Trip Nan 3 Day 2 Night 0

บินไป…ใช้ชีวิตแบบ Slow Life รับลมหนาวเที่ยวเมืองน่าน-บ่อเกลือ-ปัว 3 วัน 2 คืน ไหว้พระทำบุญรับปีใหม่

รีวิวนี้เป็นอีกหนึ่งรีวิวของผมที่ยาวววววววมากกกกกครับ 100 กว่ารูปเลยครับ ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน ขอชิลๆ สบายๆ ใช้ชีวิตแบบ Slow Life ให้สมกับความเป็นน่านเนิบๆ รับลมหนาวช่วงปลายปี ไหว้พระทำบุญ กันซักหน่อยนะครับ การเดินทางครั้งนี้ผมเริ่มที่ อ.เมืองน่าน ขึ้นไปบ่อเกลือ ปัว แล้วกลับมาจบทริปน่าน ที่ อ.เมืองน่านอีกครั้งครับ ทริปนี้ผมเดินทางด้วยเครื่องบินครับ จะได้ไม่เสียเวลาเดินทางครับ จากกรุงเทพถ้าเดินทางด้วยรถไปน่านก็น่าจะใช้เวลาเป็นวันเลยครับ ขึ้นเครื่องไปกันดีกว่าเนอะ นานนนนนมากกกกที่ไม่ได้ขึ้นเครื่องครับ กว่าจะหมด COVID จน COVID รอบใหม่มาอีกแล้วครับ T_T เพิ่งได้ขึ้นเครื่องไปครั้งเดียวเองครับ แงๆ อยากไปเที่ยวอีก แต่ COVID รอบใหม่กำลังมา…

เริ่มรีวิวทริปน่านเนิบๆ 3 วัน 2 คืน กันเลยดีกว่านะครับ รีวิวนี้ยังอีกยาวไกลครับ เพิ่งเริ่มรูปแรกจาก 172 รูปครับ ห้าๆๆๆๆๆ ทริปนี้ผมเริ่มการเดินทางตอนประมาณ 8.10 น. ครับ เครื่องเลื่อนเวลาบิน 1 ชั่วโมงครับ เนิบๆ ตั้งแต่บินกันเลยนะครับ รอบนี้ผมใช้บริการสายการบิน Thai Smile ครับ #Sponsor ต้องเข้าแล้วครับ ณ จุดนี้ ห้าๆๆๆๆ ส่วนของสายการบิน Thai Smile ต้องไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ นัดกันตั้งแต่ตี 4-5 ครับ (ทริปนี้คนนเยอะหน่อยครับ เดินทางกัน 7 คนครับ) กลัวจะไม่มีรถ Taxi มาสนามบินเลยเอารถมาจอดที่สถามบินครับ ค่าจอดก็วันละ 250 บาทครับ ใครขี้เกียจหา Taxi ไปไม่กี่วันเอามารถมาจอดกันได้นะครับ

หลังจากเช็คอินเสร็จ หาอะไรรองท้องก็มารอกันที่หน้า Gate ครับ พร้อมบินค๊า…

ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปจังหวัดน่าน เที่ยวบิน WE156 เครื่องพร้อมให้บริการแล้วคะ เย่ เย่ เย่… ไปเที่ยวกั้น

ส่วนของสายการบิน Thai Smile เพิ่งเปิดเที่ยวบินไปน่านครับ มีโปรโมชั่นด้วยนะครับ จัดไปครับผม…

พร้อมบินค๊า อีก 1 ชั่วโมงเจอกัน นะ น่านนนนน Fight นี้คนโล่งๆ ครับ คนน่าจะยังไม่ค่อยกล้าบินครับ สายการบินให้ใส่แมสตลอดการเดินทางครับ ส่วนของอาหารรับตอนลงเครื่องครับ

#แอบมีคนอยากมีส่วนร่วมด้วยครับด้านหลัง ห้าๆๆๆ

แอบตื่นเต้นหน่อยๆ ไม่ได้บินนาน COVID ทำเราอดเที่ยวกันเลยนะครับ T_T

บินประมาณ 50 นาที ถึงแล้วครับผม น่านเนิบๆ เย่ เย่ เย่ รอรับกระเป๋ากันแป๊บนึงน้า

จริงๆ แล้วผมเป็นคนแพร่ครับ จังหวัดแพร่ติดกับน่านเลยครับ อยู่แพร่มา 30 ปี ไม่เคยมาเที่ยวที่น่านเลยครับ รอบนี้เป็นการเที่ยวน่านครั้งแรกของผมเลยครับ ห้าๆๆๆๆ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ

ช่วงนี้อากาศกำลังดี ท่องเที่ยวน่านกำลังฮิต ใกล้ชิดธรรมชาติก็ต้องมากันนิดนึงนะครับ

ผมเดินทางมาถึงน่านประมาณซัก 9 โมงกว่าครับ

เมื่อเช้าก็รองท้องมานิดหน่อย เลยขอแวะกินต้มเลือดหมูร้านดังของที่น่านกันซักหน่อยนะครับ

ร้านเลิศรสหลายคน น่าจะรู้จักกันดีนะครับ

ส่วนของต้มเลือดหมูร้านนี้ใส่จิงจูฉ่ายด้วยนะครับ มาเป็นใบๆ เลยครับ ห้าๆๆๆ

เลือดหมูก้อนโต เครื่องในมาเต็ม ซุปรสชาติกลมกล่อมแทบจะไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยครับ ส่วนตัวผมชอบกินเปล่าๆ เลยครับ ไม่เค็มไป แต่ใครชอบกันกับข้าวก็ไม่ว่ากันครับ ^^

หลังจากอิ่มท้องกับต้มเลือดหมูกันแล้วก็ได้เวลาสนุกกันแล้วซิเรา ห้าๆๆๆๆ

สำหรับที่แรกที่เราจะไปแวะเที่ยวกันก็คือ… เดอะวิวกิ่วม่วง ร้านกาแฟบนเนินเขา วิวแบบพาโนราม่า สวยดีครับ

ส่วนของที่นั่งถ้าเช้าๆ หน่อยด้านนอกตรงนี้ แดดไม่ร้อนไปก็บรรยากาศดีเลยครับ

ส่วนช่วงสายและบ่ายหน่อย แนะนำด้านในร้านและชั้น 2 ครับ

อากาศเย็นสบาย ไม่ต้องมีพัดลม ไม่ต้องมีแอร์ ลมธรรมมชาติเย็นสบายมากๆ เลยครับ

อากาศช่วงปลายปีนี่ดีจริงๆ เลยนะครับ ^^

ทริปนี้บ้านตาลมาร่วมทริปด้วยครับ ^^

ชมวิวบริเวณนี้กันซักหน่อยนะครับ

ส่วนของมุมมหาชนของที่นี่ ต้องประตูบานนี้เลยครับ

เปิดประตูสู่ธรรมชาติ…

หลังจากจิบกาแฟยามเช้าบนภูเขา ชมวิวแบบพาโนราม่ากันแล้ว

Next Station ของเราก็คือ… “ถนนโค้งเลข 3” มาถึงน่านแล้ว ผมไม่ได้ถ่ายรูปกับถนนเส้นนี้ไม่ได้จริงๆ ครับ

