ฟินเวอร์ เหมือนกินโอมากาเสะและบุฟเฟ่ต์เนื้อวากิวในเวลาเดียวกัน เมื่อร้าน Omakase แนวหน้าของไทย x ผู้นำเข้า “เนื้อวัวบาบะ” จากฟาร์มบาบะกิว เมืองคาคุตะ จังหวัดมิยากิ ที่ TORA Yakiniku x Cafe คุ้มบอกเลย

1 min read

สำหรับรีวิวนี้ ผมเหมือนได้กินโอมากาเสะ พร้อมบุฟเฟ่ต์เนื้อวากิวไม่อั้นเลยครับ เมื่อร้านโทระยากินิคุคาเฟ่ (TORA Yakiniku x Cafe) เค้ามีโปรเจคพิเศษ “ROYAL BUFFET” Out of the Ordinary เปิดประสบการณ์ใหม่ ด้วยเมนูอาหารตำรับจักรพรรดิ ที่รวมวัตถุดิบชั้นยอดจากทั่วประเทศญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์กินบุฟเฟ่ต์ระดับ Premium ที่ร้านบุฟเฟ่ต์สไตล์ Modern Yakiniku โดยจะเป็นการ Collaboration กับ Sushi Olderchef ร้านโอมากาเสะสไตล์ Edomae ยอดนิยมระดับแถวหน้าของประเทศไทย และเชฟฮาระจาก Nexus ผู้นำเข้าเนื้อ “วากิวบาบะ” จากฟาร์มบาบะกิว เมืองคาคุตะ จังหวัดมิยากิ เพียงรายเดียวในประเทศไทย

ส่วนของแบรนด์ Sushi Olderchef ก่อนตั้งโดยเชฟแก่ ผู้ซึ่งมีความมุ่งมั่นนำเสนออาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ที่มีการนำอาหารชั้นสูงแบบ Kaiseki และ Sushi ผสมผสานเข้าด้วยกัน เน้นการดึงรสชาติของวัตถุดิบดั้งเดิมให้มากที่สุด ปรุงแต่งน้อยดังคำกล่าวที่ว่า “Simply is the best” ซึ่งได้ยึดถือแนวทางนี้มาจนถึงปัจจุบัน จำทำให้ Sushi Olderchef ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นร้าน Omakase ยอดนิยมระดับแนวหน้าของเมืองไทย

ส่วนของ Hara Noriyoshi ผู้มีประสบการณ์ด้านเนื้อวากิวกว่า 25 ปี ร่วมกับบริษัท Nexus ผู้นำเข้า “เนื้อวัวบาบะ” จากฟาร์มบาบะกิว เมืองคาคุตะ จังหวัดมิยากิ เป็นเนื้อที่มีสีชมพูอ่อน คุณภาพเนื้อมีความละมุนและความฉ่ำของไขมันคุณภาพดี มาจากวัวที่ขุนด้วย ข้าว ขนมปังและน้ำบาดาลที่อุดมสมบรูณ์ ควบคุมด้วยผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ฟูมฟักอย่างดีจนเป็นวากิวลายหินอ่อนที่ดีที่สุดของเมือง เป็นงานเพาะเลี้ยงที่ยากจึงทำให้มีวัวประมาณ 50 ตัวต่อเดือนเท่านั้น ที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับ A5 และมีคะแนน BMS10 คะแนนขึ้นไป ซึ่งบริษัท Nexus เป็นผู้นำเข้ารายเดียวในประเทศไทย

การบริการ Premium สุดๆ ครับ ให้บริการในรูปแบบ Chef’s Table ด้วยเชฟมากประสบการณ์ โดยจะมีโซน VIP สำหรับลูกค้าคนพิเศษ 12 ท่านต่อรอบ ให้เลือกทานเมนูที่ชื่นชอบได้ในระยะเวลา 120 นาทีเต็มครับ คุ้มมากครับ บอกเลย

นอกจากจะเมนูพิเศษแล้ว ลูกค้ายังสามารถเลือกทานเมนูในบุฟเฟต์ปกติทั้งหมดของทางร้านอีก 125+ รายการได้อีกด้วยครับ มาครับเดี๋ยวผมพาไปดูเมนูพิเศษกันก่อนเลยครับ

