ฉีกทุกกฏการล่องเรือสำราญ แหลมฉบัง สีหนุวิลล์ ฟูก๊วก สมุย ล่องเรือสำราญครั้งแรกฝั่งเอเชีย ทำไมไม่เหมือนที่เคยล่องฝั่งยุโรปน้า​…

1 min read

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา (16-23 พค. 2566) หลายๆ คน น่าจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับ ทัวร์เทลูกค้าเรือสำราญกันมาบ้างนะครับ ถึงขั้น นักร้อง ดารา ที่ได้รับเชิญขึ้นไปจัดการแสดงบนเรือไม่มีชื่อ แล้วจะไปโชว์กันยังไงครับ ห้าๆๆๆๆ ผมเกือบเป็นผู้ประสบภัยในครั้งนี้ครับ ได้ขึ้นเรือแต่ความวุ่นวายก็ไม่น้อยครับ ใครที่อ่านรีวิวผมมาก่อนจะทราบว่าผมก็ขึ้นเรือสำราญมาพอสมควรเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น เรือ Costa Fortuna เที่ยว อิตาลี กรีซ โครเอเชีย, เรือ Royal Caribbean เที่ยว แคนนาดา อเมริกา (Alaska), เรือ Poseidon Expeditions เที่ยว กรีนแลนด์ รวมถึง เรือ Royal Caribbean Symphony of The Sea เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก เที่ยว สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี ครับ

ส่วนตัวผมและครอบครัว ชอบการเที่ยวแบบล่องเรือสำราญมากครับ เที่ยวสบายๆ ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง เรือจะเดินทางช่วงกลางคืน เช้ามาก็ออกไปเที่ยว แต่ที่ผ่านมาผมจะเที่ยวโซนยุโรปและอเมริกาครับ ชิลมากครับ ชอบมาก รอบนี้เป็นครั้งแรกที่ล่องเรือโซนเอเชียครับ วุ่นวายมาก แอบสงสารคนที่เคยล่องเรือครั้งแรกแล้วมาเจอแบบนี้ครับ คงไม่ชอบการล่องเรือไปเลยครับ ผมว่าน้า มาครับ สำหรับคนที่ล่องเรือครั้งแรกแล้วมาเจอเหตุการณ์นี้ รีวิวนี้ผมจะรีวิวทริปนี้พร้อมกับเปรียบเทียบกับการล่องเรือครั้งที่ผ่านๆ มาของผมให้อ่านกันครับ อย่าเพิ่งรู้สึกแย่กับการล่องเรือกันนะครับ

เรือ Costa Fortuna เที่ยว อิตาลี กรีซ โครเอเชีย

เรือ Royal Caribbean เที่ยว แคนนาดา อเมริกา (Alaska)

เรือ Poseidon Expeditions เที่ยว กรีนแลนด์

รวมถึง… ล่องเรือ Royal Caribbean Symphony of The Sea (สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี) เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สำหรับการล่องเรือของผมครั้งนี้จะเป็นเรือ Costa Serena ครับ ทริปนี้ผมเดินทางออกจาก แหลมฉบัง ไปสีหนุวิลล์ กัมพูชา เกาะฟูก๊วก เวียดนาม สมุย และกลับไปที่แหลมฉบังครับ จากที่ฟังข่าวมาเรือลำนี้ถูกเช่าเหมาลำมาครับ ส่วนของการจัดการต่างๆ ด้านล่างน่าจะเป็นของคนที่เช่าเหมาะลำมาครับ ส่วนการจัดการบนเรือยังคงเป็นของบริษัทเรือครับ

ความวุ่นวายเริ่มต้นตั้งแต่ก่อนจะขึ้นเรือเลยครับ โปรแกรมเรือนี้ที่ทราบมาเค้ามีทั้งหมด 3 รอบครับ ส่วนของรอบแรกโดนยกเลิกครับ ทำให้คนทริปแรกได้เป็นเงินคืนหรือมาเที่ยวใน 2 รอบหลังแทนครับ ส่วนรอบ 2 ก็มีความชุลมุนอีก ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้ไปลงที่เกาะสมุยครับ ของผมเป็นรอบที่ 3 ก็คือ ยังมีความวุ่นวาย ลูกค้าได้ขึ้นเรือส่วนนึงและไม่ได้ขึ้นเรืออีกหลักร้อยครับ (จากข่าวนะครับ)

