสียเวลาเที่ยวไปทั้งขาไปและขากลับ ใครอยากเที่ยวคุ้มๆ เลือกสายการบินอื่นได้น้า

เที่ยวบินของผม

  • กรุงเทพ – ไต้หวัน บินเวลา 13.20 – 18.10
  • ไต้หวัน – กรุงเทพ 14.00 – 16.45

ข้อเสียคือ เราจะเสียเวลาไป 1 วันทั้งขาไปและขากลับ ได้เที่ยวนิดหน่อยในวันแรก ข้อดึก็คือ ไม่ต้องเหนื่อยตื่นเช้าไปเช็คอินและกลับดึก เลือกดูน้าว่าชอบแบบไหน

สปอยส่วนของเครื่องบินของ STARLUX กันหน่อย

ส่วนตัวผมว่าส่วนของสายการบิน STARLUX ดูทันสมัย บริการดี อาหารใช้ได้ครับ ส่วนของที่นั่งมีจอขนาดใหญ่ให้ดูหนังชิลๆ ระหว่างเดินทางทุกที่นั่ง ส่วนของหน้าต่างจะเป็นหน้าต่างแบบตัดแสง ทันสมัยเลย

ส่วนของด้านล่างที่นั่งก็มีปลั๊กให้ใช้งานชาร์ทมือถือ Notebook หรืออะไรต่างๆ ได้

ส่วนของคำแนะนำบนเครื่อง ผมชอบมากกกกก เป็น Animation น่ารักไปอีก…

นั่งดูหนัง กินข้าว ดื่มเพลินๆ 5 ชั่วโมงก็ถึงไต้หวันเป็นที่เรียบร้อย ผ่าน ตม. แบบชิลๆ แทบจะไม่ถามอะไร

ส่วนของการเดินทางในไต้หวันสะดวกสบาย มีทั้งรถไฟใต้ดิน รถเมล์ ตรงเวลามาก สามารถใช้ Google Map ในการดูเส้นทางและเวลาที่รถจะมาถึงสถานีหรือมาถึงป้ายกันได้เลย ส่วนของ Taxi แนะนำให้โหลดแอพ Uber ไว้นะครับ สะดวกสะบายดีครับ เรียกง่าย ไม่ต้องสื่อสารอะไรมาก ตรงไปตรงมา

ตัวอย่างการใช้งาน Google Map ทางด้านบน จะเห็นว่าเราสามารถรู้ได้ว่ามีทางเลือกให้เราเดินทางได้กี่เส้นทาง ใช้เวลาเท่าไหร่ ราคา ที่ใช้ในการเดินทาง เวลาที่รถจะมาถึงสถานี ผ่านสถานีไหน ต้องลงสถานีไหน รวมถึงต้องออกประตูไหน เมื่อถึงสถานีนั้นๆ แล้วด้วยครับ พอออกไป ก็เดินตาม Map ไปต่อได้เลยครับ

ส่วนของ Google Map ถ้าใช้เป็นสะดวกสบายมากครับ ใช้ได้ในหลายประเทศเลยครับ ที่ผ่านมาผมก็ใช้ที่ญี่ปุ่น สิงคโปร์ รอบนี้ใช้ที่ไต้หวัน สะดวกสบายมาก

ใครที่เน้นใช้รถสาธารณะแนะนำให้ซื้อ EasyCard น้าที่ไต้หวัน ถ้าซื้อบัตร EasyCard แล้วเติมเงิน จะสามรถใช้งานได้กับรถสาธารณะเกือบทุกประเภทครับ แถมยังซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้ด้วยครับ สามารถซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อทั่วไปเลยครับ ที่สนามบินก็มี แต่ถ้าใครอยากได้ลายสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึกก็ต้องเข้าไปหาในเมืองน้า

ส่วนของการเดินทางไปโรงแรมผมก็ซื้อเป็นเหรียญกันก่อน อยากได้ EasyCard ลายสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึก ส่วนของการกดตู้ ก็ไม่ต้องห่วงน้า ตู้เค้ามีภาษาไทยกดอย่างง่ายเหมือนของบ้านเราเลยครับ