ชื่อสาม ก็ต้องถ่ายรูปกับถนนโค้งเลข 3 กันหน่อยนะครับ ^^

สวยดีนะครับ แต่กว่าจะได้ภาพนี้ก็ต้องรอจังหวะพอสมควรเลยครับ เบื้องหลังกล้อง

คนเต็มถนนเลยครับ ห้าๆๆๆๆ

ประมาณเที่ยงกว่า เราก็เดินทางถึงบ่อเกลือสินเธาว์ครับ

พอดียังไม่ค่อยหิวกันเท่าไหร่ครับ เลยแวะเที่ยวกันที่บ่อเกลือกันก่อนครับ

การเดินทางจากเดอะวิวกิ่วม่วงมาบ่อเกลือทางคดเคี้ยวมากๆ ครับ ใครที่ชอบเมารถผมแนะนำว่าให้กินยาแก้เมารถเตรียมกันไว้เลยครับ

เมารถแน่นอนครับ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยเมารถยังมีอาการนิดหน่อยเลยครับ

บ่อเกลือนี้เป็น… บ่อเกลือภูเขาหนึ่งเดียวในโลกอายุกว่า 800 ปี บ่อเกลือที่ไม่เคยแห้งครับ

ส่วนของกระบวนการทำเกลือจะเป็นการตักน้ำจากบ่อเกลือขึ้นมาต้มในกระทะประมาณ 4-5 ชั่วโมง น้ำจะค่อยๆ ระเหยจะเกลือตกผลึก จากนั้นนำเกลือใส่ตะกร้าแขวนไว้เหนือกระทะต่ออีกให้สะเด็ดน้ำ แล้วก็ตักน้ำในบ่อมาใส่กระทะเพิ่ม

ทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆ ครับ ก็จะได้เกลือนำมาขายครับ

เกลือของที่นี่ ไม่ใช่เกลือสมุทรจะไม่มีสารไอโอดีนถ้าจะบริโภคให้ได้ประโยชน์จะมีการเติมไอโอดีนลงไปครับ

หลังจากที่ดูกระบวนการต้มเกลือกันเสร็จแล้ว ด้านหลังบ่อเกลือจะเป็นลำธาร วิวสวยๆ สะพานเล็กๆ น่ารักดีครับ

แวะไปถ่ายรูปกันได้ครับ

บริเวณบ่อเกลือยังมีของขายด้วยนะครับ ก็จะมีผลิตภัณฑ์จากเกลือ เช่น เกลือสปาผิว เกลือแช่เท้า สบู่ดอกเกลือ เป็นต้นครับ

นอกจากนี้ก็จะมีผักและผลไม้ครับ ส้มที่นี่ก็อร่อยมากนะครับ แนะนำให้ซื้อเลยครับ

อีกอันนึงที่แนะนำให้ลองก็คือ มะเขาควาย ครับ

เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดมากกกกครับ ใครที่ชอบเมารถซื้อไปกินระหว่างทางได้นะครับ ตื่นเลย หายคลื่นไส้เลยครับ ห้าๆๆๆๆ

อีก 1 เมนูที่ผมลองกินกันก็คือ ข้าวปลายดอย ครับ

ขนมแป้งๆ เหนียวๆ มีหลายแบบครับ โรยด้วยน้ำตาลและมะพร้าว อร่อยดีเหมือนกันครับ

เที่ยวที่บ่อเกลือพักใหญ่แล้วก็เริ่มหิว แวะไปกินข้าวเที่ยงกันดีกว่าครับ

มื้อเที่ยงวันนี้ เรากินข้าวกันที่ร้านหัวสะพานครับ

ร้านนี้คนเยอะมากๆ ครับ ร้านดังที่หลายๆ คนมาเที่ยวบ่อเกลือต้องมากินกันครับ อาหารอร่อย บรรยากาศดีครับ

ส่วนของรีวิวเต็มๆ ของ ร้านหัวสะพาน คลิกอ่านกันเพิ่มเติมได้ครับ

อิ่มหน่ำสำราญกันแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อครับ

คืนนี้เราจะไปนอนกันที่น่านนิรันดร์ อ.ปัว ครับ การเดินทางต่อจากนี้ คดเคี้ยวกว่าขามาอีกครับ ใครเมารถ ยาแก้เมาต้องมาหรือพกมะเขาควายไว้อมแก้คลื่นไส้กันได้เลยครับ ห้าๆๆๆๆ

ส่วนของที่เที่ยวระหว่างทางก็จะมี 1715 จุดชมวิวที่สวยมากๆ ครับ

วิวนี้ผมว่าสวยกว่า วิวของเดอะวิวกิ่วม่วงอีกครับ ถ้ามาตอนเช้าเราจะเห็นทะเลหมอกด้วยนะครับ

มีเพื่อนผมมาช่วงเช้า ทะเลหมอกสวยมากครับ พอดีผมมาช่วงบ่ายแล้วครับ

พอมีหมอกจางๆ ครับ

ถ่ายรูปกันซักหน่อยเนอะ #แก๊งเด็ก

ทุกที่เที่ยว มีของกินครับ ห้าๆๆๆ ตอนนี้เราขึ้นมาบนเขากันสูงมากครับ อากาศก็เย็นมากเหมือนกันครับ

ได้มันเผาหรือไข่ปิ้งอุ่นๆ ฟินมากๆ เลยครับ

แต่เมนูที่ผมอยากจะแนะให้ลอง หากินไม่ได้ข้างล่างดอยแน่นอน ก็คือ พิซซ่าดอย ครับ

ก่อนจะย่างจะเป็นแผ่นแป้งแบนๆ แบบภาพด้านบนนี้ครับ

พอย่างไปซักพักจะเริ่มพองแบบภาพด้านล่างครับ

ย่างได้ที่ก็เอามาใส่บนใบตอง หั่นให้พอดีคำ ราดด้วยน้ำผึ้ง โรยงาขาว ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ

เวลากินก็จะประมาณนี้ครับ ยืดดดดด เหมือนพิซซ่าชีสเลยครับ

ส่วนของรสชาติก็จะหวานๆ หอมน้ำผึ้ง มันๆ หน่อยๆ อร่อยดีครับ แต่กินยากนิดนึงเหมือนกันครับ ร้อนๆ เหนียว ต้องรีบกินครับ

ถ้าช้าแป้งจะกลับมาแข็งเหมือนเดิมครับ ห้าๆๆๆ

กินพิซซ่าเสร็จแล้ว ก็เดินทางกันต่อนะครับ ไปเช็คอินกันที่น่านนิรันดร์กันก่อนครับ

ส่วนของน่านนิรันดร์เป็นที่พักที่ผมประทับใจมากครับ บรรยากาศดี ห้องมีหลากหลายแบบครับ พักได้ตั้งแต่ 2-7 คน เลยครับ ต่อ 1 บ้านพักครับ

ส่วนของรีวิวเต็มของ น่านนิรันดร์ คลิกอ่านจากลิงค์กันได้เลยครับ

ก่อนจะจบทริปวันแรกของการเดินทางเที่ยวน่าน เราจะไปเดินเล่นกันที่ ถนนคนเดินปัว ครับ