ส่วนของโปรเจคพิเศษ “ROYAL BUFFET” จะมีเฉพาะที่สาขา Lasalle’s Avenue (ถ.ลาซาล-แบริ่ง) นะครับ

ส่วนของที่นั่งก็สะดวกสบายครับ

พอเข้ามาถึงก็ได้ฟิวเหมือนกินโอมากาเสะเลยครับ มาพร้อมเมนู 16 คอร์ส ว่าเราจะได้กินเมนูพิเศษอะไรบ้าง

แต่เราไม่ได้กินได้แค่นี้นะครับ ยังสามารถสั่งเมนูเพิ่มเติมได้อีกครับ

ส่วนของซอสก็มีให้เลือกเยอะเลยครับ น้ำจิ้มเนื้อ น้ำจิ้มซีฟู้ด โชยุสูตรพิเศษ เกลือหิมาลายัน พริกไทยดำ แถมในแต่ละเมนูยังมีซอสพิเศษสำหรับ เนื้อชนิดนั้นๆ เพิ่มเติมมาให้อีกครับ

ส่วนของซูชิของที่นี่ จะเป็นซูชิที่ปรุงมาให้แล้วครับ ทางร้านแนะนำไม่ต้องจิ้มอะไรเพิ่มครับ

เริ่มกันที่เครื่องดื่มกันก่อนเลยครับ ถ้าเรามาด้วยคอร์ส “ROYAL BUFFET” เครื่องดื่มทั้งหมดสั่งได้ครับ

วันนี้ผมเลยจัดเพิ่มกับ… เก๊กฮวยพีช และ ลิ้นจี่โรสโซดา ครับ

…เข้าเมนูพิเศษของ “ROYAL BUFFET” กันเลยดีกว่าครับ นี่มันมากินโอมากาเสะ ชัด ชัด ห้าๆๆๆ

เปิดต่อมรับรสก่อนเริ่มมื้ออาหารด้วย Yusu Sparkling ใช้ Yozu จากจังหวัดโททุชิมะ เติมความสดชื่นด้วยสปาร์คกลิ้ง

สดชื่นมากกกกครับ พร้อมแล้วครับกับเมนูต่อไป…

(Limited 1 เสิร์ฟ/ท่าน)

ต่อกันที่ อาหารเรียกน้ำย่อยชั้นสูง ซึ่งนิยมรับประทานในพิธีชงชาสมัยโบราณของญี่ปุ่น ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลญี่ปุ่น มารังสรรค์ในแบบโอมากาเสะ

(Limited 1 เสิร์ฟ/ท่าน)

เสิร์ฟมาทั้งหมด 4 เมนู ก็คือ…

  1. สาหร่ายโมสุกุสามรส สาหร่ายทะเลจากแดนใต้ของจังหวัดโอกินาว่า สดชื่นเหมาะสำหรับการเริ่มต้นมื้ออาหาร ผมชอบมาก
  2. มะเขือเทศดอง มะเขือเทศญี่ปุ่นคัดพิเศษ นำเอาเปลือกออกแล้วดองให้รสชาติหวานกลมกล่อมทานแล้วสดชื่น
  3. ถั่วแระญี่ปุ่นทอดไส้เมนไทโกะชีส ถั่วแระญี่ปุ่นสอดไส้ไข่ปลาเมนไทโกะชีส นำมาคลุกเกล็ดขนมปัง กรอบนอก นุ่มชีสด้านในดีงามมากครับ ต้องลอง ผมเพิ่งเคยกินที่นี่ครั้งแรกเลยครับ
  4. โมนากะมูส ปลาแซลมอนรมควัน เวเฟอร์สไตล์ญี่ปุ่นทำจากข้าวญี่ปุ่น ทานคู่กับมูสปลาแซลมอนรมควันและท็อปปิ้งด้วยไข่ปลาแซลมอน นุ่มละมุนครับผม

เมนูต่อมา… Wagyu Sando แซนด์วิชเนื้อวากิว A5 สไตล์โอมากาเสะ ตัดใช้เฉพาะแกนของเนื้อส่วน Zabuton ทานคู่กับซอสสูตรพิเศษและขนมปังโฮมเมดย่างเนย