ทริปนี้ผมจองโรงแรมกันไว้ที่ Hotel Midtown Richardson ใกล้ๆ Ximending ใครอยู่แถวๆ Ximending เดินทางเหมือนผมได้เลย หลักๆ คือเราต้องไปให้ถึงใจกลางเมืองกันก่อน ก็คือ Taipei Main Station นั่นเอง

ส่วนของสถานีรถไฟฟ้า A13 Taoyuan Airport จะอยู่ที่ Terminal 2 ชั้น B2 เราจะต้องเดินทางจาก A13 Taoyuan Airport ไปที่ Taipei Main Station กันก่อน ส่วนของการเดินทางช่วงนี้จะมีรถ 2 แบบคือ Express Train (รถด่วนจอดไม่กี่สถานี) และ Commuter Train จะจอดระหว่างทางไปเรื่อยๆ แนะนำว่าให้นั่งแบบ Express Train น้า จะเร็วกว่า เบาะที่นั่งจะเป็นสีม่วง และนั่งแบบแยกเป็นตัวๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาทีครับ

ส่วนของ Express Train ที่นั่งก็จะประมาณนี้เลย มีที่วางกระเป๋าเดินทางอยู่ด้านข้างประตู ลากไปวางไว้แล้วมานั่งกันเลยจ้า

พอเรามาถึงที่ Taipei Main Station แล้ว จริงๆ เราสามารถเดินต่อมาที่โรงแรมได้เลย เดินประมาณ 1 กม. แต่ผมเลือกที่จะนั่งรถไฟมาต่ออีก 1 สถานี เป็นสายสีเขียวจาก Taipei Main Station มาที่ Simen ขึ้นมาจากสถานีก็เดินเข้าโรงแรมกันได้เลย

พอมาถึงที่โรงแรม Hotel Midtown Richardson Self Check in จ้า… ห้าๆๆๆ

ถ้าทำไม่เป็นมีพนักงานโรงแรมแนะนำให้ได้ครับ ไม่ยาก ใส่ชื่อค้นหา Scan Passport รูดบัตร Credit สำหรับ Deposit เอาบัตรโรงแรมแตะที่เครื่องอ่านบัตร เพื่อใช้เป็นบัตรห้องพักของเรา ก็เป็นอันเรียบร้อย ป่ะไปดูห้องพักของเรากัน

ห้องพักของที่นี่ มีหลายแบบครับ มีทั้งแบบที่ไม่มีหน้าต่าง ก็จะถูกไปอีก

ผมเลือกแบบมีหน้าต่างๆ คืนนึงจองผ่าน Agoda มาอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท ครับ ส่วนตัวชอบนะครับ ห้องใหญ่ สะอาด ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ ใหญ่สะดวกสบายดี ที่สำคัญ เดินข้ามถนนไปก็เป็น Ximending เลยครับ แบบว่าเดิน Ximending ทู้กวัน ห้าๆๆๆ

เช็คอินเก็บของเสร็จก็เกือบ 2 ทุ่ม ออกไปหาอะไรกินกัน ที่ Ximending คนกำลังคึกคักเลย

ส่วนของ Ximending เป็นย่านช็อปปิ้งที่ใครไปไทเปต้องห้ามพลาดที่จะไปเดินเล่นเลย ส่วนมีอะไรที่ต้องกินบ้าง อะไรอร่อย ผมรีวิวแยกไว้ให้แล้วนะครับ เดี๋ยวรีวิวนี้จะยาวปายยยยยย คลิกอ่านเพิ่มเติมที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ

8 สิ่งที่ห้ามพลาด !!! พร้อมลายแทง ถ้าได้ไปเดินเล่นที่ซีเหมินติง (Ximending) ย่านช็อปปิ้งของวัยรุ่นไต้หวัน

เดินเล่นหาอะไรกินที่ Ximending ถึงประมาณ 4 ทุ่ม ก็กลับมาพักผ่อนที่โรงแรม

วันนี้ชิลๆ ครับ ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่

เช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง กินมื้อเช้ากันที่โรงแรม

ส่วนของมื้อเช้าที่โรงแรม พอกินได้ครับ แต่คนเยอะมากกกกก แทบไม่มีที่นั่ง ของอาหารก็หมดค่อนข้างไว