ส่วนของถนนคนเดินปัวไม่ใหญ่มากครับ แต่มีของน่ากินๆ เพียบเลยครับ ของพื้นบ้าน จะน่ากินเป็นพิเศษครับ หรือว่าผมเป็นคนเหนือด้วยมั้งครับ เลยเห็นอะไรก็น่ากินไปหมดเลยครับ อยู่กรุงเทพหาอาหารเหนือกินยากอยู่ครับ หาได้บางร้านก็ไม่ถึงเครื่องคนเหนือครับ T_T

เดินเล่นไปก็ซื้อของไปครับ เต็มไม้เต็มมือครับ ซื้อด้วยความหิว ห้าๆๆๆๆ

ภาพอาหารน่ากินๆ ยาวปายยยครับ เผื่อใครอยากไปลองซื้ออาหารเหนืออร่อยๆ กินกันนะครับ ^^

ส่วนของถนนคนเดินปัวผมว่าของกินเยอะครับ เสื้อผ้า ของใช้มีนิดหน่อยครับ

ใครที่ไม่รู้จะไปกินข้าวที่ไหนมื้อเย็น ก็ซื้อแล้วมานั่งกินบริเวณนี้กันได้ครับ มีเป็นขันโตกให้บริการครับ พอดีส่วนของผมมีจองหมูกระทะไว้ที่โรงแรมครับ เลยซื้อของไปกินต่อที่โรงแรมครับ

ส่วนของถนนคนเดินที่ปัว เปิดเฉพาะ วันศุกร์ – เสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 21.00 น. เท่านั้นนะครับ

ปาร์ตี้กันต่อที่ที่พักเนอะ ปาร์ตี้เสร็จก็นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ ครับ z Z z z …

สวัสดียามเช้า วันที่ 2 ของการเดินทางท่องเที่ยวน่านเนิบๆ ครับ

หลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จ ก็ได้เวลาเดินทางเที่ยวกันต่อครับ วันนี้เราจะเดินทางกลับไปที่ตัวเมืองน่านครับ เราจะไปนอนกันที่ตัวเมืองเพื่อเดินทางกลับในวันถัดไปครับ เช้านี้เราเริ่มกันด้วยการไหว้พระทำบุญกันที่… วัดศรีมงคล (ก๋ง) ครับ

สำหรับที่วัดศรีมงคล (ก๋ง) นอกจากเราจะได้ไหว้พระทำบุญแล้ว

ด้านหลังวัดยังมีวิวสวยๆ ทุ่งนาเขียวขจี ร้านกาแฟให้นั่งชิลๆ กันด้วยนะครับ หลายคนอาจจะถามแล้ว “ก๋ง” คืออะไร ?

ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่และมีพระสงฆ์ที่มีชื่อคือ หลวงปู่ก๋ง ครับ

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันซักหน่อยนะครับ ก่อนจะเข้าไปไหว้พระด้านในครับ

โบสถ์สวยมากเลยนะครับ ไหว้พระทำบุญผูกข้อไม้ ข้อมือกันซักหน่อยนะครับ สาธู้…

หลังจากไหว้พระทำบุญกันแล้วก็ถ่ายรูปสวยๆ เก๋ๆ กันต่อ… ครับ

วันนี้ชุดได้มากกกกครับ ห้าๆๆๆ สองพี่น้อง

ขอรูปคู่บ้างน้า…

วัดนี้มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ เยอะเลยครับ ส่วนของด้านหลังวัดจะเป็นร้านกาแฟฮักน่าน ใครมีเวลาเหลือนั่งชิลๆ ชมท้องทุ่งนากันได้นะครับ

ช่วงที่ผมไปเป็นปลายปีครับ นาเกี่ยวไปหมดแล้วครับ เลยไม่ค่อยเขียวเท่าไหร่ครับ

ถ้าไปช่วงหน้าทำนา ด้านหลังนี้ทุ่งนาเขียวขจีสวยมากๆ ครับ แอบเห็นคนหลายคนถ่ายมาครับ ใครอยากเห็นทุ่งนาเขียวขจีลองไปกันช่วงหน้าฝน หรือปลายฝนต้นหนาวน่าจะกำลังดีนะครับ ^^

รูปคู่ยังไม่หมดครับ ห้าๆๆๆๆ วันนี้ชุดน่ารัก เหมาะกับน่านเนิบๆ มากครับ

ก่อนจะออกจากวัด ก็มีของขายเหมือนเดิมครับ ทริปน่าน ทริปนี้ไม่ต้องกลัวอดครับ

มีของขายเกือบทุกที่ที่จอดรถครับ ห้าๆๆๆ

ก่อนจะไปกินข้าวเที่ยง ยังมีอีกที่นึงที่ไม่มาไม่ได้ครับ !!!

ร้านกาแฟบ้านไทลื้อครับ มาถ่ายรูปสวยๆ กับผ้าทอและซื้อผ้าพื้นเมืองกันครับ อันนี้แม่กับป้าตาลอยากจะมาเป็นพิเศษครับ ก่อนหน้านี้มี CF เสื้อผ้าพื้นเมืองผ่าน Live สดมานาน วันนี้มาซื้อกันถึงที่เลยครับ ห้าๆๆ

ตรงนี้เลยครับ เป็นมุมมหาชนที่ทุกคนมาที่นี่ต้องมาถ่ายรูปตรงนี้ครับ

ถ่ายรูปสวยๆ กับผ้าทอ สวยค๊า… ห้าๆๆๆ เลือกมุมกันได้เลยครับ

ส่วนของด้านหลังร้านก็ยังมีทุ่งนาและทุ่งดอกไม้สวยๆ ครับ ลงไปเดินเล่นถ่ายรูปกันได้ครับ

ทุ่งดอกไม้สวยๆ กับสะพานไม้เล็กๆ สวยดีครับ

อย่าลืมอุดหนุนทางร้านกันหน่อยนะครับ

ตอนนี้ก็ 11 โมงกว่าแล้วครับ แวะไปซื้อเสื้อผ้าพื้นเมืองกันที่ ร้านลำดวนผ้าทอ ซักหน่อยครับ ไม่แวะไม่ได้ครับ ร้านนี้ ห้าๆๆๆ

ร้านลำดวนผ้าทออยู่ด้านหน้าร้านกาแฟไทลื้อเลยครับ

ถ้าแวะไปดูเสื้อผ้าที่ร้าน แวะดูสตู Live สดขายเสื้อผ้าของร้านเค้ากันได้นะครับ อลังใช้ได้เหมือนกันนะครับ เปิดไปด้านหลังจะทางเดิน ที่ตากผ้าทอที่หลายๆ คนชอบไปถ่ายรูปกันครับ ^^

ก่อนจะเที่ยวต่อ แวะเติมพลังกันซักหน่อย ที่ร้านครัวมุกดาครับ ร้านนี้คนขับรถตู้แนะนำมาครับ

