ช่วงนี้ผมบินบ่อยมากๆ ครับ สิ้นปีของเที่ยวคลายเครียดหลังจากเหนื่อยมาทั้งปีซักหน่อยครับ มีหลายๆ ประเทศที่เราสามารถไปที่ได้แบบ 2 วัน 1 คืนครับ อย่างรีวิวนี้ ผมเดินทางไปเที่ยวมาเลเซียมาครับ 2 วัน 1 คืน เดินทางแป๊บๆ สะพายเป้ Carry on กระเป๋าขึ้นเครื่องได้เลยครับ ^^ ปล. เฉพาะผู้ชายป่าวครับ ห้าๆๆๆๆๆ ผู้หญิงอาจจะกระเป๋าใหญ่หน่อย ห้าๆๆๆๆ การเดินทางของผมรอบนี้ ผมเดินทางไปที่ เมืองมะละกา และปุตราจาย่าเมืองหลวงใหม่ของมาเลเซียครับ การเดินทางของผมครั้งนี้เหมือนกับการไป Check in อีก 1 ประเทศของผมครับ ไปเที่ยวให้เห็นภาพก่อนครับ ถ้าน่าสนใจค่อยไปเจาะลึกกันอีกทีเนอะๆๆๆ
ก่อนจะไปดูว่าผมไปเที่ยวที่ไหนบ้างผมแนะนำนิดนึงครับ สำหรับใครที่ชอบการเดินทางชิลสบายๆ เหมือนผมครับ ครั้งนี้ผมบินด้วยสายการบินไทยครับ จองผ่านแอพลิเคชั่นของ Traveloka (เช็คราคา จองตั๋วเครื่องบินไปมาเลเซีย www.traveloka.com/th-th/flight-to-malaysia เผื่อใครสนใจตามรอยครับ) และตอนนี้เรายังสามารถที่จะทำการเช็คอินออนไลน์ผ่านทางแอพลิเคชั่นของ Traveloka ได้แล้วด้วยนะครับ ดีจัง ไม่ต้องรีบ เหลือเวลาชิลๆ ก่อนขึ้นเครื่อง นั่งเลานจ์กินอาหารให้อิ่มแป้ ห้าๆๆๆๆๆ ประหยัดเวลาได้เยอะครับ สำหรับใครที่ไม่ต้องโหลดกระเป๋าเหมือนผมครับ สะดวกๆ ทำให้การเดินทางของผมง่ายสะดวกสบายขึ้นเยอะครับ ^^
ส่วนของการเช็คอินไม่ยากครับ เข้าไปดูรายละเอียดได้จากลิงค์นี้เลยครับ (www.traveloka.com/th-th/checkin)
ขึ้นเครื่องแล้วก็ลุยกันเล้ย… รอบนี้ผมไปกัน 3 คนครับ พี่ชาย แม่ และผมเองครับ
พร้อมลุย…
เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้วจ้า สนามบินกัวลาลัมเปอร์ พอเดินทางไปถึงก็ไปเที่ยวกันเลยเนอะ
ที่แรกที่เราต้องไปพลาดไม่ได้ เป็นเหมือน Landmark ของเมเลเซียเลยก็คือ…
ตึกแฝดปิโตรนาส (Petronas Twin Tower) ตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลกครับ สูงถึง 452 เมตร ครับผม
ใครไปที่นี่ก็ต้องถ่ายรูปแบบด้านล่างนี้ครับ ห้ามพลาด
สำหรับใครที่มี iPhone 11 น่าจะไม่มีปัญหากับการถ่ายที่นี่แน่นอนครับ ส่วนใครไม่มีไม่ต้องกลัวนะครับ ว่าจะไม่ได้รูปแบบนี้ครับ แถวนั้นมีเลนส์ไวด์ขายเพียบเลยครับ แต่อาจจะแพงหน่อย ถ้าไม่อยากซื้อแพงๆ แนะนำว่าให้ซื้อจากไทยครับ เตรียมตัวกันไว้ก่อนเลย ห้าๆๆๆ
ถ่ายตึกแฝดกันเสร็จก็ได้เวลาที่เราจะไปดูสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีสกันแล้วครับ
บ้านเมืองสถาปัตยกรรมจะคล้ายๆ กับภูเก็ตบ้านเราครับ
เมืองที่ผมเดินทางมานี่คือ เมืองมะละกา (Malaca) เมืองนี้เป็นมรดกโลกครับ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก(WHS) ในปี ค.ศ. 2008 ครับ ที่นี่เป็นเมืองในประวัติศาสตร์ครับ เป็นศูนย์กลางการค้าแห่งโลกตะวันออกครับ