ส่วนของความวุ่นวายเริ่มตั้งแต่คือก่อนหน้าจะเดินทางครับ หลายคนบอกว่าได้เลขห้องแล้ว แต่ผมยังไม่ได้ครับ ติดต่อไปที่บริษัททัวร์ที่ซื้อทัวร์ไปไม่ได้รับการติดต่อกลับครับ วุ่นวายใจมากครับ แต่สุดท้าย งงไปอีก ได้น้องคนนึงที่อยู่อีกบริษัททัวร์นึงส่งหมายเลขห้องมาให้ครับ ห้าๆๆ งงไปอีกนะครับ ทัวร์ที่เราซื้อไม่มีเบอร์ห้องให้ แต่อีกบริษัททัวร์นึงเราไม่ได้ซื้อ ได้เลขห้องมาซะงั้นครับ

อุตส่าอุ่นใจได้เบอร์ห้อง ไปถึงหน้างาน ความวุ่นวายก็ยังไม่จบครับ ต้องไปหาตั๋วเรือและแท็กกระเป๋ากันอีกครับ

ผู้โดยสารเรือประมาณ 3,000 คน ออกันที่หน้าทางเข้า เพื่อรับตั๋วเรือและแท็กกระเป๋า วิธีการของทัวร์ก็คือ เรียกชื่อทีละคน โอ้ววววมายยยย กว่าจะครบ 3,000 คน ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ครับเนี๊ย !!!

ความพีคยังไม่จบเท่านั้นครับ บางคนที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันกับผมได้ตั๋วเรือพร้อมแท็กกระเป๋า บางคนยังไม่ได้แท็กกระเป๋าครับ ที่สำคัญคือ ผมซื้อแบบห้อง Suite ไปด้วยครับ ไม่ได้มีค่าอะไรกับทริปนี้เลยครับ T_T ห้อง Suite ตั๋วเรือยังไม่มาครับ โอ้วมายยย

ส่วนใครที่ได้ตั๋วและแท็กกระเป๋าแล้วเอามาโหลดกระเป๋าตรงนี้ครับ สุดยอดมากครับ

ส่วนของพื้นที่ด้านในนี้ต้องมีตั๋วก่อนที่จะเข้าไปได้นะครับ เพราะฉนั้นใครยังไม่มีตั๋วต้องรอบริษัทเรือ Print ออกมาให้ครับ รอตั้งแต่ ก่อนเที่ยงยัน 6 โมงเย็นครับ ไม่ได้ตั๋วครับ สุดท้ายเค้าปล่อยให้เข้าไปเช็คอินด้านในครับ ยังไม่ต้องได้ตั๋วก็ได้

ผมก็แอบงงนะครับ ว่าคน 3,000 คน มี Print ตั๋วกันที่หน้างานหลอครับ ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการ Print ครับ

ช่วงประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ยังสดใสครับ ถ่ายรูปกับเรือกันนิดนึง ห้าๆๆๆ

หลังจากที่ตั๋วบางส่วนยังไม่มี Print ไม่ทันแล้ว ทางทัวร์ก็ปล่อยให้เข้าไปเช็คอินกันเองด้านในครับ ตามภาพด้านล่างครับ

จริงๆ เราควรได้เข้ามาตรงนี้ตั้งแต่แรกครับ เราสามารถแจ้งชื่อเพื่อเช็คชื่อขึ้นเรือได้เลยครับ ไม่ต้องใช้ตั๋วใดๆ งงไปอีกครับ ห้าๆๆๆๆ พอเข้ามาส่วนของ Fast Lane สำหรับห้อง Suite ก็ไม่มีครับ ซึ่งตอนขายทางทัวร์บอกว่ามีครับ ซึ่งในต่างประเทศก็มีนะครับ

การเช็คอินที่ไทย

การเช็คอินที่สเปน

เราจะได้ตั๋วเรือและแท็กกระเป๋ามาก่อนล่วงหน้า พอเข้ามาถึงก็ Drop กระเป๋าพร้อมแท็กไว้ที่ด้านนอก และเข้ามาเช็คอินด้านในตรงนี้ครับ ถ้าซื้อห้อง Suite มาก็จะช่องทางพิเศษเหมือนกับเวลาที่เราไปเช็คอินขึ้นเครื่องบินครับ

เรือ Royal Caribbean Symphony of The Sea เรือลำใหญ่ที่สุดในโลก จุคนได้ 5,500 คน แต่ไม่มีความวุ่นวายเลยครับ

ตัดภาพกลับมาที่ไทย ก็แอบงงอยู่นานนะครับ ว่ารออะไร ตั้งแต่เที่ยงถึง 6 โมงเย็น รอตั๋วที่ทัวร์ไม่ Print ออกมาซักที ห้าๆๆๆ

