ก่อนหน้านี้ ใครไปญี่ปุ่นก็ต้องไปกินซูชิสายพาน 100 เยน กันนะครับ ตอนนี้ Sushiro มาเยือนที่ไทยกันแล้ว เราก็เปลี่ยนไปกินซูชิหน้าล้น Miura Misaki Kou ย่าน Ueno กันบ้างเนอะ (ซูชิสายพาน 100 เยน คง Out ไปแล้ว ห้าๆๆๆๆ) ร้านนี้เป็นร้านยอดนิยมของ Influencer และคนไทยมากครับ ก็คงเพราะมี Influencer ไปกินกันเยอะนะครับ คนไทยก็เลยตามไปกินกันเยอะเลย รวมถึงผมด้วย ^^
ส่วนของร้านนี้ มีคิวอีกแล้วจ้า… ทริปญี่ปุ่นครั้งนี้ของผม ไม่มีร้านไหนไม่รอคิวเลยครับ ผมไปญี่ปุ่นวันแรกก็ไปกินที่ร้านี้เลยครับ รอคิวอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ได้เข้าไปในร้านครับ ส่วนของภายในร้านก็มีที่นั่งเพียงแค่ 10 กว่าที่นั่งเองครับ ไฮไลท์ของร้านนี้ก็คือ ซูชิหน้าล้น ล้นจริงจัง ผมเองกินได้ประมาณ 3 คำต่อจานเลยครับ กินกัน 2 คน 8 จาน อิ่มอ่ะครับ อีกอย่างที่ผมว่าร้านนี้ดี คือ ความคุ้มค่า ส่วนของราคาต่อจานเริ่มต้นที่ 100, 130, 160, 190, 260, 340, 400, 450, 560, 580, 650, 660 เยน (ประมาณ 24 – 160 บาท) ผมไปกินกัน 2 คน พันนิดๆ นิดจริงๆ แบบอิ่มมาก
พิกัดของซูชิหน้าล้น Miura Misaki Kou: https://maps.app.goo.gl/tESLj4m2hXC5JrTh8 ส่วนของร้านนี้ผมเดินทางไม่ไกลจากโรงแรมครับ พอดีพักแถวนั้นพอดี ใครที่ไม่ได้พักแถวนี้ก็สามารถนั่งรถไฟมากินกันได้ครับ มากินและมาเดินเล่น Ueno กันครับ
ผมมาถึงประมาณซัก 2 ทุ่ม มีคิวอยู่นิดหน่อย แอบหิว แต่ก็ลองต่อคิวดู
ต่อไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็ได้เข้าไปด้านในครับ
ส่วนของภายในร้านที่นั่งน้อยมาก ประมาณ 10 กว่าที่นั่ง
แต่… คนที่กินแป๊บๆ ก็เสร็จครับ ซูชิคำโต กินไม่กี่คำก็อิ่ม ห้าๆๆๆ ผมเองก็ 8 จาน 2 คนจุกครับ
ส่วนของภายในร้านเราสามารถเลือกเมนูจากสายพานกันได้เลย มีทั้งซูชิหน้าล้น และซูชิแบบธรรมดา
นอกจากนี้ยังสามารถสั่งเมนูผ่าน Tablet ที่ด้านหน้าของเราได้อีกด้วยนะครับ ถ้าในสายพานเมนูอยากกินไม่มาซักที หรือเป็นเมนูพิเศษครับ
ส่วนของการสั่งผ่าน Tablet ก็มีเมนูภาษาอังกฤษให้เราด้วยครับ เวลาเสิร์ฟเชฟก็จะใส่ไม้ยื่นมาให้เราครับ ^^
วันนี้เราเริ่มกันที่… ชิราโกะ ท่อเก็บอสุจิปลา มีเฉพาะช่วงปลายปี ราคา 450 เยน (ประมาณ 109 บาท)
ส่วนของ ชิราโกะ ละลายในปาก สาหร่ายแอบเหี่ยวหน่อย ห้าๆๆๆๆๆ
