การทำการตลาดออนไลน์นั้นถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งของการทำการตลาด (Marketing) ที่จะช่วยให้ธรุกิจต่างๆ สามารถกำหนดเป้าหมายกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ออนไลน์ได้ อย่างเฉพาะเจาะจงหรือตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เพื่อที่จะช่วยเพิ่มยอดขาย การเข้าถึง ปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ และเพิ่มรายได้ต่อปีให้มากขึ้น
คำจัดกัดความของการตลาดออนไลน์
การใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์บนอินเทอร์เน็ต เพื่อทำการตลาด ทำการขายสินค้า หรือให้บริการต่างๆ ก็จะเรียกได้ว่าเป็นการตลาดออนไลน์ได้แล้ว โดยช่องทางเหล่านี้อาจจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่ละแพลตฟอร์ม ตั้งแต่การทำเนื้อหาคอนเทนต์เพื่อการตลาดบนโซเชียลมีเดีย หรือการจัดทำโฆษณาในรูปแบบต่างๆ และการทำ SEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา
การทำการตลาดออนไลน์ที่ส่งผลต่อธุรกิจ
ข้อดีหลักๆ ของการทำตลาดออนไลน์นั้น จะทำให้ธุรกิจต่างๆ เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น สามารถโต้ตอบกับลูกค้าใหม่ และลูกค้าเดิมที่จะย้อนกลับมา ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการขายและการจดจำแบรนด์ที่ดี
เหตุผลที่ว่าทำไมต้องทำการตลาดออนไลน์?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ความสามารถของการตลาดออนไลน์นั้นมีสูงมาก มันสามารถช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย ช่วยเพิ่มยอดขาย และเพิ่มรายได้
ทำให้มันมีความสำคัญทางด้านของการใช้กลยุทธ์ต่างๆ เข้ามา เช่น คอนเทนต์ออนไลน์ การทำ SEO การทำการตลาดออนไลน์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งบริษัทห้างร้าน ต่างก็หันมาทำการตลาดออนไลน์เพื่อดึงดูดลูกค้า และรักษากลุ่มลูกค้าเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
นอกจากนั้นแล้ว ในตลาดที่เป็นวงกว้างและมีกลุ่มลูกค้าที่มากมายหลายประเภท การตลาดก็จะช่วยคัดกรองกลุ่มลูกค้าใหม่ที่จะมาเป็นลูกค้าจริงๆ ได้ สามารถช่วยให้คุณมีความแตกต่างจากคู่แข่ง จากตลาดที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการนำเสนอแคมเปญใหม่ๆ ควบคู่ไปกับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์อีกมากมาย จะทำให้ธรุกิจไปถึงเป้าหมายสูงสุดของการทำการตลาดออนไลน์ได้
การตลาดออนไลน์มีรูปแบบไหนบ้าง?
1. อีเมล์
การตลาดรูปแบบดั้งเดิมที่เคยมีมาตั้งแต่ยุคอินเทอร์เน็ตเริ่มถือกำเนิด ถึงแม้ว่านักการตลาดส่วนใหญ่จะมองว่ามันดูล้าสมัยไปแล้ว แต่มันก็ยังคงเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่กลุ่มอายุได้
2. สื่อโซเชียลมีเดีย
กระแสในยุคปัจจุบันมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในพื้นที่ของสื่อโซเชียล และมันก็กลายมาเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ยอดเยี่ยม สำหรับการทำการตลาดออนไลน์ของบริษัทต่างๆ ผ่าน Social Media Marketing ที่จะเป็นช่องทางในการโปรโมทสินค้าและแบรนด์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Facebook, Instagram, X, YouTube หรือ TikTok ขึ้นอยู่กับว่าช่องทางใดนั้นเหมาะสมกับธุรกิจของเรามากที่สุด
3. อินฟลูเอนเซอร์
วิธีการนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากการมีคนดังมาโปรโมตสินค้าให้นั้น จะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงไปตรงมา การทำงานร่วมกัน ระหว่างบริษัทและคนดังที่มีชื่อเสียงทางออนไลน์ จะช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ได้ในที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอินฟลูเอนเซอร์ จะต้องเป็นที่รู้จักในตลาดของกลุ่มเป้าหมาย และสามารถเป็นตัวแทนเชิงบวกของบริษัทหรือธุรกิจนั้นๆ
4. การทำ SEO
การทำเว็บไซต์ควบคู่ไปกับสื่อโซเชียลมีเดีย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้และเข้าถึงลูกค้าได้เป็นอย่างมาก โดยการทำ SEO นั้นก็คือการเพิ่มอันดับให้กับเว็บไซต์ของเรา ผ่านการค้นหาด้วยคำที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากมีการค้นหาที่ตรงใจลูกค้า เว็บไซต์ของเราก็จะมีโอกาสขึ้นหน้าแรกของ Google และลูกค้าเลือกที่จะเข้ามารับชม โดยการทำ SEO ที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับคีย์เวิร์ดที่ตรงกับลิงก์เนื้อหาภายเว็บไซต์ เนื้อหามีความน่าเชื่อถือ และองค์ประกอบอื่นๆ
5. คอนเทนต์ที่สดใหม่เสมอ
หากเนื้อหาคอนเทนต์ที่มีอยู่นั้น ไม่ได้รับการเพิ่มหรือแก้ไขให้ทันสมัยในกระแสโซเชียล ค่อนข้างที่จะทำให้ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ เพราะฉะนั้นการพัฒนาคอนเทนต์ให้ดึงดูดและเผยแพร่เป็นประจำ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและการรู้แบรนด์ได้ และรักษากลุ่มลูกค้าเอาไว้ ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นการเป้าหมายในการทำการตลาดออนไลน์
บทสรุป
ในยุคปัจจุบันการทำการตลาดออนไลน์ เข้ามามีบทบาทสำหรับในการทำธุรกิจเป็นอย่าง แต่ด้วยกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องอาศัยเวลาในการทำ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพนั้น การมองหาบริษัท รับทำการตลาด ออนไลน์ ที่ประสิทธิภาพและไว้ใจได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ก็จะช่วยช่วยเพิ่มโอกาสปิดการซื้อขายเลือกใช้บริการของลูกค้าได้มากกว่า ประสบความสำเร็จทางด้านธรุกิจที่เร็วขึ้น