ในที่สุดก็ได้ขึ้นเรือครับ

ความวุ่นวายเยอะกว่านี้เยอะนะครับ ใครอยากได้ Detail Inbox มาถามในเพจกันได้ครับ ^^

ส่วนของห้องพักผมจองมาหลายแบบมากครับ พอดีมีพาพนักงานมาท่องเที่ยวประจำปีด้วยครับ

มีทั้งห้อง Inside, Ocean, Mini Suite และห้อง Suite ครับ

ส่วนของห้องในเรือสำราญจะเริ่มที่ห้อง Inside คือห้องที่ไม่มีหน้าต่างเลยอยู่ด้านในตัวเรือ, ห้องแบบ Ocean คือห้องที่มีกระจกเห็นด้านนอกเรือแต่เปิดไม่ได้, ห้อง Balcony เป็นห้องที่มีระเบียง, ห้อง Mini Suite เป็นห้องที่ใหญ่ขึ้นและมีบริการที่ดีขึ้น, ห้อง Suite ห้องใหญ่ขึ้นพร้อมอ่างอาบน้ำ สุดท้ายคือ ห้อง Grand Suite จะเป็นห้องที่ใหญ่และดีที่สุด มีห้องรับแขกเพิ่มเข้ามาด้วยครับ

ส่วนของห้องที่เห็นด้านล่างนี้จะเป็นห้องแบบ Mini Suite ครับ

ห้องจะใหญ่ขึ้น มีกระจกมองเห็นด้านนอกพร้อมระเบียงที่ใหญ่ขึ้นด้วยครับ

ส่วนของห้องน้ำผมว่าไม่ต่างจากห้อง Balcony เท่าไหร่ครับ

ส่วนของวิวนี้ก็จะเป็นวิวที่ท่าเรือแหลมฉบังครับ

หลังจากที่เข้าไปเช็คห้องพักกันเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นไปเดินเล่นที่ดาดฟ้ากันซักหน่อยครับ

ถ่ายรูปสวยๆ กันครับ

ส่วนของดาดฟ้าเรือ จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ อ่างจากุชชี่ สไลเดอร์ สนามบาส และลู่วิ่งครับ

แวะเข้ามาที่หัวเรือ จะเป็นส่วนของสปา ฟิตเนส ซาวน่า และสตีมครับ

ผมแอบแปลกใจนิดนึงครับ ตอนที่ผมล่องเรือฝั่งยุโรป ส่วนของซาวน่าและสตีมจะเข้าฟรีครับ แต่ต้องจองเวลาครับ ส่วนรอบนี้ต้องเสียเงินครับ หรือว่าหลังโควิดแล้วเค้าเปลี่ยนแปลงการให้บริการก็ไม่แน่ใจนะครับ

ส่วนของฟิตเนสยังเล่นฟรีนะครับ แต่ไม่ค่อยมีคนมาเล่นเท่าไหร่ครับ

ส่วนของชั้นล่างลงมาจะมีห้องอาหารหลายห้องเลยครับ ร้านอาหารญี่ปุ่น อาหารฝั่งยุโรป และไอศกรีมขนมครับ

แต่ละห้องอาหารธีมก็จะแตกต่างกันออกไปครับ

ส่วนของอาหารค่ำและอาหารเช้าจะมีทั้งแบบที่เป็นอาหารเซ็ตและแบบบุฟเฟ่ต์ครับ

ส่วนของห้องอาหารแบบเซ็ตจะเป็นห้องอาหารชั้น 3 และ 4 ครับ ส่วนของบุฟเฟ่ต์จะเป็นห้องเดียวกันที่ชั้น 9 ครับ ทั้งอาหารเย็นและอาหารเช้าครับ

โดยปกติแล้วอาหารสำหรับห้อง Suite จะมีโซนที่แยกออกมาทั้งอาหารเช้าและอาหารเย็นครับ แต่ทริปนี้ไม่มีครับผม รวมกันหมด T_T

แอบงงไปอีกครับ ส่วนของอาหารก็ไม่ดีเท่าที่ผมไปล่องเรือที่ยุโรปครับ

รวมถึงเวลาอาหาแบบเซ็ตสำหรับมื้อเย็น ปกติจะมี 2 รอบ ที่นี่บางวันก็เหลือแค่รอบเดียวครับ งงไปอีกครับ

ยังไม่หมดเท่านี้ครับ ห้าๆๆๆ

ปกติทางเรือเค้าจะมีวันที่เป็น Captain Night คือ เป็นเหมือน Gala Dinner ที่ทุกคนใส่สูท ชุดมาเต็ม สวยกันทั้งเรือ กัปตันเรือลงมาถ่ายรูปด้วย อาหารก็จะเป็นอาหารพิเศษมีเมนูพิเศษอย่างกุ้งมังกร และอื่นๆ มาเสิร์ฟครับ เรือรอบนี้ไม่มีครับผม ผมว่ากัปตันคงกลัวจะโดนล้อมเหมือนตอนที่ลงมาไกร่เกรี่ย รอบวันที่ 16 แน่เลยครับ ห้าๆๆๆๆๆๆ แถมการแต่งกายมื้อเย็น ยังใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นมากินได้ด้วยครับ ห้าๆๆๆ