ส่วนของอาหารก็พอใช้ได้ครับ

เมนูที่ผมชอบก็จะเป็นไก่ทอดมะแขว่น เมนูที่ต้องลองถ้ามาเที่ยวน่านครับ ห้าๆๆๆ อีกเมนูที่ผมชอบก็จะเป็นยำผักกูดครับ เปรี้ยวๆ หวานๆ ผักกูดกรอบไม่เหนียว อร่อยดีครับ

อิ่มท้องแล้ว มีพลังพร้อมเที่ยวต่อ ก็ใกล้เวลานัดหมายครับ

ช่วงบ่ายของวันที่ 2 ผมมีจองทัวร์สวนโกโก้และ Workshop ทำช็อคโกแลต ที่ COCO VALLEY (โกโก้วัลเล่ย์) ไว้ครับ

ส่วนของโกโก้วัลเล่ย์จะมีทั้งที่พัก (ที่จองยากมากครับ เต็มตลอด ห้าๆๆ)

คาเฟ่ สวนโกโก้ และ Workshop ทำช็อคโกแลตครับ

ส่วนของทัวร์สวนโกโก้ (ชิมโกโก้สด) และ Work Shop ทำช็อคโกแลต สำหรับคนทั่วไปจะอยู่ที่ 500 บาท ต่อคนครับ

ถ้าเป็นผู้ที่เข้าพักจะมีส่วนลดให้ครับ

ใครที่อยากจะลองไปทัวร์สวนโกโก้ทำช็อคโกแลตแนะนำให้โทรจองกันก่อนนะครับ ส่วนของทัวร์สวนโกโก้มีวันละ 2 รอบ รอบละ 12 คนครับ ส่วนของ Workshop ทำช็อคแลตจะมีรอบเยอะกว่าหน่อยครับ เลือกที่จะทำ Workshop อย่างเดียวได้นะครับ ถ้าจำไม่ผิด Workshop ทำช็อคโกแลต อย่างเดียวจะอยู่ที่ 350 บาท ครับ

ถ้าทัวร์สวนด้วย ทำช็อคโกแลตด้วยจะใช้เวลาประมาณ 1.5-2 ชั่วโมงครับ

เริ่มทริปทัวร์สวนโกโก้กันเลยดีกว่านะครับ ^^

ส่วนของสวนโกโก้จะอยู่ห่างจากที่พักและคาเฟ่ไปประมาณ 5 กิโลครับ เราจะต้องนั่งรถของทางรีสอร์ทไปครับ

รถกระบะตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ

พอถึงที่สวนเราสามารถเลือกพร็อพหมวกสานและตะกร้าสะพายด้านหลังไปเดินเล่นในสวน

ถ่ายรูปเป็นชาวสวนกันได้ครับ

ใครจะไปอย่าลืมใส่ชุดพื้นเมืองไปกันด้วยนะครับ ถ่ายรูปออกมาแล้วสวย เหมือนชาวสวนโกโก้มากๆ เลยครับ ห้าๆๆๆ

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สวนโกโก้ก็คือ… ถ่ายรูปกับผลโกโก้ ที่มีหลายสีครับ

มีทั้งสีเขียว สีแดง สีเหลือง และสีส้มครับ

ส่วนที่พลาดไม่ได้ และเป็นเหตุผลที่ผมมาทัวร์สวนโกโก้ก็คือ…

การได้ชิมผลโกโกสด นั่นเองครับ

พนักงานเค้าจะทำการผ่าผลโกโก้สดแบบในรูปนี้ครับ ส่วนที่เรากินก็จะเป็นเม็ดด้านในสีขาวๆ ครับ ส่วนขอรสชาติส่วนที่เป็นเนื้อขาวๆ จะหวานหน่อยๆ แต่เม็ด้านในจะมันๆ ขมๆ ครับ ต้องเคี้ยวทั้งเม็ดเลยนะครับ บางคนอาจจะไม่ชอบเหมือนผมครับ ห้าๆๆๆ

แต่ก็ถือว่าได้ลองชิมนะครับ ^^

ส่วนของกระบวนการทำผงโกโก้และช็อคโกแลต จะเริ่มจากการนำผลโกโก้สุกมาผ่าเอาเม็ดด้านในไปตากให้แห้ง 1-2 สัปดาห์ครับ พอเม็ดแห้งแล้วก็จะถูกนำไปคั่ว แกะเปลือกห่อหุ้มเม็ดออก หลังจากนั้นก็บดด้วยความเร็วและความร้อนสูง เราก็จะได้ผงโกโก้ที่ขมมากครับ ส่วนนั้นยังไม่เหมาะที่จะนำมารับประทานนะครับ แต่นำไปทำเบเกอรี่ได้ครับ

ถ้าจะทำช็อคโกแลตต้องนำผงโกโก้ผสมเข้ากันน้ำตาลและไขมันโกโก้ (ไขมันที่สกัดจากเมล็ดโกโก้) ครับ

นี่เลยครับ กระบวนการทำช็อคโกแล็ตที่เรากินกันครับ ^^

หลักจากเดินจนทั่วสวนแล้ว

เราก็เดินทางกลับมา Workshop ทำช็อคโกแลตกันครับ

ส่วนของการทำช็อคโกแลตทางพนักงานก็จะแนะนำวิธีการต่างๆ ให้ครับ

เริ่มจากการชิมส่วนผสมต่างๆ กันก่อนครับ

หลังจากนั้นก็… ทดลองเกลี่ยให้ช็อคโกแลตเย็นลงบนโต๊ะหินอ่อน

ต่อด้วยการหยอดช็อคโกแลตลงบนพิมพ์และแต่งหน้าตามความต้องการด้วย ลูกเกด สตรอเบอร์รี่ และอัลมอนด์ครับ

เป็นอันเสร็จพิธีช็อคโกแลตชิ้นเดียวในโลก ฝีมือเราเองครับ ^^

พนักงานจะเอาช็อคโกแลตของเราไปแช่เย็นเพื่อให้ช็อคโกแลตแข็งครับ ต้องรอประมาณ 20 นาทีครับ

ระหว่างรอ… เราไปนั่งกินขนมดื่มน้ำเย็นๆ กันที่คาเฟ่กันก่อนนะครับ

ส่วนของคาเฟ่อยู่ในพื้นที่เดียวกันครับ

อันนึงที่ผมเห็นแล้วอยากจะลองเลยก็คือ น้ำผลโกโก้สด ราคา 160 บาทครับ #ราคาแรงอยู่น้า อยากจะลองแต่พอลองแล้ว

ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ครับ ห้าๆๆ  แต่ก็ถือว่าได้ลองนะครับ ^^

ส่วนของรสชาติก็จะหวานๆ ลื่นๆ ครับ ห้าๆๆๆ

นอกจากนี้ก็จะมีเครื่องดื่มเหมือน คาเฟ่ทั่วไปครับ

แนะนำเป็นขนมและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของโกโก้ครับ รสชาติ OK เลยครับ

ส่วนของจานนี้ บราวนี่ ครับผม แนะนำครับ นุ่นๆ อร่อยดีครับ

ครบ 20 นาที ได้มาแล้วจ้า… ช็อคโกแลตชิ้นเดียวในโลกครับ แพ็คเกจดูดีเหมือนกันนะครับ

จบส่วนของการท่องเที่ยวบ่อเกลือ ปัว แล้วครับ

กลับเข้าตัวเมืองกันดีกว่านะครับ ส่วนของการเดินทางจากปัวมาตัวเมืองใช้เวลาประมาณ 50 นาทีครับ (จากโกโก้วัลเล่ย์ครับ)