บางทีไม่ค่อยเติมครับ

แอบผิดหวังเล็กๆ แต่ไม่เป็นไร หาอะไรกินต่อข้างนอกก็ได้ ^^

ผมเดินทางไปกันช่วงฝนมาพอดี… แอบผิดฤดูไปนิด T_T ฝนตกแต่เช้า แอบมีผิดแผนนิดหน่อย เพราะฝนตก เดินทางลำบาก

สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่แพลนไว้จะเป็นพื้นที่กลางแจ้ง

ฝนตกบ้าง ไม่ตกบ้าง หนักบ้าง เบาบ้าง เริ่มเที่ยววันนี้กันที่… ถนนสายรุ้ง (Rainbow Six) สัญลักษณ์ในการพยายามเรียกร้องการเคารพในสิทธิส่วนบุคคล ความเสมอภาคทางเพศ ซึ่งไต้หวันเป็นประเทศแรกในเอเชียที่เพศเดียวกันสามารถสมรสกันได้และเป็นเรื่องถูกกฏหมายตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2019

เมื่อคืนแวะมาแล้วทีนึง ขอมาถ่ายรูปแบบสว่างๆ กันอีกซัก 1 รอบ

ถ่ายรูปเสร็จก็ข้ามไปที่ ตึกแดง (The Red House) อาคารเก่าแก่ตั้งแต่ ค.ศ. 1908 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น เป็นอาคารสไตล์ตะวันตกในยุคนั้น โดดเด่น สวยเลย แอบมีคิวถ่ายรูป นักท่องเที่ยววนเวียนกันแวะไปถ่ายรูปเรื่อยๆ

หลังจากนี้ ฝนตกหนักมากกกก เลยแวะเที่ยว 7-11 กันไปพลางๆ ก่อน ผมแอบชอบ 7-11 ที่นี่น้า

หลายที่แอบมีธีมเป็นของตัวเอง อย่างเช่น 7-11 x Lays หรือ 7-11 x Kitty ก็น่ารักไปอีกแบบครับ มีใครเจอ 7-11 x ??? กับอะไรที่ไต้หวันอีกเอามาโชว์กันได้น้า ส่วนของการไป 7-11 หลักๆ ก็ไปซื้อร่ม + หาซื้อบัตร EasyCard ลายสวยๆ นั่นเองครับ

หาซื้อบัตร EasyCard ไปก็ถ่ายรูปสวยๆ กับ 7-11 ธีมต่างๆ กันปายยยย

ส่วนอันนี้ก็เป็น 7-11 x Kitty น่าร้ากกกกกกก

ในที่สุดก็… ได้มาแล้วจ้า บัตร EasyCard น่าร้ากกกกกกกกกก

ส่วนของบัตร EasyCard จะราคาเริ่มต้นที่ 100 NTD นะครับ ถ้าเป็นลายสวยๆ หรือพวกกุญแจก็จะแพงขึ้นมาอีกหน่อย ส่วนของบัตรจะไม่มีเงินในนั้นน้า ต้องเติมเงินเข้าไปด้วย เติมได้ที่ร้านสะดวกซื้อทั่วไปได้เลยครับ

หลังจากนี้เดินทางก็ใช้บัตร EasyCard กันยาวปายยยยย ส่วนใครใช้เงินไม่หมด ก็ใช้ซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อก่อนกลับไทยกันได้ อ้อ… หรือพวกตู้อัตโนมัติในสถานบินก็สามารถใช้ได้นะครับ ผมเงินเหลือนิดหน่อย ก็กดขนม น้ำจากตู้อัตโนมัติก่อนขึ้นเครื่องมากินที่ไทย จนเงินเหลือติดบัตรนิดหน่อย หลัก 10 บาท เอาบัตรมาเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ

วันนี้ไม่ใช่วันของเรา T_T ฝนตกปรอยๆ เลยนั่งรถไปเดินเล่นที่ Taipei 101 ส่วนของตึก Taipei 101 จะเป็นอาคารสำนักงาน ห้างและมีจุดชมวิวครับ ผมเดินเล่นที่ห้างอยู่พักใหญ่ ก่อนจะออกมาถ่ายรูปกันด้านนอกครับ