ปกติถ้าเรือฝั่งยุโรปไม่ได้นะครับ ต้องเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาวสแล็คเท่านั้นครับ

งงไปอีกครับ ฉีกทุกกฏจริงๆ ครับ ทริปนี้ ไปคุยกับคนที่ไม่เคยไปไว้ซะเยอะ ไม่มีตามที่คุยไว้เลยครับ ห้าๆๆๆ

ส่วนตรงนี้เป็นร้านขนมและไอติมครับ

ต่อกันที่เกมส์โซน สำหรับเรือลำนี้ เกมส์โซนไม่ค่อยใหญ่เท่าไหร่ครับ ของเล่นน้อยมากครับ

ปิดท้ายกันที่คาซิโนที่หลายๆ คนน่าจะอยากลองมาเล่นกันซักครั้งนะครับ

ส่วนของโซนคาซิโนและสินค้าปลอดภาษีทางเรือจะเปิดเฉพาะช่วงที่เรือออกจากฝั่งแล้วเท่านั้นนะครับ

ก่อนที่เรือจะออกเดินทางและทุกคนต้องทำ เหมือนกันทุกที่ทั่วโลกก็คือการซ้อมหนีภัยครับ

ทางเรือจะให้เรารอที่ห้องและรอฟังเสียงสัญญาณครับ พอมีเสียงสัญญาณก็ใส่ชูชีพแล้ววิ่งไปตามทางที่พนักงานกำหนด เพื่อไปยังจุดลงเรือครับ พอไปถึงจุดแล้ว ก็เอาบัตร Cruise Card ให้พนักงานเรือ Scan กันด้วยนะครับ เดี๋ยวจะโดนว่าโดดการซ้อมครับ

อ้อ สำหรับการใช้จ่ายบนเรือเราจะต้องเอา Cruise Card ของเราไปผูกกับบัตรเครดิตก่อนนะครับ

เวลาจ่ายเงินบนเรือก็ใช้ Cruise Card ในการจ่ายเงิน

ระบบจะไปตัดบัตรเครดิตให้อัตโนมัติครับ

ผมขึ้นมาบนเรือนานมากแล้ว กินข้าวเย็นเสร็จแล้ว ความวุ่นวายด้านล่างยังไม่จบเลยครับ

มีหลายร้อยคนไม่ได้ขึ้นเรือครับ และเรือก็ออกจากท่าไปต่อหน้า ต่อตา ครับ ต้องมีตำรวจมาช่วยเครียร์กันเลยครับ เรื่องนี้เรื่องใหญ่เลยนะครับ ออกทั้งโหนกระแสและรายการข่าวต่างๆ ครับ

หลังจากที่กินมื้อเย็นเสร็จก็ได้เวลาแห่งความบันเทิงครับ ปกติทางเรือจะมีโชว์ทุกวันครับ

แต่ละวันก็จะแตกต่างกันออกไปครับ นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ด้วยนะครับ ตามห้องต่างๆ บนเรือครับ เราสามารถดูกิจกรรมต่างๆ บนเรือได้จากหนังสือพิมพ์ที่ทางเรือเอาไปเสียบไว้หน้าห้องในตอนกลางคืนครับ ไม่ว่าจะเป็นเวลาในการเทียบท่า การลงเรือ และกิจกรรมต่างๆ บนเรือครับ ความดีงามอย่างหนึ่งของทริปนี้ก็คือ หนังสือ มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษครับ

ความเครียดจากการชุลมุนขึ้นเกือบไม่ได้เมื่อวานเริ่มผ่อนคลาย ตื่นเช้ามา ถ่ายรูปสวยๆ ท้ายเรือกันซักหน่อยครับ

เรือกำลังจะเทียบท่าที่สีหนุวิลล์ครับผม ปกติเรือต้องถึงตั้งแต่ก่อน 8 โมง แต่เมื่อคืนมีความชุลมุน วันนี้เรือเทียบท่าที่สีหนุวิลล์ประมาณ 9 โมง กว่าจะได้ลงเรือก็ประมาณ 10 โมงกว่าเลยครับ

ถึงแล้วครับ สีหนุวิลล์ วิว อาจจะไม่สวยเท่ายุโรปนะครับ อากาศก็จะร้อนหน่อยครับ

กินมื้อเช้าเสร็จ ถ่ายรูปเล่นระหว่างรอเรือเทียบท่ากันครับ

ส่วนของที่สีหนุวิลล์ เรือสามารถเทียบท่าได้เลยครับ สะดวกสบายหน่อยไม่ต้องลงเรือเล็กครับ