พอถึงตัวเมืองเราก็เข้าเช็คอินกันก่อนเลยครับ ที่บ้านพัก 24 มหาพรหมครับ

บ้านพักให้เช่า น่ารักๆ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว มีจักรยานให้ปั่นครับ

ส่วนของรีวิวเต็มๆ เผื่อใครอยากไปพัก อยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมของ บ้าน 24 มหาพรหม คลิกอ่านจากลิงค์กันได้เลยครับ

ส่วนของมื้อเย็นวันนี้ ผมแวะกันกินข้าวกันที่ เรือนเจ้านาง ครับ

ส่วนของร้านอยู่ริมแม่น้ำน่านเลยครับ ชิลๆ สบายๆ ดีครับ เลื่อนลงไปดูบรรยากาศของร้านได้ด้านล่างเลยครับ

ว้าวววว ว้าว ว้าว ถ้าใครอยากจะนั่งริมแม่น้ำน่านแบบนี้โทรจากกันก่อนนะครับ

ผมให้คนขับรถตู้จองโต๊ะให้ตอนเที่ยงครับ แจ้งเวลาที่เราจะเข้าไปกินข้าว ก็จะมีโอกาสได้นั่งโต๊ะบริเวณนี้ครับ ^^

พร้อมกินมื้อเย็นค๊า… ปล. ช่วงค่ำๆ ยุงก็จะมาหน่อยนะครับ อย่าลืมใส่ขายาวไปกันนะครับ

อากาศก็เย็นๆ ด้วยครับ เสื้อกันหนาวก็ต้องมาครับ

เมนูอาหารวันนี้ที่แนะนำเลยก็จะเป็น ลาบปลาคัง หมูทอดมะแขว่น ปลากระพงทอดน้ำปลา ต้มยำปลาคัง และสุดท้ายก็ต้องเป็นออเดิฟเมือง (มาเป็นขันโตกเลยครับ) อร่อยใช้ได้เลยครับ

ใครชอบกินอาหารเหนือ อาหารเหนือร้านนี้รสชาติดี ไม่ผิดหวังครับ

กินคาวแล้วต้องกินหวานนะครับ ร้านขนมที่พลาดไม่ได้ถ้ามาเที่ยวที่น่านก็คือ… “ร้านของหวานป้านิ่ม” ครับผม

ส่วนของร้านของหวานป้านิ่ม แบบต้นฉบับต้องที่นี่เลยครับ คนเยอะมากครับ

แต่เอาจริงๆ ก็รอไม่นานนะครับ อาหารไม่ได้ปรุงแค่ตักใส่ถ้วยครับ ใครเห็นคนเยอะลองต่อคิวดูนะครับ ไม่นานจริงๆ ครับ ^^

ใครไม่ติดกับการมาเจอป้านิ่ม ตอนนี้มีร้านลูกป้านิ่มแล้วนะครับ ในตัวเมืองเลยครับ

เดี๋ยวผมรีวิวให้อีกทีด้านล่างนะครับ

สำหรับเมนูแนะนำก็ตามภาพด้านล่างนี้เลยครับผม

วันนั้นที่ผมไปผมสั่งเป็นไอติมบัวลอยครับ

ปกติแล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบกินขนมหวานประมาณนี้ครับ ต้มๆ แป้งๆ แต่ไหนๆ ก็มาแล้วครับ ต้องลองชิมซักหน่อยนะครับ

ส่วนของขนมป้านิ่มแกทำมาใส่ถุงรอไว้เลยครับ พอใกล้จะหมดก็เอาในถุงมาเติมในหม้อครับ

ลูกค้ามากินคิวยาวๆ ตักใส่ถ้วยไม่ต้องปรุงเพิ่มแป๊บเดียวก็ได้กินครับ

ส่วนของที่นั่งก็จะมีทั้งห้องแอร์ด้านใน บาร์ด้านนอก และมุมด้านหน้าทางเข้าครับ

ได้มาแล้วครับ ขนมที่สั่งไปครับ น่ากินทุกเมนูเลยนะครับ ถ้วยละ 50 บาท ก็ไม่แพงนะครับ

ส่วนของไอติมบัวลอย ไอติมรสชาติดี บัวลอยนุ่มมากๆ แทบจะละลายในปากเลยครับ ส่วนของไอติมพอละลายลงมาแล้วกินกับบัวลอยก็ยังอร่อยครับ ไม่ต้องรีบกินเลยครับ งานนี้ห้าๆๆๆๆ กินเย็นๆ พร้อมไอติมก็ได้ หรือจะรอละลายแล้วค่อยกินก็อร่อยไปอีกแบบครับ

ซูมให้เห็นความน่ากินชัดๆ กันซักหน่อยนะครับ ^^

กินทั้งคาว ทั้งหวานแล้ว ก็ได้เวลาเดินย่อยอาหารกันแล้วครับ

แวะไปเดินเล่นถนนคนเดินหน้าวัดภูมินทร์กันหน่อยครับ นะครับ ที่ถนนคนเดินก็มีทั้งของกินและของขายครับ ที่นี่ใหญ่กว่าที่ปัวครับ

ส่วนของอาหารที่นี่เยอะมากครับ ใครไม่อยากไปกินที่ร้านก็มาซื้อของกินที่นี่กินเป็นมื้อเย็นได้นะครับ

ถ้าซื้อของที่ถนนคนเดินแล้ว ก็มาแวะนั่งกินกันที่นี่ได้ครับ มีขันโตกให้บริการครับ

ไหนๆ ก็ไหนๆ มาถึงวันภูมินทร์แล้ว

แวะเข้าไปชมภาพ “กระซิบรักบันลือโลก” กันซักหน่อยนะครับ

วัดภูมินทร์นอกจากภาพเขียนแล้วพระปางมารศรีวิชัย 4 ทิศ ก็สวยไม่แพ้กันเลยนะครับ

แวะไปไหว้ขอพรกันได้ครับ

ส่วนของภาพ “กระซิบรักบันลือโลก” ปู่ม่านย่าม่าน เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง ผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรพื้นถิ่นเชื้อสายไทลื้อ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานที่ปราณีตและโดดเด่นประจำวัดภูมินทร์ครับ เป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกระซิบกันครับ

กำลังบอกรักรึปล่าวน้า… ห้าๆๆๆ

ดังจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่านไปแล้วครับ มาน่านแล้วไม่ไปชมกัน ถือว่ามาไม่ถึงนะครับ ^^

แวะเข้าไปชมภาพแล้วก็ออกมาเดินเล่นกันต่อครับ ใครที่อยากได้เสื้อผ้าพื้นเมืองที่ถนนคนเดินก็เยอะเลยครับ

ส่วนของถนนคนเดินหน้าวัดภูมินทร์

เปิดทุกวัน ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่แวลา 17.00 – 22.00 น. นะครับ