ตอนแรกกะว่าจะขึ้นไปชมวิวด้านบน แต่ตามภาพด้านล่างเลยครับ อากาศปิด ขึ้นไปก็ไม่เห็นอะไร เลยไม่ได้ขึ้นไป

แอบเศร้ามาถึง ไทเป แล้ว ไม่เห็นยอด Taipei 101 แงๆๆๆๆๆ

ส่วนของมุมถ่ายรูปของ Taipei 101 มีมุมสวยๆ เยอะเลยครับ ตอนแรกอยากไปเก็บหลายๆ มุมเหมือนกัน แต่อากาศไม่เป็นใจ วันนี้เลยไปแค่ตรง Si Si Nan Cun Village Museum (Old Military House) ถ่ายรูปกับ Taipei 101 แล้วเดินเล่นแถวนั้นอีกนิดหน่อย

ส่วนของ Si Si Nan Cun Village Museum (Old Military House) เป็นหมู่บ้านโบราณแห่งแรกของประเทศไต้หวัน หมู่บ้านเล็กๆ ของอดีตทหารก๊กมินตั๋ง เป็นสถาปัตยกรรมจากการล่าอาณานิคมของประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามารุกรานในช่วงปี 1950 ธีมแนววินเทจ ก็สวยดีครับ

ก่อนจะไปเที่ยวกันต่อ… หาอะไรกินกันก่อนเนอะ

ตามแผนกะว่าจะไปกิน Zhouji Meat Porridge ร้านหมูกรอบชื่อดัง ใกล้กับวัดหลงซาน ตัวหมูกรอบ แต่พอไปถึง ร้านปิดจ้า…. T_T เลยต้องเปลี่ยนแผนไปกิน หมูพะโล้ สามชั้นตุ๋น Wang’s Broth แทน ส่วนของร้านนี้ก็ไม่ผิดหวังน้า

ส่วนของร้านนี้ผมมีรีวิวเพิ่มเติมให้นะครับ อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ

ผิดหวังจากร้านหมูกรอบชื่อดังใกล้วัดหลงซาน เลยฮีลใจด้วย… Wang’s Broth ร้านหมูพะโล้ สามชั้นตุ๋น มิชลินสามปีซ้อน อร่อยแน่นอน !!! 

อิ่มหน่ำสำราญ มีแรงเดินต่อ… เดินย้อนกลับมาที่ วัด Longshan ขอพรความรักได้คู่แบบปัง

ใครหวังว่าจะมีคู่เค้าแนะนำให้ไปไหวที่วัดนี้เลยครับ

นอกจากไหว้พระขอพรกันแล้ว ก็ยังสามารถซื้อเครื่องรางกลับมาให้คนที่เรารักกันได้ บอกเลยล้มละลายครับ ห้าๆๆๆ

เสร็จจากวัดแล้วก็มาต่อกันที่

อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก (Chiang Kai-Shek Memorial Hall) หนึ่งในสัญญลักษณ์ของประเทศไต้หวัน พื่อเป็นการรำลึกและเทิดทูนอดีตประธานาธิบดีเจียง ไคเชก สถาปัตยกรรมแบบจีน อลังการ ยิ่งใหญ่ ลองเทียบกับคนที่อยู่ใกล้ๆ ดูได้ครับ

การมาที่ อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก เราไม่ได้มาแค่ถ่ายรูปกันแน่นอนครับ บริเวณนี้ยังมี…

Chun Shui Tang ชานมไข่มุกเจ้าแรกของโลก

คนเยอะตลอดเวลาครับ ผมไปถึงประมาณบ่ายสองกว่า ถ้ากินที่ร้านต้องรอคิวครับ แต่ถ้าซื้อกลับสามารถสั่งชานมได้ด้านข้างเลยครับ วันนี้ผมตั้งใจมากินแค่ชานมไช่มุกครับ เลยเลือกแบบซื้อกลับ เร็วหน่อย