ย่านนี้เค้าจะเรียกกันว่าดัทซ์สแควร์ ไฮไลท์ของย่านนี้ก็คือ… โบสถ์เซ็นต์ปอล ป้อมปืนเอฟาโมซ่า เรือรบโบราณ และสามล้อเมืองมะละกา นั่นเองครับ แต่เดี๋ยวนี้สามล้อเมืองมะละกาเปลี่ยนไปเยอะมากครับ ตกแต่งเป็นด้วยการ์ตูน
แอบเสียดายนิดหน่อยครับ ^^
อ้อสำหรับย่านนี้ถ้าใครพอมีเวลาเค้าจะโซนบ้านเรือนโบราณครับ พอดีผมเวลาน้อยครับ เลยไม่ได้เดิน แต่ขับรถผ่านครับ
เดินเล่นชิลๆ กันได้นะครับ สวยมากครับ ถ่ายรูปออกมาแจ่มแน่นอนครับ
เห็นเค้าบอกว่าบางวันมีเหมือนถนนคนเดินด้วยครับ
แต่ช่วงที่ผมไปไม่ตรงกับวันนั้นครับ เลยอดเลยเลย T_T ไม่เป็นไรเดี๋ยวมาเก็บใหม่ ใกล้นิดเดียว ห้าๆๆๆ
ตอนสมัยเด็กๆ ตอนเรียนอยู่หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ ช่องแคบมะลากาเหมือนผมใช่ป่าวครับ
ถ้าขึ้นมาบริเวณนี้จะพอเห็นช่องแคบมะละกาครับ
ช่องแคบมะละกาจะอยู่ทางด้านขวามือครับ ถัดจากเสาสูงๆ นั่นมานิดนึงครับ
ส่วนของเมืองมะละกา ถ้าใครชอบสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส ผมแนะนำเลยครับ
แต่อาจจะต้องเดินกันนิดนึงนะครับ จะได้เข้าถึงสถานที่ต่างๆ ได้ครับ
ในเมืองนี้ก็จะมีเรื่องรวมของประวัติศาสตร์เต็มไปหมดครับ มีทั้งภาพฝาฝนัง ทั้งอนุสาวรีย์ ร่องรอยจากสงคราม เดินกันได้ยาวๆ เลยครับ
หลังจากนั้นก็ต้องมาแวะที่นี่กันหน่อยครับ
อาคารสุลต่านอับดุลซามัด (Sultan Abdul Samad Building) เป็นอีกจุดนึงที่คนชอบมาถ่ายรูปครับ
จุดเด่นก็คือหอนาฬิกาที่คล้ายๆ กับ Big Ben ที่ประเทศอังกฤษครับ
อีกเมืองนึงที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ…
เมืองปุตราจาย่า (Putrajaya) เมือง หลวงใหม่ของมาเลเซีย ซึ่งส่วนของหน่วยงานราชการได้มารวมกันไว้ที่นี่ครับ ที่น่าชมก็คือ มัสยิดประจำรัฐใหม่ที่มีความสวยงามมากๆ ครับ ที่นี่มีสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะเฉพาะ จนได้ชื่อว่า “นครอุทยาน” หรือ “นครปัญญาชน” ครับผม
ผมว่าสวยมากๆ ครับ ที่นี่ ^^
ก่อนที่จะกลับไปขึ้นเครื่องผมแอบแวะไปที่นี่ครับ เป็นมัสยิดที่อยู่กลางน้ำครับ คือส่วนนี้ เป็นส่วนของเมืองใหม่ที่เค้าถมทะเลเพื่อสร้างเมืองใหม่ครับ (ถ้าข้อมูลไม่ผิดพลาดน้า) ส่วนตรงนี้ก็จะมีการสร้างตึกพอสมควรครับ แต่ยังไม่ค่อยมีคนอยู่เท่าไหร่ครับ แต่มัสยิดนี้ต้องห้ามพลาดครับ เป็นมุมที่สวยมากๆ ครับ มัสยิดริมทะเล ยื่นไปในทะเลสวยจริงๆ ครับ
ส่วนของการรีวิวมาเลเซีย 2 วัน 1 คืน ผมของจบไว้ที่ตรงนี้ก็แล้วกันเนอะ ใครอยากได้รายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติม เดี๋ยวผมรีวิวแบบลงประวัติศาสตร์ให้อ่านกันอีกทีเนอะ ^^ ประวัติศาสตร์ยาวนานมากๆ ครับ แต่อยากจะบอกว่ามีเวลา 2 วัน หยุดเสาร์อาทิตย์ก็ไปเที่ยวมาเลเซียได้นะครับ บรั๊ย บายยยยยย
