Uthai Heritage Boutique Hotels Uthai Thani 24

นอนบูทีคโฮเทล (Boutique Hotels) ย้อนวัยเรียน ชมวิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง @Uthai Heritage อุทัยธานี

เสน่ห์ของ “บูทีคโฮเทล” ก็คือ… การออกแบบ การตกแต่ง ที่มีความโดดเด่น ตามสไตล์ การได้เรียนรู้วัฒธรรม ประเพณี ตามวิถีชีวิตของท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งบูทีคโฮเทลก็มีทั้งการที่เลือกที่จะอนุรักษ์อาคารเก่าแก่ รวมถึงการสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ยังคงรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของรูปแบบของพื้นที่นั้นๆ สำหรับคนไทยผมว่าอาจจะมีกลุ่มคนไม่เยอะมากที่ชอบการท่องเที่ยวและพักบูทีคโฮเทลนะครับ (อาจจะด้วยความเชื่อว่าการเอาอาคารเก่ามาปรับปรุงใหม่จะมีอะไรรึปล่าว) แต่ต่างชาติชอบการท่องเที่ยวแบบนี้มากนะครับ มันมีเสน่ห์ของมันอยู่ครับ

อย่างรีวิวนี้ผมได้ไปเที่ยวและไปพักที่ Uthai Heritage จังหวัดอุทัยธานี กันมาครับ ส่วนของที่นี่คนที่รุ่นเดียวกับผม (Gen X) ลงไป น่าจะอินกับที่นี่พอสมควรเลยครับ Uthai Heritage จะเป็นโรงแรมที่รีโนเวทมาจากโรงเรียนอุทัยวิทยาลัย โรงเรียนเอกชนแห่งแรกของจังหวัดอุทัยธานีที่มีอายุมากกว่า 80 ปี ถูกทิ้งร้าง อาคารไม้ทรุดโทรม หญ้ารก ต้นไม้สูงใหญ่ปกคลุม แต่ยังคงความ แต่ยังคงไว้ซึ่ง เสาธงหน้าโรงเรียน โครงสร้าง ห้องเรียน กระดานดำ ภาพฝาผนังบางส่วน ทำให้เราอดคิดถึงวันวาน สมัยเด็กไม่ไหว

ส่วนของการรีโนเวทเน้นไปในแนว อาคารสไตล์ทรอปิคัลเมืองร้อน เน้นโทนสีเพียง ขาว ดำ เทา และไม้ธรรมชาติ

นอกจากนี้ทาง Uthai Heritage ยังมีแนวความคิดที่จะกระจายรายได้ จ้างคนในท้องถิ่น, สร้างโอกาศให้คนรุ่นใหม่ในท้องที่มีรายได้ ไม่ต้องเข้ากรุงเทพ ส่งเสริม ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดอุทัยธานี ดึงคนเข้ามาจับจ่ายให้คนอุทัยธานี คือดีย์

เกริ่นมาซะยาว เข้าเรื่องกันดีกว่าเนอะ ^^

ส่วนของ Uthai Heritage สร้างขึ้นมาช่วงโควิดพอดีครับ ส่วนของห้องพักมีแค่เพียง 17 ห้อง 8 แบบ ช่วงที่ผ่านมาถ้าเป็นวันหยุด จะจองเต็มแทบจะตลอดครับ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่มาเข้าพัก ถามว่าราคาแพงมั๊ย ถ้าตอบตามตรง เทียบกับค่าครอบชีพ หรือ เทียบกับค่าโรงแรมในจังหวัดอุทัยธานี ก็คือว่าราคาแพงเหมือนกันครับ แต่ถ้าเทียบกับโรงแรมในสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ถือว่าไม่แพงครับ ราคาก็อยู่ในช่วง 3,000 – 9,000 บาท แต่ห้องที่แพงที่สุด สามารถพักได้ ถึง 8 คนนะครับ

ตั้งแต่ทางเข้า ป้ายหน้าโรงเรียนมาถึงด้านในยังคงกลิ่นไอของโรงเรียน แต่ก็ไม่น่ากลัวนะครับ