(Limited 1 เสิร์ฟ/ท่าน)

ขนมปังกรอบนอกนิดๆ เนื้อด้านในนุ่มอร่อย เข้ากันมากก

ส่วนของเมนูต่อไปนี้ทางร้านจะมีทั้งหมด 9 เมนู แต่เชฟจะเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดมาเสิร์ฟวันละ 7 เมนู ครับ

นำเสนออาหารญี่ปุ่นรูปแบบ Authentic คือ “วัตถุดิบตามฤดูกาล” ตัวแทนของฤดูกาลญี่ปุ่น เพื่อให้ได้สัมผัสรสชาติของอาหารญี่ปุ่นที่แท้จริงโดยในส่วนของซูชิเนตะ หรือหน้าซูชิปลาตามฤดูกาลนั้น มีวัตถุดิบที่น่าสนใจใจช่วงฤดู Spring-Summer คือ ปลามากุโระ (อากะมิ, ซูโทโร่ และโอโทโระ), กุ้งหวานชิโระเอบิ, ปลาทูหางแข็งญี่ปุ่น, ปลามาได, ปลาหมึกหิ่งห้อย เป็นต้น

สำหรับเมนูที่ผมได้มาวันนี้จะมี… Sashimi Chutoro เนื้อส่วนท้องช่วงหลังของปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Hon Maguro) เป็นส่วนที่มีไขมันปานกลาง เหมาะสำหรับทานแบบซาชิมิ กินแล้วละมุน นุ่ม ละลายในปาก ฟินมากกกกครับ

ต่อกันที่ซูชิ 3 คำ ได้แก่…

Otoro เนื้อส่วนท้องของปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Hon Moguro) เป็นส่วนที่มีไขมันมาก ถือว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุด, Shima Aji ปลาทูหางแข็งญี่ปุ่น เนื้อจะมีความกรุบกรอบ หวานมัน ทานพร้อมกับเนงิโอโรชิ ผสมผสานด้วยโชยุสูตรพิเศษ และ Madai ปลากระพงแดงญี่ปุ่น นิยมมอบกันในงานมงคล นำไปบ่มให้เนื้อหวานฉ่ำ ดึงรสชาติด้วยเกลือและมะนาว ครับ

ส่วนของ ข้าวซูชิ ทางร้านใช้ข้าวสวยสายพันธุ์โคชิฮิคาริ จากเมืองนิงาตะ ผสมกับน้ำส้มหมักจากกากสาเก ปรุงรสเปรี้ยวหวานแบบโบราณ ทานคู่กับ Tosa Shoyu โชยุที่ปรุงขึ้นมาแบบพิเศษ สำหรับทานโอมากาเสะ จะทำให้รสชาติครบองค์ประกอบ 5 อย่าง คือ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม อูมามิ ที่กลมกล่อมลงตัว รสชาติดี เข้ากับปลาที่เสิร์ฟมากครับ ชอบ ชอบ

เมนูต่อมา… Saba Bou Sushi ซูชิแบบโบราณ ซาบะดองด้วยน้ำส้มสายชูหมักจากกากสาเกย่างด้วยถ่านไม้ญี่ปุ่นบินโจตัน ห่อด้วยสาหร่ายโนริจากซากะ สาหร่ายกรอบ ซาบะดองหอม ดองมารสชาติกำลังดีเลยครับ

ส่วนเมนูนี้ Shiro Ebi กุ้งหวานสีขาวตัวจิ๋วจากโทยามะ ตัวแทนต้นฤดูร้อนญี่ปุ่น เพิ่มมิติรสชาติด้วยผิวส้มยูสุและเกลือจากโอกินาว่า เคี้ยมมัน เคี้ยวนุ่ม เคี้ยวเพลินแป๊บเดียวหมดซะแล้ว ห้าๆๆๆ