เดินชมวัดยามค่ำคืนก็สวยดีนะครับ

กลับบ้านบ้านพัก พักผ่อนกันดีกว่าครับ พรุ่งนี้ต้องตื่นมาใส่บาตรแต่เช้าครับ หมดไปอีก 1 วันนะครับ เวลาที่ไปเที่ยวนี่เวลามันผ่านไปเร็วจริงๆ นะครับ พรุ่งนี้ต้องกลับกรุงเทพแล้ว แง แง T_T ยังไม่อยากกลับ

ป่ะๆๆๆ นอนหลับพักผ่อนกันดีกว่าครับ นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับ z Z z z…

Good Morning ครับ วันนี้ตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัวมาใส่บาตรกันครับ

แบบว่าตื่นเช้ามากๆ ก็เลยออกไปปั่นจักรยานเล่นกันก่อนซักหน่อยครับ

ผมว่าตอนเช้าแสงสวยดีนะครับ ถ่ายรูปสวยครับ โดยเฉพาะซุ้มลีลาวดี (ที่ไม่มีทั้งดอกและใบ T_T ช่วงหน้าหนาวก็จะประมาณนี้ครับ) ผมแวะไปถ่ายรูปกันครับ ได้อีกบรรยากาศนึงครับ ถ้าถ่ายช่วงที่มีแดดก็แสงที่ส่องลงมาหน้าขาวบ้างดำบ้างครับ ห้าๆๆๆๆ

หลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จ เช็คเอ้าออกจากบ้านพักแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยวกันต่อครับผม

ก่อนที่จะบินกลับกรุงเทพกันเย็นนี้ครับ

ยังไม่อยากกลับเลยครับ แงๆๆๆ อากาศกำลังดีเลย อยากเที่ยวต่ออีกซักหน่อย ห้าๆๆ

เช้านี้เราเริ่มเที่ยวกันที่วัดศรีพันต้น ไปชมโบสถ์สีทองและจิตรกรรมปูนปั้นพญานาคเจ็ดเศียร ตรงบันไดทางเข้า สวยมากๆ เลยนะครับ

ไหว้พระในโบสถ์เสร็จก็เดินทางกันต่อครับ

วัดต่อไปเป็นวัดพระธาตุเขาน้อยครับ ในตัวเมืองเที่ยววัดกันเยอะหน่อยนะครับ ตอนแรกว่าจะไหว้พระ 9 วัดครับ แต่กลัวพ่อแม่จะเหนื่อยไป เลยเอาเท่าที่ได้ครับ แต่ก็ได้ไปไหวหลายวัดเลยครับ

ส่วนของพระธาตุเขาน้อยอันนี้ผมอยากจะมาเป็นพิเศษครับ วัดจะอยู่บนเขามีวิวที่สวยมากๆ ครับ

มุมนี้เลยครับ ที่ห้ามพลาดครับ

พระพุทธรูปปรางประทานพรสูง 9 เมตร พร้อมกับวิวเมืองน่านแบบพาโนราม่า เหมือนท่านกำลังประทานพร ปกปักรักษาเมืองน่านอยู่เลยนะครับ

สวยมากๆ เลยครับ มุมนี้ครับ ให้ความรู้สึกสงบ สมกับน่านเนิบๆ เลยครับ

ให้ไป 2 รูปเลยนะครับ มุมนี้ ผมชอบมากครับ

ก่อนที่จะกลับเข้าตัวเมือง ขอแวะไปกินขนมจิบชากาแฟชิลๆ กันที่… บ้านนาก๋างโต้ง กันซักหน่อยนะครับ

ที่นี่คนขับรถตู้แนะนำมาครับ ไม่ได้อยู่ในแผนครับ แต่พอไปถึงอยากบอกว่าประทับใจมากๆ ครับ เพิ่งเปิดเมื่อ พย. ที่ผ่านมานี่เองครับ มีทั้งที่พักและคาเฟ่ครับ ใครที่อยากจะไปพัก ไปชิลกินขนมจิบชากาแฟ อ่านรีวิวเต็มๆ บ้านนาก๋างโต้ง คลิกที่ลิงค์กันได้เลยครับ

เช้านี้ยังพอมีเวลาก่อนที่จะไปกินข้าวเที่ยงกัน ไปเมืองไหนก็ต้องไหว้ศาลหลักเมืองของเมืองนั้นกันซักหน่อยนะครับ

สำหรับวัดที่ 3 ของวันนี้ วัดมิ่งเมืองครับ

สำหรับที่นี่เราจะได้สักการะเสาหลักเมืองน่าน ไหว้พระในโบสถ์สีขาวสวยดีครับ

จากวัดมิ่งเมืองเดินไปไม่ไกลก็ถึงวัดภูมินทร์ครับ พอดีเมื่อเช้าผมมาซุ้มลีลาวดีกับตาล 2 คนครับ

มีหลายคนยังไม่ได้ถ่ายรูปกับซุ้มลีลาวดีครับ เลยแวะมากันอีกรอบครับ

เที่ยงนิดๆ เริ่มจะหิว มื้อกลางวันนี้ขอเบาๆ กินข้าวซอยกันครับผม

มื้อนี้รถตู้แนะนำบ้านข้าวซอยครับ

ร้านนี้เป็นร้านของแฟนคนขับรถตู้ครับ เมนูของที่นี่ฟิวชั่นหน่อยๆ ครับ แต่ก็อร่อยไม่ผิดหวังครับ

ส่วนของร้านไม่ใหญ่ครับ

เมนูก็มีไม่เยอะครับ วันนี้ผมมากัน 7 คน น่าจะสั่งเกือบทุกอย่างที่น่ากินแล้วครับ ห้าๆๆๆๆ

เมนูแรกของวันนี้ขนมจีนน้ำเงี้ยว ราคา 35 บาท ไม่แพงเลยนะครับ

หมู เลือด มาเต็ม รสชาติอร่อย

ไม่ผิดหวังที่มาเมืองเหนือ กินขนมจีนน้ำเงี้ยวสูตรของทางเหนือแท้ๆ ครับ

เมนูต่อมาเป็นข้าวซอยไก่ครับ ราคา 40 บาท

รสชาติเข้มข้น ผมว่าข้าวซอย น้ำต้องข้น รสชาติต้องเข้มข้น ถึงจะอร่อยนะครับ ว่ามั๊ยครับ

ส่วนจานนี้ก็เป็นไส้อั่ว รสชาติใช้ได้ครับ จานนี้จำราคาไม่ได้ครับ

เมนูนี้เด็ดครับ วัยรุ่นน่าจะชอบกันนะครับ

“ข้าวซอยไก่ชีส” ราคา 55 บาท

ชีสสสสสสเยิ้มๆ ยืดๆ น้ำข้าวซอยเข้มข้นออกครีมๆ หน่อยๆ ผมว่าใส่ชีสเข้าไปแล้ว เข้ากันอยู่นะครับ อร่อยดีครับ

ยังไม่หมดครับ ห้าๆๆๆ มาเต็มจริงๆ ครับ จานนี้ผัดซีอิ้วเส้นขนมจีน และผัดกระเพราเส้นขนมจีนครับ ราคาจำไม่ได้เหมือนกันครับ