พอถึงที่ท่าเรือ ทางเรือก็เตรียมรถบัสให้เราไปลงที่ใจกลางเมืองสีหนุวิลล์ครับ เราสามารถเดินเล่น หรือเช่ารถนำเที่ยวไปเที่ยวต่อกันได้ครับ ส่วนของผม ก็เช่ารถไปเที่ยวกันต่อครับ ก็จะมีไปเที่ยวชายทะเลประมาณ 3 แห่ง สัญลักษณ์ของเมืองนิดหน่อย และพาไปห้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองสีหนุวิลล์ครับ ไปกินข้าวกันที่นั่น ก่อนที่จะกลับไปขึ้นเรือครับ

ส่วนของชายทะเลที่สีหนุวิลล์ผมว่าก็คล้ายบางแสนบ้านเราครับ

ส่วนอันนี้ก็จะเป็นสิงโตทอง สัญลักษณ์นึงของสีหนุวิลล์ครับ ทางรถเช่าจอดให้ลงไปถ่ายรูปกันกลางวงเวียนเลยครับ ห้าๆๆๆ

ส่วนอันนี้ก็จะเป็น Prince Mall ห้างที่ใหญ่และดีที่สุดของสีหนุวิลล์ครับ เค้าว่างั้นนะครับ

ส่วนของวันนี้ที่สีหนุวิลล์มีเวลาไม่มากครับ ประมาณ 10.30 – 16.00 น. ครับ ใกล้ๆ 16.00 น. เราก็ต้องกลับมาขึ้นเรือกันแล้วครับ

วันนี้สะดวกสบายหน่อยครับ นั่งรถบัสไปท่าเรือแล้ว ขึ้นเรือกันได้เลยครับ

ก่อนขึ้นเรือก็ถ่ายรูปเล่นกันนิดนึง

ขึ้นเรือมาเสร็จก็ได้เวลามามื้อเย็นพอดีครับ

ส่วนของมื้อเย็นบนเรือจะเริ่มประมาณ 17.15 น. ครับ กว่าจะเสิร์ฟอาหารครบคอร์สก็เกือบ 2 ทุ่มครับ กินเสร็จก็ไปดูโชว์กันต่อตามสเต็ปครับ

สำหรับวันนี้ มื้อนี้พิเศษหน่อยครับ มีกุ้งมังกรให้กินกันด้วยครับ

กินเสร็จก็มาดูโชว์กันครับ

เช้าวันต่อมา วันนี้เราจะไปลงเที่ยวกันที่เกาะฟูก๊วก ประเทศเวียดนามครับ

ก่อนลงเรือก็มากินมื้อเช้ากันก่อนซักหน่อยที่ชั้น 9 ครับ ส่วนของบุฟเฟ่ต์บนเรือทริปนี้ผมว่าอาหารไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ ผมต้องพกมาม่ามากินกันทุกเช้าเลยครับ ไม่แน่ใจเพราะเค้าเช่าเหมาลำมารึปล่าวนะครับ แอบคิดว่าเหมือนเวลาที่เราไปเช่าโรงแรมทำกิจกรรม เค้าก็จะมีโปรโมชั่นว่าจะเอาบุฟเฟ่ต์หัวละเท่าไหร่ ถ้าหัวนึงแพงๆ ก็จะมีอาหารดีตามไปด้วยครับ อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

ส่วนของการลงเรือที่เกาะฟูก๊วกวันนี้ เรือสำราญไม่สามารถเทียบท่าได้ครับ เนื่องจากท่าเรือตื้นเกินไปครับ

เราจะต้องนั่งเรือเล็กออกจากเรือสำราญไปขึ้นฝั่งครับ ทางเรือก็จะให้ไปรับบัตรเพื่อลงเรือเล็กกันครับ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นอีกแล้วครับ แย่งกันขึ้นเรือ วุ่นวายมากกกกกกก T_T กว่าจะได้เข้าห้องรับบัตร กว่าจะได้ลงเรือ ลูกค้าโวยวายกันอีกพักใหญ่ครับ

ส่วนของเรือที่เราลงจะเป็นเรือที่มากับเรือใหญ่ครับ เรือลำนึงนั่งได้ประมาณ 80 คนครับ กว่าจะลงกันหมดก็นานเอาการอยู่ครับ

ส่วนของเรือที่ใช้เดินทางมาจากเรือสำราญจะเป็นเรือตามภาพนี้เลยครับ

วันที่ลงที่เกาะฟูก๊วกประเทศเวียดนาม มีคน รายการข่าว และหน่วยงานราชการมาต้อนรับเป็นจำนวนมากเลยครับ

เค้าบอกว่าเรือสำราญลำนี้เป็นเรือสำราญลำแรกที่มาเทียบท่าหลังจากโควิดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวมานานครับ

ต้อนรับกันอย่างจริงจังมากครับ

ส่วนของการท่องเที่ยวที่เกาะฟูก๊วก ผมซื้อทัวร์แบบ One Day Trip ไว้ล่วงหน้าครับ

ลุ้นมากครับ ว่าจะได้ไปมั๊ย ซื้อแบบ Private ไว้ด้วยครับ ทริปนี้ผมเดินทางไปทั้ง 13 คนครับ เลยสั่งให้ทางทัวร์จัดแบบ Private ไว้ครับ

ตามรายละเอียดการนัดหมายตั้งแต่ก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์ จนสุดท้าย คือวันที่จะลงเรือวันรุ่งขึ้นเพิ่งได้นัดหมายครับ

สุดยอดมากครับ ทุลักทุเล ทัวร์รอบนี้ จำไปอีกนานครับ ห้าๆๆๆๆ

ส่วนของ One Day Trip ที่เกาะฟูก๊วกของผม เช้าเดินทางไปสวนสัตว์ ส่วนช่วงบ่ายเดินทางไป Vin Wonders ครับ

เอาจริงๆ ไม่ควรไปแบบนี้เลยครับ เวลาน้อยมากครับ กว่าผมจะลงเรือกันก็ 10.30 น. กว่าจะถึงฝั่งก็ 11 โมง ได้ไปสวนสัตว์ Vinpearl Safari ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ ช่วงบ่ายกินข้าวที่ Vin Wonders กินเสร็จบ่ายโมง เที่ยว Vin Wonders ได้ 1 ชั่วโมงครึ่ง ประมาณบ่าย 3 ต้องกลับไปขึ้นเรือครับ ห้าๆๆๆ เป็นการเที่ยวที่โหดร้ายมากครับ ชะโงกทัวร์อีกแล้วครับ

สำหรับใครที่ตั้งใจไปเที่ยว Vin Wonders จริงจัง ผมแนะนำให้ไปตั้งแต่เช้า และควรใช้เวลาที่นี่ทั้งวันนะครับ

Vin Wonders กว้างและมีอะไรให้เล่นเยอะมากครับ

ส่วนของการเที่ยวสวนสัตว์ก็เที่ยวแบบรีบๆ ครับ นั่งรถกอร์ฟไปขึ้นรถบัส เพื่อเข้าไปดูสัตว์ครับ ผมว่าคล้ายๆ กับซาฟารีเวิลด์บ้านเราครับ ผมว่าซาฟารีเวิลด์บ้านเรา น่าเที่ยวมากกว่าด้วยครับ ใครมีเวลาน้อยแนะนำให้ข้ามไป Vin Wonders กันเลยดีกว่านะครับ ห้าๆๆๆ

น้องเสือไม่จอย หันหลังให้ ห้าๆๆๆ

ข้ามอย่างไวกับสวนสัตว์ครับ วิ่งๆ รีบๆ เที่ยวสวนสัตว์ครับ ห้าๆๆๆ

…มาต่อกันที่ Vin Wonders แอบประทับใจนิดๆ ครับ สำหรับที่นี่ ถ่ายรูปสวย มีเครื่องเล่นให้เล่นพอสมควร อาจจะดีไม่เท่า Disneyland แต่ก็ทำให้เราสนุก เพลิน ถ่ายรูปสวยๆ หายคิดถึง Disneyland ได้นิดหน่อยครับ ^^

ถ่ายรูปสวยใช้ได้เลยนะครับ

เข้ามาด้านในก็มีปราสาทเหมือนที่ Disneyland เลยครับ สวยๆ

ก่อนจะเข้าไปเล่นเครื่องเล่นด้านใน ก็แวะกินข้าวกันก่อนที่ร้านอาหารข้างสวนน้ำครับ

เวลาสำหรับวันนี้ 1.30 ชม. คงเข้าไปเล่นสวนน้ำไม่ได้นะครับ แค่จะแวะเข้าไปดูยังไม่มีเวลาเลยครับ ห้าๆๆๆๆ

หลังจากที่กินข้าวเสร็จก็เดินเข้าไปเล่นเครื่องเล่นทางด้านในครับ เดินไกลพอสมควรเลยครับ ที่นี่ใหญ่มากครับ

เดินไป เดินมา ฝนตกอีกครับ โอ้วมาย ไม่มีเวลาแล้วฝนยังตกอีกครับ T_T

ชีวิต ทุลักทุเลทัวร์ไปอีกครับ ห้าๆๆๆ

ส่วนของเครื่องเล่นแรกวันนี้ก็คือ… ล่องแก่งครับ ผมไม่ได้เล่นนะครับ จะเป็นพี่ชายผมเล่นครับ

หลังจากเล่นล่องแก่งเสร็จก็ไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ครับ ใหญ่และสูงมากกกก ขึ้นไปแล้วสวยเลยครับ

