ไปเที่ยวเขาใหญ่ปกติไปกินอาหารกันที่ร้านไหนครับ สำหรับร้านนี้ผมพยายามไปกินมา 2-3 ครั้งน่าจะได้แล้วครับ เฟลทุกทีครับ รอบนี้ไม่พลาดแล้วครับ ศึกษากระบวนการมาอย่างดีครับ ว่าจะทำยังไงให้ได้กินที่ร้านนี้ครับ ห้าๆๆๆๆ ครั้งแรกไปช่วงที่โควิดกำลังเยอะๆ ไปแล้วเหมือนว่าร้านเค้าจะปิดครับ ตอนแรกก็แอบคิดว่าร้านเจ๊งครับ ห้าๆๆๆ เพราะหน้าร้านเค้าจะแบบรกๆ หน่อยครับ หลังจากนั้นเห็นคนไปกินกันอีกเอ้ย ยังไม่เจ๊งนี่นา… ไปเขาใหญ่อีกครั้งเลย แวะ Walk in เข้าไป ป้าบอกว่า Walk in ไม่รับนะจ๊ะ วันนี้ร้านแน่นมากจองเต็ม อาหารไม่พอแล้ว แงๆๆๆ เฟลอีกหนึ่ง เห็นเค้าบอกว่ากันว่า ป้าเค้าใช้ผักสวนครัวออแกนิคที่ปลูกรอบร้าน นำมาทำอาหารกันสดๆ ใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม เพื่อรักษามาตราฐาน และรสชาติ เห็นว่ามีเข้ามาซื้อของวัตถุดิบที่ อตก. กรุงเทพเลยนะครับ คงซื้อตามปริมาณที่ลูกค้าจองครับ ของจะได้ไม่ค้าง สดๆ ใหม่ๆ ตั้งใจทำจาน อยากให้ลูกค้าได้กินอาหารอร่อยๆ ครับ
มา… ครับ มาเรียนรู้ไปด้วยกัน ถ้าจะมากินอาหารร้านป้านีน่าต้องมีกฏอะไรบ้าง ? ต้องกินให้ได้ครับ ห้าๆๆๆๆ ใครอยากกิน มาทำ Assignment นี้ไปพร้อมๆ กันเลยครับ ห้าๆๆๆๆ
กระบวนการกินอาหารที่ร้านป้านีน่ามีดังนี้ครับ
- ก่อนอื่นเราต้องทำการดูเมนูของทางร้านกันก่อนนะครับ เข้าไปได้ที่แฟนเพจ (www.facebook.com/ninakhaoyai/posts/pfbid02Ao7VBWfMWpd4unHVMsrYWxgWLR6ig18bwxDuntU7TxnffnUJ4bpvvh6byh4xKTyUl) ของทางร้านครับ เพื่อเข้าไปดูเมนูว่าอยากจะกินอะไรครับ เมนูแนะนำมีหลายเมนูเลยครับ เดี๋ยวผมบอกอีกทีนะครับ ว่าอะไรอร่อย อะไรต้องสั่งครับ เนื่องจากป้านีน่าจะให้สั่งอาหารได้แค่ครั้งเดียวนะครับ เพราะฉนั้นจดเมนูที่จะสั่งกันไว้ก่อนครับ ก่อนโทรจองครับ สั่งเพิ่มที่หน้าร้านก็ไม่ได้นะครับ คิดดีๆ สั่งให้พอหรือสั่งเผื่อ เหลือเอากลับบ้านได้ครับ
- ทำการจองโต๊ะกันเลยครับ สามารถทำได้ทั้งการจองผ่านโทรศัพท์ที่เบอร์ 081-839-5445 หรือ Message ของแฟนเพจ (www.facebook.com/ninakhaoyai) ร้านนีน่าครับ ส่วนของการจองผมทำทั้งโทรและ Message ครับ ส่วนของการโทรผมโทรไปแล้วสายไม่ว่างเลยครับ ไม่แน่ใจว่าป้าไม่ว่างรับหรือยังไงครับ เลย Message ไปในแฟนเพจเพื่อทำการจองครับ แนะนำให้ Message ไปง่ายกว่าครับ Message ไปก็ทำการแจ้ง ชื่อ วัน เวลา จำนวนคน เบอร์โทร และเมนูที่สั่งได้เลยครับ ใน Message จะมีระบบอัตโนมัติครับ ว่าให้ส่งข้อมูลอะไรให้บ้างครับ ถ้ากรอกข้อมูลครบถ้วน ป้าก็จะตอบรับและให้โอนเงินมัดจำครับ ส่วนของผมมัดจำไป 2,000 บาท โอนเข้าบัญชีป้าครับ หลังจากนั้นป้าก็ Confirm โต๊ะให้ครับ ส่วนตัวผมจองล่วงหน้าไป 2 อาทิตย์เลยครับ ผมว่าซักอาทิตย์นึงน่าจะยังพอไหวครับ แต่ถ้าใครไปช่วงเสาร์อาทิตย์อาจจะต้องจองล่วงหน้าเยอะๆ หน่อยนะครับ