ส่วนเมนูนี้ หลายๆ คนน่าจะเคยกินมากันบ้างแล้วเนอะ Hotaru Ika ปลาหมึกหิ่งห้อยเรืองแสง ตัวแทนแห่งฤดูใบไม้ผลิหมักด้วยมิโสะไซเคียวแบบโบราณ ทานคู่กับซอสคิมิสึสูตรพิเศษ ปลาหมึกนุ่มจิ้มมิโสะหน่อย อร่อยเลยครับ

…มาถึงเมนูที่ เสิร์ฟไม่อั้น กันบ้างนะครับ สั่งได้เรื่อยๆ ครับ

เมนูแรก A5 Wagyu Sishi เนื้อส่วนสันคอเบิร์นไฟ ท็อปปิ้งด้วยอูนิและคาเวียร์ ผสานรสชาติด้วยซอส Teriyaki สไตล์คันไซ อร่อยมาก ท็อปด้วยอูนิและคาเวียร์เพิ่มความละมุน มันๆ นัวๆ ครับ

สายเนื้อดิบ ต้องลอง !!! Truffle Wagyu Yukke ยำเนื้อดิบสไตล์ญี่ปุ่น ใช้เนื้อวากิว A5 คลุกกับซอสทรัฟเฟิลและไข่แดงออร์แกนิค เพื่อเพิ่มความอูมามิ เนื้อละมุน รสชาติกำลังดีหอมทรัฟเฟิลขึ้นจมูกนิดๆ ดีงามครับ

สายเนื้อดิบกันอีกซัก 1 เมนู เมนูนี้ก็คือ… Royal Nike Dress เนื้อส่วนสะโพกแล่บาง เป็นส่วนที่นิยมทานแบบดิบ เสริมรสชาติด้วยไข่ปลาแซลมอนและอูนิ ทานคู่กับซอส Gyu Tare สูตรพิเศษ เนื้อดิบกินกับไข่ปลาแซลมอน เด็ดเลยครับ ข้าวก็จะเป็นข้าวเหมือนของซูชิครับ มีรสชาติหน่อยๆ เวลากิน ตักข้าวท็อปด้วยเนื้อปาดวาซาบิลงไปหน่อย ไข่ปลาแซลมอนนิด ฟินตรงนี้ครับ

ต่อกันที่เนื้อวากิวปิ้งย่างกันบ้างนะครับ

ส่วนของจานนี้ A5 Wagyu Nakaochi Karubi เนื้อส่วนรองซี่โครง ตัดแบบญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มรสสัมผัสเวลาเคี้ยว เนื้อจะมีความนุ่มและความกรุบกรอบจากเอ็น ทานคู่กับซอส Red Miso สูตรพิเศษ คนที่ชอบเคี้ยวหน่อย ต้องชอบครับ

อ้อ… จานนี้แนะนำให้จิ้ม Red Miso ที่เค้าให้มานะครับ จะอร่อยมากครับ แนวเกาหลีนิดๆ ครับ

จานนี้ A5 Wagyu Toksen Harami เนื้อบริเวณหน้าท้อง อยู่ใกล้กับกระบังลม เป็นส่วนที่มีความอร่อยผสมผสานของไขมันและเนื้อแดงที่เข้มข้น ทานคู่กับซอส Lemon Tare สูตรพิเศษ เนื้อส่วนนี้จะได้กลิ่นเนื้อเพิ่มขึ้นหน่อยครับ

เนื้อส่วนนี้ฟินมากกกกกกครับ บอกเลย แนะนำให้ทางร้านย่างให้นะครับ เค้าจะมีวิธีย่างให้อร่อย เดี๋ยวมีให้ดูด้านล่างครับ

เนื้อส่วนหน้าติดกับหน้าอกยาวลงมาถึงท้อง รสสัมผัสติดมันชุ่มฉ่ำ ไขมันสไลด์บางทานกับไข่ดองซอสสวิทโชยุ ย่างแล้วเนื้อนุ่มละมุน เคี้ยวแล้วฟินมาก ไข่ช่วยเพิ่มรสชาติอร่อยไปอีกครับ