ส่วนของทั้งสองจานรสชาติกลมกลอมตามสไตล์ผัดซีอิ้วและผัดกระเพราครับ

ส่วนของเส้นขนมจีนนุ่มทำให้น้ำเครื่องปรุงเข้าเส้น อร่อยตรงนี้ครับ กินเส้นก็ยังได้รสชาติของผัดซีอิ้วและผัดกระเพราครับ ^^

ปิดท้ายของผม ข้าวซอยเนื้อน้ําขลุกขลิก ราคา 60 บาท อร่อยมากๆ ครับ น้ำเค้าเข้มข้น เนื้อเปื่อย อร่อยมากๆ เลยครับ

ชอบ ชอบ อยากกินอีกซักชาม แต่เมนูที่ผ่านๆ มาก็จะกินกันไม่หมดแล้วครับ ห้าๆๆๆ

อิ่มท้องพร้อมเที่ยวต่อ เดินย่อยกันซักหน่อยนะครับ จัดหนักมากครับ เกือบทุกเมนู ห้าๆๆๆๆ

วัดที่ 5 ของวันนี้ วัดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุประจำคนเกิดปีเถาะหรือปีกระต่าย ใครเกิดปีเถาะแนะนำให้ไปไหว้กันครับ แอบเสียดายหน่อยนึง ช่วงที่ผมไปกำลังซ่อมบำรุงครับ ถ่ายรูปออกมาเลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ครับ

วัดสุดท้ายของวันนี้ จัดหนักนิดนึงครับ

ไหว้พระ ทำบุญ จุดเทียนเสริมดวง สะเดาะเคราะห์ และตัดด้ายสายสิญจน์ ให้พระทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ครับ

ผมเพิ่งเคยเห็นการทำเทียนเสริมดวง สะเดาะเคราะห์ ครั้งแรกที่นี่เลยครับ

เมื่อก่อนเคยคิดว่าทำไมต้องแยก วันเกิด ทำไมต้องแยกปีเกิด ความลับอยู่ที่ตรงนี้นี่เองครับ

ไส้เทียนเป็นยันต์ที่ไม่เหมือนกันนี่เองครับ

การทำต้องตัดยันต์และไส้เทียนมาเป็นแบบนี้ก่อนครับ

แล้วค่อยเอาเทียนมาพันครับ

แอบ Tie-in การทำเทียนกันนิดนึงครับ พอดีผมเพิ่งเคยเห็นครับ ห้าๆๆๆ เลยเอามาแชร์ครับ ^^

สำหรับที่ภาคเหนือ ผมไม่แน่ใจว่าที่อื่นมีรึปล่าวนะครับ ช่วงปีใหม่จะมีพิธีเสริมดวง สะเดาะเคราะห์ครับ

ส่วนของพิธีก็จะมีให้เราไปนั่งแล้วเอาสายสายสิญจน์คล้องที่หัวครับ

ถ้าตัวไปไม่ได้ฝากเสื้อผ้าไปทำได้ครับ แต่ถ้าเราไม่มีใครไปเลย ก็จะมีการตัดสายสิญจน์ไว้ให้พระทำพิธีสะเดาเคราะห์ให้ได้ครับ

ส่วนของการตัดสายสิญจน์ฝากให้พระทำพิธีสะเดาเคราะห์ เราจะวัดความยาวสายสิญจน์เท่าความสูงเรา 1 เส้น ความยาวเท่าวาของเรา 1 เส้น และความยาวรอบหัวเรา 1 เส้นครับ มัดเป็นปมและโยนไว้ตรงนี้ครับ

วันที่เค้าทำพิธีเสริมดวง สะเดาเคราะห์ก็จะนำสายสิญจน์นี้ไปทำพิธีด้วยครับ

อิ่มบุญมากๆ ครับ ทริปนี้ จริงๆ ถ้าเน้นวัดไปเลย ไหว้พระ 9 วัด ผมว่าก็ทันนะครับ

วัดส่วนใหญ่อยู่ไม่ไกลกันครับ วัดเยอะมากครับที่น่านะครับ ผมให้ List วัดไว้นะครับ

เผื่อใครอยากจะลองไปไหว้พระ 9 วัดที่จังหวัดน่านครับ

1. วัดหัวช่วง 2. วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร 3. วัดภูมินทร์ 4. วัดมิ่งเมือง 5. วัดศรีพันต้น 6. วัดอภัย 7. วัดพระธาตุเขาน้อย 8. วัดพญาภู 9. วัดพระธาตุแช่แห้ง

ส่วนของวัดทั้งหมดที่ผม List มานี้เป็นวัดดังและเรียงตามลำดับครับ ไม่วกไปวนมาครับ เอาไปใช้กันได้ครับผม ^^

🙏🏻 🙏🏻 🙏🏻

อิ่มบุญแล้ว ก็มาอิ่มท้องกันต่อนะครับ

อย่างที่ผมบอกไปเมื่อตอนไปร้านขนมป้านิ่ม ตอนนี้มีร้านขนมป้านิ่ม (บริหารโดยลูกป้านิ่ม) แล้วนะครับ อยู่ในตัวเมืองเลยครับ

เดี๋ยวผมไปลองชิมให้นะครับ ว่าอร่อยเหมือนของป้านิ่มออริจินอล รึปล่าวครับ ห้าๆๆๆ

ส่วนของร้านป้านิ่มสาขานี้เพิ่งเปิดก่อนผมมาแค่ 2 วันเองครับ ใหม่มากครับ

คนยังไม่ค่อยมีเลยครับ เงียบๆ ครับ อาจจะเพราะผมมาช่วงบ่ายรึปล่าวไม่แน่นใจนะครับ แต่ระหว่างที่ผมกินอยู่ไม่มีคนมาเลยครับ

ได้มาแล้วครับ ขนมที่สั่งไปทั้งหมดครับ

ชามนี้ของผมครับ ไอติมบัวลอย 50 บาท ราคาเท่าป้านิ่มออริจินอลเลยครับ

ส่วนของรสชาติผมว่าก็เหมือนกันเลยครับ ทั้งไอติมและบัวลอยครับ ผมว่าป้านิ่มคงทำใส่ถุงแล้วกระจายมาครับ แต่อย่างนึงที่ผมไม่ชอบและคิดว่าทำให้อรรถรสในการกินและรสชาติเปลี่ยนไปนิดนึงก็คือ ช้อนไม้และถ้วยกระดาษครับ

ผมว่ามันรู้สึกแปลกๆ ครับ

ถ้าได้ถ้วยกระเบื้องผมว่าไม่ต่างเลยครับ แค่ไม่เจอป้านิ่มครับ ห้าๆๆๆ

ระหว่างทางไปสนามบิน ยังพอมีเวลาครับ

พี่คนขับรถตู้ขอนำเสนออีก 1 คาเฟ่ ร้านกาแฟน่าน สำหรับคนชอบดื่มกาแฟครับ “เฮือนฮังต่อ” ครับผม