- พอถึงวันและเวลาก็ไปที่ร้านกันได้เลยครับ ทางร้านจะติดป้ายชื่อของเราไว้ที่โต๊ะให้ครับ เข้าไปก็ทำการแจ้งชื่อกับทางร้านได้เลยครับ ร้านก็จะทำอาหารออกมาเสิร์ฟครับ รอไม่นานเลยครับ อาหารออกมาไล่ๆ กันครับ
- กระบวนการสุดท้าย ถ้าเรากินไม่หมด ต้องห่อกลับบ้านเองนะครับ ถ้าให้ดีก็เอาทัพเพอร์แวร์ไปเองด้วยก็ดีนะครับ ห้าๆๆ แต่ถ้าไม่มีทางร้านก็จะมีถุงพลาสติกและหนังยางให้ครับ ตักเอง ใส่ถุงเอง มัดยางเอง ใส่ถุงหิ้วเอง กลับบ้านไปกินต่อได้ครับ ห้าๆๆๆๆ
การจอง Message ที่คุยกับป้านีน่าก็ประมาณนี้เลยครับ
ส่วนของร้านนีน่าจะอยู่บนถนนธนะรัชต์ กม. 8.5 ร้านอยู่ซ้ายมือครับ ถ้าใครไปไม่ถูก Google Map ช่วยได้ครับ ^^
(https://goo.gl/maps/kgqympxLoDzS77df8)
ส่วนของหน้าร้านก็ประมาณนี้เลยครับ
วันที่ร้านเปิดที่จอดรถแน่นเลยครับ ต้องจอดรถซ้อนคันด้วยครับ แต่มีคนดูแลจัดที่จอดรถให้ครับผม
ส่วนของร้านก็ร่มรื่นประมาณนี้ครับ ส่วนของโต๊ะนั่งถ้าอยากได้ด้านนอกอาจจะต้องแจ้งตั้งแต่จองนะครับ ส่วนผมไม่ได้เลือกไว้ทางร้านให้นั่งด้านในครับ แต่ก็เย็นดีนะครับด้านในครับ มีแอร์ครับ
ส่วนของโต๊ะมีไม่เยอะครับ ผมว่าน่าจะซักประมาณ 10 กว่าโต๊ะครับ มีทั้งใต้ต้นไม้ด้านนอกตามภาพด้านบนและด้านในตามภาพด้านล่างนี้ครับ ส่วนตัวผมว่าถ้าช่วงกลางวัน อากาศร้อนๆ นั่งด้านในน่าจะสบายกว่าครับ
ส่วนของหน้าร้านก่อนเข้าไปด้านในมีโต๊ะใหญ่ ต่อโต๊ะได้เผื่อใครไปกันเยอะๆ ครับ
ส่วนของภายในร้านโต๊ะไม่เยอะครับ จะเป็นโต๊ะเล็กๆ ซะส่วนใหญ่ครับ
ดูบรรยากาศของร้านกันแล้ว ก็มาดูอาหารน่ากินๆ อร่อยๆ ของที่นี่กันบ้างครับ
เริ่มกันที่เมนูดัง เมนูที่ทุกคนมาที่นี่ต้องสั่ง และจานเดียวไม่พอ แบบว่ากินคนเดียว 1 จานกันได้เลยครับ ห้าๆๆๆ อร่อยขนาดนั้น เมนูนี้ก็คือ “ฟักทองญี่ปุ่นทอดกรอบคลุกไข่เค็ม” ราคา 300 บาท ครับ
ส่วนของรสชาติก็จะกรอบนอกนุ่มใน กรอบที่แป้ง ฟังทองนุ่มอร่อยครับ ด้านบนเป็นไข่เค็ม ก็จะเค็มหน่อย ตัดกับหวานของฟักทองเข้ากันดีครับ อร่อยมากกกก ครับ จานเดียวไม่พอจริงๆ ครับ ผมไปกัน 3 คน สั่งมา 2 จาน เกือบไม่พอครับ กินแล้วหยุดไม่ได้ครับ ห้าๆๆๆๆๆ แนะนำเลยครับ ใครมาต้องสั่งมาลองชิมกันนะครับ ผมไปไม่มีโต๊ะไหนไม่สั่งครับ ^^
เมนูต่อมาก็คือ มะเขือยาวอบเต้าเจี้ยว ราคา 280 บาท
ส่วนของรสชาติ ก็จะเค็มหน่อยๆ หวานที่มะเขือยาวครับ มะเขือยาวนุ่ม อร่อยไปอีกแบบครับ ใครที่อยากกินผักบ้าง เมนูนี้ก็ใช้ได้ครับ จัดปายยย ครับ
ใครที่อยากกินน้ำพริก ก็ต้องเป็นเมนู น้ำพริกกุ้งขยำ ราคา 450 บาท