ปิดท้ายความ Premium ของโปรเจคพิเศษ “ROYAL BUFFET” กันด้วย Tora Royal Box เซ็ตเนื้อวากิว 4 ชนิด จากฟาร์มระดับตำนานของออสเตรเลีย เพลิดเพลินกับเนื้อวากิวคัดพิเศษแต่ละส่วน แนะนำให้สั่งเป็นเซตแบบนี้มาก่อนครับ ชอบส่วนไหนเป็นพิเศษค่อยสั่งเพิ่มเติมครับ

เนื้อวากิวนี้มาจากฟาร์ม Margaret River ฟาร์มที่มีชื่อเสียงมานานตั้งแแต่ปี 2003 ด้วยการเลี้ยงแบบออร์แกนิค ปลอดฮอร์โมนและยาปฏิชีวนะ ทำให้ได้เนื้อที่มีคุณภาพสูง รสชาติเข้มข้น จนได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในฟาร์มที่ดีที่สุดในออสเตรเลีย

ฟินทุกส่วนครับ แต่วันนี้ผมแอบชอบลิ้นเป็นพิเศษครับ ^^

ซูมมาให้ดูลายเนื้อสวยๆ กันซักหน่อยนะครับ

ส่วนของเมนู โปรเจคพิเศษ “ROYAL BUFFET” ก็จะมีประมาณนี้ครับ ซึ่งนอกเหนือจากเมนูพิเศษ เราก็ยังสามารถสั่งเมนูอื่นๆ ของร้านอีก 125+ เมนูได้ด้วยนะครับ อย่างผมก็อยากจะกินหมูและซีฟู้ด เลยจัด…

หมูคุโรบูตะสามชั้น หันชิ้นหนากำลังดี นุ่ม อร่อย

เมนูนี้ผมชอบเป็นการส่วนตัวครับ

แอบไปกินที่ญี่ปุ่นมาแล้วติดใจ เลยสั่ง หอยนางรมเกาหลี ซอสพอนซึ และซอสโชยุ หอยโฮตาเตะย่าง กระเทียมชีส และเนยโชยุ มาเต็มถาดน่ากินมากกกกกก อร่อยด้วยครับ หอยนางรมสดย่างในซอสพอนซึของโปรดอร่อยมากครับ

ยังไม่จุใจของ โฮตาเตะไซเคียว คาราสุมิ และโฮตาเตะยากิ อีกซักหน่อย

เมนูที่มีสาหร่ายแนะนำให้กินเลยหลังจากที่ได้มานะครับ เดี๋ยวสาหร่ายไม่กรอบครับ ความอร่อยคือ สาหร่ายกรอบ โฮตาเตะนุ่ม ละมุน อร่อยมากกกกกกก ชอบมากกกกครับ

อีกซัก 1 เมนูโปรด มันปูซูไวย่าง จะย่างในเตาเล็ก หรือย่างเตาใหญ่รวมกับเนื้อก็ไม่ว่ากันครับ

พร้อมทานค๊า…

น่ากินมากกกก นี่เป็นแค่การเริ่มต้นนะครับ หลังจากนี้ยังมาเรื่อยๆ ครับ

สำหรับคนที่กินน้อยผมว่า เมนูพิเศษก็ทำเราอิ่มได้แล้วนะครับ แต่ถ้าใครกินจุ กินเยอะ ชอบกินเนื้อ ผมว่า โปรเจคพิเศษ “ROYAL BUFFET” คุ้มมากครับ

เริ่มความฟินกันเลยนะครับ กินพลางๆ ระหว่างรอพนักงานย่างเนื้อให้ครับ

มาแล้วครับ เนื้อส่วนหน้าติดกับหน้าอกยาวลงมาถึงท้อง เวลาที่ย่างก็จะเอาเนื้อปาดไป ปาดมา…

ด้านในยังแดงนิดๆ เป็นอันใช้ได้ครับ ใครชอบกินแบบไหนแจ้งพนักงานได้ครับ

ส่วนตัวผมชอบ Medium Rare ครับ ขอแบบแดงๆ อยู่นิดๆ ครับ ผมว่ามันนุ่มดีครับ พอได้ที่ก็จะม้วนประมาณนี้

จิ้มไข่ไข่ดองซอสสวิทโชยุให้แตก เอาเนื้อปาดเข้าไป รสสัมผัสชุ่มฉ่ำ นุ่มละมุน อร่อยมากกกกครับ