ส่วนของร้านนี้บรรยากาศดีมากๆ เลยครับ ร่มรื่นมากครับ มีที่นั่งให้นั่งเยอะครับ

โต๊ะแบบ Open Air ด้านหน้า

นั่งชมดอกไม้ด้านหลัง

ด้านข้างก็ยังมีที่นั่งครับ

ส่วนของชั้น 2 ก็ยังมีที่นั่งนะครับ ตรงนี้ให้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเลยครับ

มาดื่มกาแฟที่นี่ก็เหมือนได้ช่วยชาวน่าน ชาวสวน ครับ ดีจังครับ

ที่ผมบอกว่า ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟ ก็เพราะมุมนี้เลยครับ

ทางร้านมีกาแฟให้เลือกหลากหลายแบบมากครับ พร้อมบอกรายละเอียดกาแฟแต่ละชนิดครับ คอกาแฟไม่ผิดหวังครับ ^^

วันนี้กินกันมาทั้งวันครับ จัดเบาะ 4 แก้ว 7 คนครับ มาทั้งน้ำผลไม้ ชา กาแฟ ครับผม

ได้เวลาเช็คอินกันแล้วครับ…

ส่วนของเฮือนฮังต่อ อยู่ไม่ไกลจากสนามบินครับ เช็คอินบินกลับกรุงเทพกันครับผม #ยังอยากเที่ยวอยู่เลย

สำหรับการรีวิวทริปน่านเนิบๆ 3 วัน 2 คืน บินไป…ใช้ชีวิตแบบ Slow Life รับลมหนาวเมืองน่าน-บ่อเกลือ-ปัว ไหว้พระทำบุญรับปีใหม่ อันแสนจะยาวววว จบซักทีครับ ห้าๆๆๆๆ เขียนรีวิวเกือบอาทิตย์เลยครับ ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ผมนับถือเลยครับ ปรบมือให้เลยครับ ห้าๆๆๆ ก่อนจะไปผมสรุปการเดินทางของทริปนี้ให้ก่อนดีกว่านะครับ เผื่อใครอยากเอาทริปผมไปปรับหรือตามรอยเที่ยวน่านตามแพลนของผมครับ ^^

วันที่ 1 ของการเดินทาง

08.10 – 9.25 น. บินจากกรุงเทพไปน่านเนิบๆ
09.25 – 10.00 น. แวะกินต้มเลือดหมูเลิศรส
10.00 – 13.00 น. เดินทางไปบ่อเกลือสินเธาว์ ระหว่างทางแวะชมวิวดื่มกาแฟที่เดอะวิวกิ่วม่วง และลงถ่ายรูปโค้งเลข 3 คนแน่นๆ ห้าๆๆ
13.00 – 14.00 น. กินมื้อกลางวันที่ ร้านหัวสะพาน
14.00 – 16.30 น. เดินทางไปเช็คอินที่น่านนิรันดร์ ระหว่างทางแวะ 1715 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ถ่ายรูป ชมวิว กินพิซซ่าดอย กันหน่อยครับ
16.30 – 17.30 น. พักผ่อนตามอัธยาศัย
17.30 – 18.30 น. เดินถนนคนเดินปัว
18.30 – 22.00 น. กลับไปกินหมูกระทะ ปาร์ตี้ นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ z Z z z… ครับ

วันที่ 2 ของการเดินทาง

07.00 – 08.00 น. ตื่นนอน อาบน้ำแปลงฟัน
08.00 – 09.00 น. กินข้าวเช้าที่โรงแรมที่พัก
09.00 – 10.30 น. เดินทางไปไหว้พระ ทำบุญ ถ่ายรูปเล่นภายในวัดศรีวัดศรีมงคล (ก๋ง) และร้านกาแฟฮักน่านหลังวัดครับ
10.30 – 12.00 น. เดินทางไปกาแฟบ้านไทลื้อ ถ่ายรูปเล่น ดื่มกาแฟ ช็อปปิ้งผ้าพื้นเมือง ร้านลำดวนผ้าทอ
12.00 – 13.00 น. กินมื้อกลางวันที่ ครัวมุกดา
13.00 – 15.30 น. ทัวร์สวนโกโก้ + Workshop ทำช็อคโกแล็ต ที่ COCO VALLEY นั่งคาเฟ่กินน้ำโกโก้สด
15.30 – 17.00 น. เดินเข้าตัวเมืองน่าน เช็คอินเข้า บ้าน 24 มหาพรหม พักผ่อนตามอัธยาศัย
17.00 – 18.30 น. กินมื้อเย็นที่ ร้านเรือนเจ้านาง
18.30 – 19.00 น. กินขนมหวาน ร้านของหวานป้านิ่ม
19.00 -20.30 น. เดินเล่นถนนคนเดินหน้าวัดภูมินทร์ แวะไปดูภาพ กระซิบรักบันลือโลก กลับบ้านพัก นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ z Z z z… ครับ

วันที่ 3 ของการเดินทาง

06.00 – 07.00 น. ตื่นนอน อาบน้ำแปลงฟัน ปั่นจักรยานเล่น ถ่ายรูปหน้าวัดภูมิทร์ ซุ้มลีลาวดี
07.00 – 08.30 น. ใส่บาตรพระหน้าบ้านพัก กินมื้อเช้า ชิลๆ หน้าบ้านพัก
08.30 – 09.30 น. เช็คเอ้า ออกเดินทางไปวัดศรีพันต้น ชมโบสถ์สีทอง จิตรกรรมปูนปั้นพญายาคเจ็ดเศียร
09.30 – 10.30 น. เดินทางไปไหว้พระชมวิว วัดพระธาตุเขาน้อย
10.30 – 11.30 น. ชิลๆ ดื่มกาแฟ บ้านนาก๋างโต้ง ที่พักและคาเฟ่สวยๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ
11.30 – 12.30 น. เดินทางมาสักการะเสาหลักเมืองน่าน ที่วัดมิ่งเมือง เดินต่อไปถ่ายรูปซุ้มลีลาวดีที่หน้าวัดภูมินทร์
12.30 – 13.30 น. กินมื้อกลางวันที่ บ้านข้าวซอย อาหารเหนือฟิวชั่นหน่อยๆ แบบออริจินอลก็มีนะครับ
13.30 – 14.30 น. เดินทางไปไหว้พระ เสริมดวง สะเดาเคราห์ ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง วัดประจำคนเกิดปีเถาะหรือปีกระต่ายครับ
14.30 – 15.00 น. กินขนมป้านิ่มสาขาใหม่ บริหารโดยลูกป้านิ่ม
15.00 – 16.30 น. นั่งจิบกาแฟร้านเฮือนฮังต่อ กาแฟน่าน เวลายังพอมีก่อนเข้าไปเช็คอิน
16.30 – 17.50 น. เดินทางกลับกรุงเทพ

ประมาณนี้เลยครับ ทริปเที่ยวน่านของผม 3 วัน 2 คืนครับ ลองเอาไปปรับใช้ดูกันได้ครับ ^^

ฝากกด Like ติดตามเรื่องราวของผมบน Facebook ด้วยนะครับ ปล.อย่าลืมกด Follow และ See First Page ด้วยน้า ใครที่ชอบเที่ยวฟรี กินฟรี ผมแจกของบ่อยอยู่น้า ^^