ส่วนที่รีโนเวทแล้วถือได้ว่าหรูหราเลย

ส่วนของเช้า 8.00 น. ยังคงเสียงเพลงเคารพธงชาติตอนเช้าเหมือนสมัยเด็กๆ

ส่วนของโครงสร้างโรงเรียนอาคารยังคงเหมือนเดิมแต่ปรับปรุงให้รับน้ำหนักได้ดียิ่งชึ้น

จากการปล่อยให้ทรุดโทรมมาเป็นเวลานาน

ส่วนของอาคารด้านหน้า น่าจะเป็นหอประชุมเก่า ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นห้องสำหรับจัดเลี้ยง

พอเข้ามาถึงด้านใน… ส่วนของห้องสมุดถูกเปลี่ยนเป็นห้องรับรอง

พนักงานเข้ามาเสิร์ฟ Welcome Drink ซึ่งเป็นน้ำกระเจี๊ยบและน้ำเปล่าผสมอุทัยทิพย์ (ไม่ได้กินนานมากกกกกก)

ห้องนี้คงความเก่า ดูมีสไตล์ สวยงาม ถ่ายรูปเพลินๆ กันได้เลยครับ แอบมีโต๊ะครูใหญ่อยู่ด้วยนะครับ ห้าๆๆๆ

พอมาถึงพนักงานก็จะให้เราทำข้อสอบกันก่อนเลยครับ

ส่วนของข้อสอบก็คือ เมนูอาหารเช้า เครื่องดื่ม ของว่าง และกิจกรรมต่าง เช่น ใส่บาตรยามเช้า ล่องเรือ ชมหิ่งห้อย ปั่นจักรยาน อยากจะกินอะไร อยากจะทำกิจกรรมอะไรบ้าง สามารถกากข้อที่ต้องการกันได้เลยครับ

ส่วนของเมนูยามเช้า ก็มีทั้ง American Breakfast และเมนูดังของจังหวัดอุทัยธานีให้ลองชิมด้วยครับ

ในระหว่างที่ลงทะเบียนเข้าพัก ส่งบัตรประชาชนให้พนักงาน

พนักงานแจ้งว่า… คุณลูกค้า นามสกุลเดียวกันกับเจ้าของที่ คนแรกของที่นี่เลยคะ โอ้ววว บังเอิญมากครับ แต่ส่วนตัวแล้ว ผมก็ไล่สายไม่ถูกเหมือนกันครับ ตั้งแต่ปี 2501 ในปีนั้น พ่อกับแม่ผมยังไม่เกิดเลยครับ แต่ก็ด้วยโชคชะตาหรืออะไรก็เลยได้มาที่นี่นะครับ

ส่วนของ Uthai Heritage เค้าเก็บรายละเอียดทุกอย่างไว้หมดนะครับ อย่างโฉนดที่ดินนี้ ของเก่าบางส่วน ภาพเก่าสมัยโรงเรียนยังเปิดให้บริการ เราสามารถดูได้ทั่วโรงแรม หรือสอบถามข้อมูลจากพนักงานได้ครับ

เช็คอินแล้วก็เดินเล่นรอบโรงแรมกันหน่อยเนอะ

ส่วนของตรงนี้เป็นห้องจัดเลี้ยงครับ

ส่วนนี้เป็นห้องอาหารเช้า

ด้านหลังห้องอาหารจะเป็นสระว่ายน้ำ ไม่ธรรมดานะครับ

ส่วนของห้องพัก ทางโรงแรมก็จะมีธีมในแต่ละห้อง ส่วนของห้องที่เป็นไฮไลท์ ก็ต้องเป็นห้องนี้เลยครับ

“ห้องภูมิศาสตร์”

ห้องผนังสีเขียวอ่อนในห้องเรียนสังคมศึกษาเก่า ซึ่งจะมีแผนที่โลก (สมัยรัสเซียยังเป็นสหภาพโซเวียต) และแผนที่ประเทศไทย วาดโดยเจ้าของบ้านนกเขา ร้านค้ากึ่งพิพิธภัณฑ์ที่รวมศิลปหัตถกรรมไว้ย่านตรอกโรงยา ซึ่งเขาเคยทำงานที่โรงเรียนแห่งนี้