…ต่อกันที่ Tora Royal Box เซ็ตเนื้อวากิว 4 ชนิด กันบ้างนะครับ

ย่างแล้วสีสวย น่ากินมากกกกก

สำหรับใครที่ชอบเนื้อฉ่ำๆ สามารถจิ้มซอสที่ทางร้านเสิร์ฟให้บนโต๊ะก่อนจะย่างกันได้นะครับ

ย่างแล้วความชุ่มฉ่ำก็จะประมาณนี้เลยครับ

…มาที่ซีฟู้ดของเรากันบ้างนะครับ หอยนางรมสดจากเกาหลีในซอสพอนสึ ว้าววววววววว

ต่อด้วยหอยเชลล์

และปิดท้ายที่ชุดใหญ่ ครบทุกหอยและมันปูซูไว ย่างแล้วหอม มัน อร่อย

ฟินอร่อย จนลืมถ่ายรูปมาโชว์ ห้าๆๆๆๆ รู้ตัวอีกทีก็สั่งของหวานมาปิดท้ายแล้วครับ

สำหรับถ้วยนี้ Umeshu Icecream ไอศกรีมเหล้าบ๊วย Homemade เติมความสดชื่นในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น เพื่อปิดท้ายมื้ออาหาร

(Limited 1 เสิร์ฟ/ท่าน)

เมนูนี้มีแอลกอฮอร์นะครับ เด็กๆ อย่ากินน้า แต่กินแล้วสดชื่นมากกกกครับ

ส่วนของเด็กๆ ผมแนะนำเป็น โทระป๊อปซีเคิล ไอติมลายโลโก้ร้าน ไอติมสตอเบอรี่สด กินแล้วสดชื่นไม่แพ้กันครับ

อิ่มอร่อย ฟินเวอร์ สำหรับโปรเจคพิเศษ “ROYAL BUFFET” ที่ ร้านโทระยากินิคุคาเฟ่ (TORA Yakiniku x Cafe) ส่วนตัวผมชอบมากนะครับ เหมือนกับได้มากินโอมากาเสะ + กินเนื้อวากิวอย่างดี ปิ้งย่างไม่อั้นครับ เอาจริงๆ ปกติถ้าเราไปกินโอมากาเสะราคาก็ไม่เบานะครับ อันนี้ได้กินเมนูแบบโอมาเกเสะบางเมนูสั่งได้ไม่อั้นอีก แถมเมนูในร้านที่สั่งเพิ่มเติมได้อีก ดีงามครับ อาหารทั้งหมดที่สั่งมาอร่อยมากครับ วัตถุดิบก็ดีมากครับ ผมว่าต้องไปลองกันแล้วครับ ส่วนของ “ROYAL BUFFET” จะจำกัดลูกค้า 12 ท่านต่อรอบเท่านั้นนะครับ ส่วนของรอบบริการจะมี 7 รอบต่อสัปดาห์ (เฉพาะศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์) นะครับ

  • Friday: 19.00 – 21.00 น.
  • Saturday: 12.00 – 14.00 น. / 16.00 – 18.00 น. / 19.00 – 21.00 น.
  • Sunday: 12.00 – 14.00 น. / 16.00 – 18.00 น. / 19.00 – 21.00 น.

ส่วนของราคา 3,299++ บาทต่อท่านครับ โปรโมชั่นพิเศษ Early Bird เพียง 2,899++ เมื่อจองและชำระตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน เวลา 12.00 น. จนถึง 12 มิถุนายน 2566 เท่านั้น (โปรโมชั่น Early Bird จะต้องทำการจองกับแอดมินเท่านั้น)

โปรเจคพิเศษ “ROYAL BUFFET” ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นนะครับ สำรองที่นั่งกันได้ที่…

ระยะเวลาแคมเปญ: 16 มิถุนายน – 30 กันยายน 2566
สาขา: Lasalle’s Avenue (ถ.ลาซาล-แบริ่ง) Map: https://goo.gl/maps/3CaxUevwqn52 เท่านั้นนะครับ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. ครับผม

You May Also Like

More From Author