วนรอบนึงประมาณ 20 นาทีได้ครับ

พอได้ขึ้นมาข้างบนก็จะได้เห็นว่าที่ Vin Wonders ใหญ่จริงๆ นะครับ เครื่องเล่นก็เยอะใช้ได้ครับ

แต่แอบเสียดายที่ไม่ค่อยมีเวลาที่นี่ครับ

หลังจากที่ลงมาจากชิงช้าสวรรค์ก็พอมีเวลาอีกนิด ไปดูอควาเรียมครับ

ไฮไลท์ก็จะเป็นมุมนี้เลยครับ กระจกบานใหญ่ปลาเต็มไปหมดเลยครับ จะมีรอบโชว์นางเงือกด้วยนะครับ

อีกจุดนึงก็จะเป็นอุโมงค์ ให้เราเข้าไปสัมผัสกับปลาได้ใกล้ๆ แบบนี้เลยครับ

ที่เหลือก็จะคล้ายที่บางแสนครับ ห้าๆๆๆ

ส่วนของอควาเรียมถ้าใครไปไม่ถูกสัญลักษณ์ของอควาเรียม ก็คือ เต่าพ่นน้ำตัวใหญ่ๆ แบบนี้ ตรงนี้เลยครับ

ส่วนอันนี้ก็เป็นชิงช้าสวรรค์ที่ผมเพิ่งไปขึ้นมาครับ ใหญ่มากนะครับ

ถ่ายรูปเล่นระหว่างเดินกลับไปขึ้นรถข้างหน้ากันซักหน่อยครับ

ปิดท้ายก่อนกลับ รูปคู่กับปราสาทที่ Vin Wonders กันซักหน่อยน้า…

ตอนที่กำลังจากกลับจาก Vin Wonders ที่ Vin Wonders พายุกระหน่ำมากครับ ต้องวิ่งตากฝนขึ้นรถกันเลยครับ

พอมาถึงท่าเรือฝนยังไม่ตกครับ แอบลุ้นมากว่าจะตกมั๊ย ไม่นานครับ

ฝนก็ไล่ตามมาครับ ความวุ่นวายบังเกิดอีกแล้วครับ

ฝนกระหน่ำ ไม่ลืมหูลืมตาครับ ที่หลบฝนก็ไม่มีครับ โอ้วมายยยยยยย

ฝนตกหนักมาก คลื่นลมแรง เรือเหลืองลำเล็กสู้คลื่นทะเลไม่ไหวครับ เรือที่ออกไปก่อนหน้าก่อนที่ผมจะลงไป ลอยลำกลางทะเลเกือบชั่วโมง เพราะคลื่นลมแรง ไม่สามารถเทียบกับเรือใหญ่ได้ครับ คนบนเรือเป็นลมและสลบไปครับ ต้องเข้าห้องพยาบาลบนเรือสำราญครับ

ส่วนของรอบที่ผมไป ผมรอเรือเกือบชั่วโมงครับ ก็คงเพราะคลื่นแรง เรือเลยไม่ออกมารับครับ

หลังจากรอมาเกือบชั่วโมง เรือเหลืองก็มารับแล้วครับ แต่ก็ไม่เบานะครับ คลื่นแรง คลื่นสูงมากครับ เรือโต้คลื่นกระแทกน้ำแรงมากครับ หลายๆ คนบนเรือกลัวกันมากๆ ครับ แต่ก็ขึ้นเรือใหญ่ได้สำเร็จครับ น่ากลัวมากกก ไม่เคยเจอแบบนี้เลยครับ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าล่องเรือสำราญหน้าฝนครับ ห้าๆๆๆๆ ตอนแรกก็แอบคิดอยู่เหมือนกันนะครับ ไปเที่ยวเรือสำราญเดือน พค. มันเริ่มหน้าฝนแล้วนี่นา ฝนจะตก คลื่นจะแรงมั๊ยน้า… เจอเต็มๆ ครับ

ส่วนของล่องเรือสำราญฝั่งเอเชีย เริ่มที่ไทย ไม่ได้มีแต่ข้อเสียนะครับ

ข้อดีก็มีครับ คือ การสื่อสารต่างๆ จะมี 2 ภาษา ทั้งอังกฤษและไทย รวมถึงมีโชว์พิเศษ Mini Concert จากนักร้องและดาราไทยทุกวันที่ดาดฟ้าเรือครับ อ้อ… แต่แอบไม่มี 1 วันนะครับ เพราะว่านักร้องคนนั้นไม่มีชื่อบนเรือครับ ห้าๆๆๆ เลยไม่ได้ขึ้นมาแสดงบนเรือครับ งงมั๊ยครับ ถูกจ้างมาแสดงแต่ไม่มีชื่อขึ้นเรือ แต่ผู้จัดการและช่างแต่งหน้าได้ขึ้นเรือนะครับ ห้าๆๆๆ