ห้องด้านบนพี่ชายผมพัก ส่วนห้องของผมจะเป็น “ห้องมัธยม” ห้องข้างลานหน้าเสาธง

ส่วนของการตกแต่งจะเป็นแนววินเทจหน่อย

ส่วนของห้องน้ำก็จะมีน้ำอุ่นให้ด้วย ส่วนของอ่างล้างหน้าจะเป็นแนววินเทจ คลาสสิก

ถึงแม้ว่าทางโรงแรมจะทำการรีโนเวทไปค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีหลายส่วนที่ยังคงอนุรักษ์ไว้

ตรงนี้เป็นอีก 1 จุดที่ได้รับการอนุรักษณ์ไว้ “โปรดรักษาความสะอาด” ประโยคที่คลาสสิก มากในยุคนั้นครับ

ภาพในหัวแว้บบบบบ เข้ามา ห้าๆๆๆๆ

ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีแค่ 2 ชั้น แต่ทางโรงแรมมีลิฟต์ให้บริการนะครับ สำหรับผู้สูงอายุครับ

จากที่เปิดให้บริการมามีผู้สูงอายุมาใช้บริการค่อนข้างเยอะ ทางโรงแรมก็เลยจัดทำลิฟต์นี้เพิ่มเติมเข้ามา…

ดีเลย ^^

อีกภาพที่แว๊บเข้ามาในหัว โถงหน้าชั้นเรียน ตอนเด็กๆ พื้นมันๆ วิ่งแล้วสไลด์ไปตามทาง ถุงเท้าขาดไม่มีเหลือ ห้าๆๆๆๆๆ

ถ้าวันไหนฝนตกก็ต้องเข้าแถวหน้าชั้นเรียนบริเวณนี้ เพื่อเคารพธงชาติ

อีกห้องหนึ่งที่ครอบครัวของพี่ชายผม อีกคนเข้าพักก็คือ…

ห้องพักครู

ห้องนี้จะใหญ่หน่อย สามารถเสริมเตียงได้ พี่ชายผมพาลูกชายไปด้วย ก็ได้นอนสบายๆ เลยครับ

หลังจากที่เช็คอินเรียบร้อย เก็บของ ก็ได้เวลามาล่องเรือ ชมวิถีชาวบ้านลุ่มแม่น้ำสะแกกรังกันแล้วครับ

จริงๆ ทางโรงแรมเหมือนเค้ามีบริการนี้ด้วยนะครับ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นยังไง

ส่วนการล่องเรือนี้ เป็นส่วนที่พี่ชายผมจองเพิ่มเติมมาก่อนหน้านี้แล้วครับ ซึ่งจะมีอาหารให้กินตอนเย็นด้วยครับ

ระหว่างที่ทำการล่องเรือไป ก็จะมีการบรรยายเกี่ยวกับ 2 ข้างลำน้ำไปเรื่อยๆ ครับ

ชุมชนชาวแพวิถีชีวิตผูกพันสายน้ำ ที่อุทัยธานีมีประมาณ 350 หลัง อาศัยจริงประมาณ 100 หลังคาเรือน ประกอบอาชีพประมงน้ำจืด เลี้ยงปลาในกระชัง อย่าง ปลาสวาย ปลาแรก และปลาเทโพ ครับ นอกจากนั้นก็ยังมีการปลูกพืชลอยน้ำอย่าง ใบเตย เป็นต้น ล่องเรือไปชาวบ้านก็โบกมือ บ้าย บาย ไป เป็นกันเองมาก

ล่องเรือเสร็จ อิ่มกำลังดี ก็กลับมาพักผ่อนที่โรงแรม พาชมบรรยากาศตอนกลางคืนกันนิดนึง

นอนหลับสบาย ตื่นมายามเช้า 6.00 น.