ส่วนของชานมไข่มุกคือดีย์ แนะนำให้มาลองกินกัน

กินชานมเสร็จ ก็กลับไปกันที่ Ximending วันนี้เรามีนัดกับ Mala Hot Pot ครับผม

กินเป๋าฮื้อกันแบบจุกๆ ฟินเวอร์ กินเป๋าฮื้อไม่อั้น ชอบตรงนี้ ส่วนของร้าน Mala Hot Pot จริงๆ แล้วมีหลายร้านมากครับ แต่ผมเลือกที่จะกินที่ร้านนี้ครับ ผมเขียนรีวิวแบบละเอียดไว้ที่ลิงค์ด้านล่างนะครับ อ่านรีวิวเพิ่มเติมกันได้น้า…

กินหอยเป๋าฮื้อไม่อั้น ซีฟู้ดดีงาม ซุปหม่าล่าแซ่บบบบ Mala Hot Pot Buffet @Ximending ไปไต้หวันต้องไปกินกันแล้วมั้ง…

ใครที่จะกิน Mala Hot Pot แนะนำให้จองล่วงหน้านะครับ อย่างของผมจองตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นครับ

จองไว้ 6 โมงเย็น พอมาถึงก็เข้าไปกินได้เลย ถ้าไม่จองไว้อดจริงๆ คนเยอะมาก

อิ่มอร่อย คุ้มมากกกกก กับ Mala Hot Pot ส่วนตัวชอบที่กินหอยเป๋าฮื้อได้แบบไม่อั้นครับ

กินเสร็จก็เดินเล่น Ximending อีกนิดหน่อย เดินทู้กวัน ห้าๆๆๆๆ ก่อนจะกลับโรงแรมพักผ่อน

วันที่ 3 ของการเดินทาง วันนี้เหนื่อยหน่อยน้า ต้องเดินทางไกล

ส่วนของวันนี้จะแน่นไปนิดนึงครับ สามารถปรับน้า

วันนี้ฟ้าครึ้มๆ แต่ฝนไม่ตก ก็เลยเลือกเดินทางด้วย รถเมล์กันครับ ถือว่าเป็นการ Sightseeing เมืองไทเปไปด้วยในตัวครับ

วันนี้ตั้งใจที่จะไปเที่ยว เที่ยวจิ่วเฟิ่นหมู่บ้านโบราณ (Jiufen Old Street) แต่เห็นคนกำลังฮิตไปเที่ยว อาคารหลากสี ท่าเรือเจิ้งปิน (Zhengbin Fishing Port) จีหลง (Keelung) ก็เลยลองหาข้อมูล ใกล้และเป็นทางผ่านไปจิ่วเฟิ่นนี่นา รออะไร แวะที่อาคารหลากสีก่อนซิครับ แพลนวันนี้แน่นไปอี๊ก ห้าๆๆๆๆๆๆ

การเดินทางจากตัวเมืองไทเป ถึงอาคารหลากสี ท่าเรือเจิ้งปิน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ชมวิวกันยาวปายยย

พอไปถึงว้าวววว สวยเลยครับ

อาคารหลากสี ท่าเรือเจิ้งปิน (Zhengbin Fishing Port) จีหลง (Keelung)

ท่าเรือแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1934 โดยคนญี่ปุ่น สมัยที่ญี่ปุ่นมายึดครองไต้หวัน เป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในยุคแรกๆ ถ้าอยากถ่ายรูปสวยๆ แนะนำให้ถ่ายรูปจากฝั่งตรงข้ามนะครับ ส่วนของฝั่งอาคารหลากสีก็จะมีคาเฟ่ เผื่อใครอยากจะนั่งชิลๆ กัน

ถ่ายรูปสวยๆ ยาวปายยยยยย

หลังจากถ่ายรูปกันจนจุใจแล้ว ก็เรียกใช้บริการ Uber ตรงไปที่จิ่วเฟิ่นกันเลย แอบรีบ คิวเริ่มแน่น เริ่มจะหิว

ส่วนของจิ่วเฟิ่น ผมมีรีวิวแยกมาให้อ่านกันด้วยนะครับ

เที่ยวจิ่วเฟิ่นแล้วต้องกินอะไร คลิกอ่านได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยจ้า…

เที่ยวจิ่วเฟิ่นหมู่บ้านโบราณ (Jiufen Old Street) ประเทศไต้หวัน ไปแล้วต้องกินอะไร !!!