ส่วนของรสชาติผมว่าคล้ายๆ กับน้ำส้มตำครับ หรือ คล้ายๆ น้ำพริกอีเก๋ครับ แต่ที่นี่กุ้งมาเต็มครับ ใส่กุ้งชิ้นโต ชิ้นใหญ่ และน้ำของน้ำพริกซึมเข้าไปในเนื้อกุ้งครับ ทางร้านผมว่าเค้าน่าจะเอาน้ำพริกขยำไปกับกุ้งจริงๆ ครับ น้ำของน้ำพริกเลยเข้าเนื้อกุ้งครับ ปกติเราต้องตักน้ำในน้ำพริกราดข้าวด้วย แต่ที่นี่ตักแค่เนื้อกุ้งก็ได้รสชาติน้ำพริกแล้วครับ
ทางร้านเสริมพร้อมผักสด ผักต้ม และผักทอด น่ากินมากๆ เลยนะครับ
ส่วนของอาหารของที่นี่ถ้าเป็นเมนูเผ็ดเค้าเผ็ดจริงจังนะครับ หาอะไรมาตัดความเผ็ดกันซักหน่อยเนอะ
เมนูนี้ก็คือ หมูสามชั้นทอดกรอบรวนหวาน ราคา 280 บาท ครับ
ส่วนของรสชาติ หมูกรอบ กรอบนิด นุ่มหน่อยไม่แข็งไปครับ ส่วนของนำ้ที่ใช้รวนหวาน เข้าทุกถึงทุกอนูของหมูสามชั้นครับ หวานๆ เค็มๆ กินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมากกกกกครับ ใช้กินแก้เผ็ดกันได้เลยครับ จานเดียวเกือบไม่พอ ห้าๆๆๆๆ
ส่วนของซุปร้อนๆ วันนี้ผมเลือกเป็นเมนู หมูสับต้มบ๊วย ราคา 300 บาทครับ
ส่วนของหมูสับต้มบ๊วยที่นี่เค้าไม่ใส่ขิงนะครับ ผมชอบ ไม่แน่ใจว่าใครชอบแบบไม่ใส่ขิงเหมือนผมรึปล่าวครับ ส่วนของหมูนุ่ม ไม่แข็งไป ส่วนของน้ำซุปหวาน เค็มนิดจากบ๊วย กำลังดีครับ อร่อยมากกกก น้ำซุปร้อนๆ ข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเหาะเลยครับ
ปิดท้ายกันที่ เมนูเผ็ดๆ กันซักหน่อยนะครับ เผ็ดจริงจังครับ เมนูนี้ ตักที่ปากช้อนก็สะท้านครับ ห้าๆๆๆๆ
เมนูนี้ก็คือ คั่วกลิ้งหมู ราคา 300 บาทครับ ส่วนของคั่วกลิ้งแห้งๆ ตามแบบฉบับ ดีเลยครับ ส่วนของหมูไม่แข็งไป แต่เผ็ดมากกกกกครับ ต้องกินกับข้าวสวย และผักหน่อยจะลดความเผ็ดลงมาได้ครับ แต่ภาพรวมอร่อยใช้ได้ครับ
อิ่ม อร่อย ไปกินกัน 3 คน อาหาร 6 อย่าง ฟักทองญี่ปุ่นทอดกรอบคลุกไข่เค็ม 2 ที่ ข้าว 3 จาน เหลือกลับบ้านนิดหน่อยครับ ส่วนของรสชาติอาหารของร้านนีน่าส์ (ฤาสภัตร บาย นีน่า) #เขาใหญ่ ผมว่าอร่อยดีครับ เมนูที่ผมชอบสุดก็เป็น ฟักทองญี่ปุ่นทอดกรอบคลุกไข่เค็ม ที่แหละครับ แนะนำเลยครับ ต่อมาก็จะเป็น หมูสามชั้นทอดกรอบรวนหวาน และ หมูสับต้มบ๊วย ครับ อันนี้ คือ ชอบที่สุดนะครับ เมนูอื่นๆ ก็ใช้ได้ครับ จริงๆ ทางร้านเค้ายังมีเมนูอีกเพียบเลยครับ อย่างไข่พะโล้ เค้าก็ว่าอร่อยกันนะครับ แต่วันนั้นอาหารเยอะแล้วครับ เลยไม่ได้สั่งไปครับ ใครที่ได้ไปลองชิมกันแล้ว มาลองแชร์เมนูกันได้นะครับ ว่ามีเมนูไหนที่อร่อยอีกครับ ส่วนของราคาผมว่าราคาแรงใช้ได้เหมือนกันนะครับ แต่ถ้าเทียบกัน วัตถุดิบ (ดูจากผักที่ให้มากับน้ำพริกและคั่วกลิ้งแล้ว สดใหม่ กินได้หมด ไม่ต้องทิ้งแม้แต่ใบเดียว) ความพิถีพิถันของทางร้านแล้วก็ พอไหว คุ้มอยู่นะครับ
ส่วนใครยังไม่เคยไปกิน อยากไปลองกินกัน ร้านนีน่าส์ (ฤาสภัตร บาย นีน่า) #เขาใหญ่ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น. ร้านปิดทุกวันจันทร์นะครับ รีบจองโต๊ะกันเลยครับ จองกันก่อนซัก 1 อาทิตย์นะครับ ไม่งั้นอดแน่นอนครับ ^^