ต่อกันที่ หอยซึบุไก (หอยสังข์ญี่ปุ่น) ราคา 190 เยน (ประมาณ 45 บาท)
ส่วนตัวผมแอบชอบเมนูนี้ตั้งแต่อยู่ที่ไทย กินที่ Sushiro แล้วครับ แต่ที่ญี่ปุ่นผมว่าชิ้นใหญ่กว่า ส่วนของที่ไทยราคา 40 บาท
แต่ญี่ปุ่นชิ้นใหญ่กว่าน้า…ห้า ห้า ห้า…
ส่วนอันนี้… ผมจำไม่ได้ว่า ชูโทโร่ หรือ โอโทโร่ สับ แต่น่าจะเป็นโอโทโร่ ราคา 560 เยน (ประมาณ 135 บาท) จริงๆ คือเค้าก็เอาเศษมาสับให้เราครับ
แต่ส่วนตัวผมชอบมากครับ คือ ราคาจะไม่แพง ได้กินปลาส่วนที่ดีที่สุดครับ ^^
หน้าล้นแบบสุดๆ ไปเลยครับ กินกันได้ 3 คำ คำแรก กินแบบซาชิมิ ส่วน 2 คำที่เหลือก็กินแบบข้าวปั้นห่อสาหร่าย
อากาศมันหนาวมากซุปร้อนๆ ซักหน่อย ชามด้านหลังซุปมิโซะ ราคา 130 เยน (ประมาณ 31 บาท)
ส่วนจานนี้ เอนกาวะ ราคา 450 เยน (ประมาณ 109 บาท) มาแบบพูนๆ ไม่แพ้กันครับ
เอาจริงๆ ก็แอบคิดนะครับ ว่า อันนี้มันคือ… เศษ ของจานหลัก แต่ก็คุ้มอยู่นะครับ ห้าๆๆๆๆ เวลาเรากินเข้าไปก็ต้องเคี้ยวอยู่ดี ห้าๆๆๆ
ตอนที่อยู่ที่ไทยกิน Sushiro ผมก็ชอบกินเมนูสับครับ ราคาไม่แรงดี ^^
ส่วนของจานนี้ ของเป็นหน้าแบบธรรมดากันบ้าง ทูน่า ราคา 340 เยน (ประมาณ 80 บาท) แผ่นใหญ่ๆ เต็มปากเต็มคำ
ต่อกันที่ มันปู ราคา 400 เยน (ประมาณ 96 บาท) และ ไข่ปลาแซลมอน ราคา 130 เยน (ประมาณ 30 บาท)
ปิดท้านด้วยเมนูพรีเมี่ยม ปูหิมะ ราคา 590 เยน (ประมาณ 140 บาท) ฟินมากกกก ก่อนกลับ…
อิ่มมาก กินไปแค่ 8 จาน พันนิดๆ นิดจริงๆ คุ้มมากกก ออกจากร้านมาคิวยาวกว่าเดิม
สำหรับร้านซูชิหน้าล้น Miura Misaki Kou ที่ Ueno ส่วนตัวนะครับ ผมว่าส่วนของปลาและรสชาติ ผมว่าธรรมดาครับ ไม่ได้ว้าวมาก ผมว่าคล้ายๆ กับการกินซูชิ 100 เยน แต่ถ้าเทียบกับไทยก็ดีกว่าครับ เพราะสดใหม่จากทะเลญี่ปุ่นนะครับ แต่ที่น่าสนใจและคุ้มมากก็คือราคานี่แหละครับ ส่วนของซูชิหน้าล้น ราคาดีครับ ผมกินกัน 2 คนแบบจุกๆ แค่พันนิดๆ ถ้ากินที่ไทยด้วยวัตถุดิบที่ผมกิน ไม่น่าจะได้ราคานี้ครับ ใครที่อยากลองกินซูชิหน้าล้น ราคาประหยัด ลุยกันได้เลยครับ
ร้านซูชิหน้าล้น Miura Misaki Kou เปิดทุกวัน วันธรรมดาเปิดตั้งแต่เวลา 10.30-23.00 น. ส่วนเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. รอคิวนิดนึงครับ แต่อิ่ม แน่น ในราคาสบายกระเป๋าครับ ^^