ผมมาถึงที่จิ่วเฟิ่นประมาณ เที่ยงกว่า แอบหิว เลยหาอะไรรองท้องกันไปก่อน

เอาจริงที่จิ่วเฟิ่นสามารถกินให้อิ่มกันได้เลยนะครับ

แต่ผมกะว่าจะไปกินอะไรอร่อยๆ กันที่ Taipei Fish Market กันต่อ…

#บอกแล้วว่าวันนี้คิวแน่น #มีคิวแทรก #อาคารหลากสี

เดินเล่นที่จิ่วเฟิ่นอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ลงจากเขามากินมื้อเที่ยงตอนบ่ายๆ ที่ Taipei Fish Market โดย Uber ครับ

ที่จิ่วเฟิ่นหารถค่อนข้างยากครับ

ส่วนของการเที่ยวที่ จิ่วเฟิ่น จะไกลจากตัวเมืองไทเปพอสมควรเลยครับ ถ้าใครอยากสะดวกแนะนำ Uber ครับ (ค่ารถประมาณ 1 พันบาท) ถ้าเป็น Uber ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการเดินทาง ส่วนของรถบัส (ค่ารถหลักร้อย) ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมงครับ ส่วนของรถไฟฟ้าจะมาไม่ถึงที่นี่นะครับ

ลงจากจิ่วเฟิ่นมา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงแล้น Taipei Fish Market หิวอีกรอบ… ห้าๆๆๆ

ส่วนของ Taipei Fish Market ผมแยกรีวิวไว้ให้แล้วน้า

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้เลยครับ

เที่ยวไต้หวัน 4 วัน 3 คืน ตามรอยเค้า… กินมื้อเที่ยง Taipei Fish Market กินอะไรดี ถูกกว่าไทย สดเหมือนที่ญี่ปุ่นมั๊ย ไปดูกัน…

อิ่มหน่ำสำราญ เริ่มชิลๆ รอไปหาอะไรกินต่อที่ตลาดกลางคืน เลยแวะไปเที่ยว

เที่ยวห้าง SYNTREND (เมก้าพลาซ่า @ไทเป ไต้หวัน) สวรรค์สำหรับคนชอบ Art Toy โมเดล ของเล่น และเกมเมอร์

กันก่อนซักนิดนึง

ที่ห้างนี้มีอะไรน่าสนใจคลิกลิงค์อ่านรีวิวเพิ่มเติมด้านบนได้เลยครับ

เสร็จจากห้าง SYNTREND แล้ว ยังพอมีเวลา แวะเดินเล่นชิลๆ ต่อที่ Huashan 1914 Creative Park สวนนี้อยู่ติดกับห้างเลย

เดินข้ามถนนมาก็ถึงเลย เผื่อใครมีเวลา

วันที่ผมไปจะเป็นวันธรรมดา ไม่มีกิจกรรมอะไรเลยครับ แต่ถ้าเป็นวันหยุดก็จะมีคล้ายตลาดนัดของ DIY ครับ

ถ่ายรูปชิลๆ เดินเล่น นั่งเล่น กันซักแป๊บ

นั่งเล่นเดินเล่นอยู่จนประมาณ 5 โมงเย็น ก็เดินทางต่อไปหาอะไรกินที่ Raohe Night Market ครับ

ส่วนของมื้อเย็นวันนี้ ผมไปหาอะไรกินกันที่ Raohe Night Market ครับ

ส่วนของตลาด Raohe Night Market มีอะไรน่ากินบ้าง ไปแล้วต้องกินอะไร อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ

10 เมนู Street Food เที่ยวตลาดกลางคืน (Night Market) ไทเป ไต้หวัน ต้องลอง !!!