พร้อมกับกิจกรรมยามเช้า ไปใส่บาตรและเดินตลาดเช้ากันครับ

ทางโรงแรมน่ารัก มายืนรอแต่เช้าพร้อมลายแทง

จุดที่จะซื้อของใส่บาตร จุดใส่บาตร และพิกัดเมนูดัง อร่อย ห้ามพลาด อยากจะบอกว่า…

กลับมาพร้อมของเต็มไม้เต็มมือ ห้าๆๆๆๆ

พอถึงที่ตลาดก็ตรงมาใส่บาตรกันก่อนเลยครับ

ส่วนของการใส่บาตรพระท่านจะรับบาตรถึงประมาณ 7 โมงกว่านะครับ

ใส่บาตรเสร็จก็มาหาอะไรกินกัน มองไปทางไหนก็มีแต่ของน่ากิน

หากินยากที่กรุงเทพทั้งนั้นเลยครับ

กินมื้อเช้าเสร็จ อาบน้ำ เตรียมตัวจะเช็คเอาท์ ยังพอมีเวลา… ที่โรงแรมเค้ามีชุดนักเรียนให้เช่าถ่ายรูป เกร๋ๆ น่ารักๆ ย้อนวัยกันด้วยนะครับ

ค่าเช่าชุดนักเรียนราคา 100 บาท

จัดซิครับ เด็กชาย เจริญศักดิ์ รัตนวราห มาครับ เด็กหญิง ดาวิณี สีม่วงนี่ มาคะ ห้าๆๆๆๆๆ

เข้าแถวหน้าเสาธง ก็ตาหยี กันปายยยยยยยย ห้าๆๆๆๆ

ย้อนวัย น่าร้ากกกกกกกก

ได้เวลาเข้าเรียนแล้วจ้า…

สำหรับ Uthai Heritage ผมเข้าพักกันแค่ 1 คืน พอดีแวะไปทำธุระที่อุทัยธานีพอดี เลยแวะไปพักครับ ส่วนตัวผมชอบมากครับ ทั้งบรรยากาศ ได้ย้อนวัย คิดถึงความรู้สึกวัยเด็ก ถ้าได้มาเลี้ยงรุ่นที่นี่น่าจะดีมากครับ รวมถึงการให้บริการ ความเป็นกันเองของชาวอุทัยธานี ใครที่ชอบท่องเที่ยวแนวนี้ ชื่นชมวัฒนธรรม ชมวิถีชาวบ้าน เดินเล่น ถ่ายรูป ผมเห็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นคนนึงมา เค้าตื่นแต่เช้า ออกเดินจากโรงแรมไปตลาด ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก็ชิลดีนะครับ แอบเสียดายเลย ผมไปรอบนี้มีแวลาน้อย ต้องไปทำธุระด้วย แต่ก็ยังพอได้ดูวิถีชาวแพและตลาดยามเช้า

ส่วนของข้อเสียก็คือเรื่องเสียงครับ ที่นี่เป็นอาคารไม้โรงเรียนเก่าอายุกว่า 70 ปี ทำให้การเก็บเสียงทำได้ไม่ดีเท่าอาคารสมัยใหม่ อยู่ในห้องพักก็จะมีเสียงรบกวนจากข้างนอกเข้ามา รวมถึงเสียงจากห้องของเราก็จะออกไปข้างนอกด้วยครับ ทางโรงแรมเลยจะขอให้งดวิ่ง กระโดด หรือทำกิจกรรมอะไรที่มีเสียงดังครับ ถ้าต้องการสังสรรค์ทางโรงแรมก็จะมีห้องศรีเจริญให้บริการครับ

โรงแรมอุไทยเฮอริเทจ (Uthai Heritage) ตั้งอยู่ที่ 5 ซอย 11 ถนน ศรีอุทัย ตำบล อุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี อุทัยธานี 61000 (พิกัด: https://goo.gl/maps/HxUKKoBD44mb3aPUA) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ จองห้องพักได้ที่…

ฝากกด Like ติดตามเรื่องราวของผมบน Facebook ด้วยนะครับ ปล.อย่าลืมกด Follow และ See First Page ด้วยน้า ใครที่ชอบเที่ยวฟรี กินฟรี ผมแจกของบ่อยอยู่น้า ^^