กินอะไรเสร็จ วันนี้ยังไม่จบ ไปที่ Ximending ต่ออี๊ก ห้าๆๆๆๆ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พรุ่งนี้ต้องกลับกรุงเทพแล้ว

เช้าวันที่ 4 ของการเดินทาง

ผมเดินทางกลับ ประมาณ 14.00 น. ยังพอมีเวลา เที่ยวได้อีกนิดหน่อย และดีมากเลยครับ ที่สายการบิน STARLUX สามารถเช็คอินได้ที่ Taipei Main Station ครับ ไม่ต้องขนกระเป๋าไปเองถึงสนามบิน สามารถเช็คอินได้ตั้งแต่ 06:00-21:30 น. แต่ต้องก่อนเครื่องออก 3 ชั่วโมงนะครับ

ส่วนของขั้นตอนก็ง่ายๆ ครับ เช็คอินรับ Boading Pass กันก่อนที่ตู้ทางด้านหน้า

หลังจากนั้นเอา Boarding Pass มา Scan ที่เครื่องรับกระเป๋าทางด้านใน ตามด้วยการ Scan Passport นำกระเป๋าใส่ลงไปในเครื่อง

เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ

หลังจากกระเป๋าเข้าไปในเครื่องแล้วก็มาดูกระเป๋าที่หน้าจอตรงนี้ เพื่อเช็คว่ากระเป๋าเราไม่มีสิ่งผิดปกติอะไรที่เจ้าหน้าที่อยากจะเรียกตรวจ

กระเป๋าไปแล้ว เราก็ตัวเบา สบายๆ เที่ยวต่อได้ ไม่ต้องรีบไปที่สนามบิน ไปถึงสนามบินก็เข้าไปที่ Gate ได้เลย

เราสามารถเช็คกระเป๋าของเราได้ด้วยการเอา QR Code ที่ได้มา Scan เราจะทราบว่ากระเป๋าเราผ่านการ Scan หรือยังและจะไปถึงสนามบินตอนเวลากี่โมงครับ ใครที่มี Air Tag ก็ยิ่งสบายใจอีกระดับนึง ว่าตอนนี้กระเป๋าเราถึงไหนแล้วครับ

เรียบร้อยแล้วค๊า ไปเที่ยวต่อกัน…

ก่อนจะกลับยัง Shopping ไม่สะใจ แวะ Shopping กันต่อกันที่ Gloria Outlets กันอีกซักนิดนึงครับ ส่วนของ Gloria Outlets กว้างมาก และของ Shopping เยอะมากครับ แอบเสียดายเหมือนกันที่มีเวลาไม่มาก ใครที่เป็นสาย Shopping ผมแนะนำให้เพิ่มที่นี่เข้าไปในแพลนนะครับ น่าจะต้องมีเวลาประมาณซัก 2-3 ชั่วโมง ในการเดิน Shopping ครับ ผมเหลือเวลาแค่ชั่วโมงเดียว Shopping ไม่จุใจเลยครับ

ได้แต่ตรงไปที่ร้านที่อยากได้ของหลักๆ ครับ

สาย Model ร้านนี้น่าสนใจเลย

สุดท้าย…. ยังได้ของเพิ่ม Shopping จนวินาทีสุดท้าย รองเท้าน New Balance คนละคู่จ้า

พร้อมเดินทางกลับ…

จบแล้วครับ กับทริป เที่ยวไทเป ไต้หวัน 4 วัน 3 คืน (Taiwan Taipei 4 Day 3 Night) ส่วนของทริปนี้ ความตั้งใจของผมอยากมาเช็คอินที่ Taipei 101 และเที่ยว จิ่วเฟิ่นหมู่บ้านโบราณ (Jiufen Old Street)  เน้นกิน เน้น Shopping ครับ ไต้หวันยังมีที่เที่ยวอีกเยอะเลยครับ ใครที่อยากไปเที่ยวแบบ Grand Taiwan ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายที่เลยครับ ยกตัวอย่างเช่น Sun Moon Lake, อาลีซาน (Alishan), อุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อ (Taroko National Park) แต่ต้องใช้เวลามากกว่านี้ครับ

มาสรุปแพลนทริปของผมครั้งนี้กันหน่อยเนอะ เผื่อใครจะตามรอย…

วันที่ 1 ของการเดินทาง

  • บินด้วยสายการบิน STARLUX ออกเดินทางจากกรุงเทพเวลา 13:20 น. ถึงไต้หวันเวลา 18:10 น.
  • นั่งรถไฟเช็คอินที่โรงแรม Hotel Midtown Richardson ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
  • กินมื้อเย็นที่ Ximending เดินเล่น Shopping สิ่งที่ต้องไปกินและเช็คอิน ถนนสายรุ้ง, บะหมี่อาจง, เต้าหู้เหม็น, เนื้อหั่นเต๋าย่างเบิร์นไฟ, น้ำมะระขาวน้ำผึ้ง, โดนัทนมทอด, หวยขูดไต้หวัน และยำไก่แซ่บ
  • กลับโรงแรมพักผ่อน

วันที่ 2 ของการเดินทาง

  • ถ่ายรูปที่ Rainbow Six ถนนสายรุ้ง, ตึกแดง (The Red House),  7-11 x Lays และ 7-11 x Kitty หาซื้อบัตร EasyCard
  • เดินเล่นห้าง Taipei 101 (สามารถขึ้นไปชมวิวได้ แต่วันที่ผมไปหมอกหนาอดขึ้น)
  • เดินเล่น Si Si Nan Cun Village Museum (Old Military House) ถ่ายรูปกันตึก Taipei 101 จากระยะไกล
  • กินมื้อเที่ยงกันที่ Wang’s Broth (หลังจากผิดหวังกับร้านหมูกรอบชื่อดังบริเวณใกล้กัน)
  • ไหว้ขอคู่ วัด Longshan ซื้อเครื่องรางฝากคนที่เรารัก
  • ถ่ายรูป เดินเล่นที่ Chiang Kai-Shek Memorial Hall
  • กิน Chun Shui Tang ชานมไข่มุกเจ้าแรกของโลก
  • มื้อเย็นกิน Mala Hot Pot ย่าน Ximending ใครที่จะไปกินวันแรกที่มาถึงแวะไปจองไว้ก่อนเลย

วันที่ 3 ของการเดินทาง

  • ถ่ายรูปเล่นที่ อาคารหลากสี ท่าเรือเจิ้งปิน (Zhengbin Fishing Port) จีหลง (Keelung)
  • เดินเล่น หาอะไรกินรองท้องที่ จิ่วเฟิ่นหมู่บ้านโบราณ (Jiufen Old Street) เมนูแนะนำ ลูกชิ้นกุ้งทอด, ไอศกรีมถั่วตัด, โร่วหยวน, ไส้กรอกย่าง, หอยทากย่าง และบัวลอยเผือก
  • กินมื้อเที่ยงตอนบ่ายๆ ที่ Taipei Fish Market
  • ซื้อกล่องสุ่ม ซื้อ Model ที่ Syntrend (เมก้าพลาซ่า ไทเป)
  • เดินเล่นที่ Huashan 1914 Creative Park ถ้ามาตรงเสาร์อาทิตย์จะมีตลาดนัด DIY
  • กินมื้อเย็นที่ Raohe Night Market สิ่งที่ต้องกิน แนะนำ ซาลาเปาอบโอ่ง ร้านฝูโจ่ว, เนื้อวัวลูกเต๋าย่าง, เนื้อตุ๋น เครื่องในวัวตุ๋น, ไส้กรอกไต้หวัน, น้ำมะระขาว, หลู่เว่ย หรือ พะโล้, หอยทากย่าง, แพนเค้กต้นหอม, ปีกไก่ยัดไส้ และมันหวานทอด

วันที่ 4 ของการเดินทาง

  • เช็คอินที่ Taipei Main Station สะดวกสบาย ฝากกระเป๋าไปก่อนเที่ยวต่อได้อีกหน่อย
  • Shopping จนวินาทีสุดท้ายที่ Gloria Outlets ระหว่างไปสนามบิน
  • บินกลับกรุงเทพด้วยสายการบิน STARLUX เดินทางเวลา 14:00 น. ถึงกรุงเทพเวลา 16:45 น.

ไปครับ ไปเที่ยว ไต้หวันกัน ^^

You May Also Like

More From Author