วันสุดท้ายของการลงเรือ วันนี้เรามาเทียบท่าที่เกาะสมุยครับ

เกาะสมุยเรือสำราญเทียบท่าไม่ได้เหมือนที่เกาะฟูก๊วกครับ เลยต้องลงเรือเล็กไปครับ แต่วันนี้ดีหน่อยครับ มีทั้งเรือเล็กสีเหลืองและเรือใหญ่จุคนได้หลายร้อยคนครับ เรือใหญ่เจอคลื่นแรงก็ชิลๆ หน่อยนะครับ ไม่น่ากลัวเหมือนเรือเล็กครับ

วันนี้ผมได้นั่งเรือใหญ่มาที่ฝั่งเลยเดินเล่นไปถ่ายเรือสำราญที่เราโดยสารมาได้ด้วยครับ

เรือสำราญจะลอยลำอยู่กลางทะเลแบบนี้ครับ สำหรับท่าเรือที่เรือสำราญเข้าไปไม่ได้น้ำตื้นเกินไปครับ โดยปกติแล้ว ถ้าเราไม่ลงมาที่ฝั่ง บนเรือก็จะมีกิจกรรมต่างๆ ให้เล่นบนเรือด้วยนะครับ แต่คนส่วนใหญ่ ชอบที่จะลงมาเที่ยวที่ฝั่งกันมากกว่าครับ

ส่วนของที่เกาะสมุยผมทำการเช่ารถตู้พร้อมคนขับไว้ครับ ก็จะแวะไปข้าว เที่ยวหินตาหินยาย และไปคาเฟ่ครับ

ส่วนของร้านอาหารผมไปกินกันที่เสบียงเลครับ อาหารอร่อย อาหารได้เร็ว บรรยากาศดีมากครับ ถ้าใครสนใจเดี๋ยวผมรีวิวแยกให้อ่านกันนะครับ เผื่อใครไปสมุยไปแวะกินกันได้ครับ

ส่วนของหินตา หินยาย วันนี้คนเยอะเลยครับ แม่ค้า พ่อค้า บอกกันว่า วันนี้เรือใหญ่ลง คนเยอะเลย ขายดี ห้าๆๆๆ

ปิดท้ายทริปสมุยกันที่ CoCo Tam’s นั่งชิลๆ ริมทะเล กินน้ำ กินหนม แล้วกลับไปขึ้นเรือกันครับ

ถ่ายรูปสวยๆ ที่ชายหาดกันอีกนิดนึง

เหมือนฝนจะไล่หลังมาอีกแล้วครับ แต่รอบนี้เราขึ้นเรือใหญ่ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ครับ

แต่ก็แอบมีเหตุอีกแล้วครับ ช่วงกลางวันน้ำลง เรือเล็กเทียบเรือใหญ่ไม่ได้ครับระดับไม่เท่ากัน เรือต้องลอยลำกลางทะเลอีกแล้วครับ ลอยลำกลางทะเลชั่วโมงกว่า คนที่ฝั่งก็ยืนรอเรือเกือบ 2 ชั่วโมง หงุดหงิดกันอย่างหนักครับ ผมมาช่วงเย็นๆ เรือเที่ยวสุดท้ายครับ ดีนะครับ รอไม่ค่อยนานเท่าไหร่ครับ

จบทริปเรือสำราญ Costa Serena แหลมฉบัง สีหนุวิลล์ ฟูก๊วก สมุย ด้วย… วัยรุ่น 2 ขีดจ้า

ผมเพิ่งเคยเป็นครั้งแรกด้วยครับ อาการเยอะเลย หลังจากกลับมาได้ 2 วัน เริ่มมีอาการ 2 วันแรกตรวจไม่เจอครับ วันที่ 3 ตัว T เข้มเลยครับ ห้าๆๆๆ แม่ผมต้อง Admit ที่ รพ. ส่วนผมกับตาลไปตรวจที่ รพ. แล้วกลับมากักตัวที่บ้านครับ

อาการหนักใช้ได้ครับ เป็นครั้งแรกครับ T_T สำราญมั๊ยหละครับ ห้าๆๆๆๆ

สรุปทริปเรือสำราญ Costa Serena แหลมฉบัง สีหนุวิลล์ ฟูก๊วก สมุย กันซักหน่อยนะครับ

  • วันที่ 1 เรือสำราญออกจากแหลมฉบังประมาณ 3 ทุ่ม
  • วันที่ 2 เรือเทียบท่าที่สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา เที่ยวตัวเมือง ชายหาด สัญลักษณ์ของเมือง และห้าง Prince Mall ห้างที่ใหญ่ที่สุด
  • วันที่ 3 เรือเทียบท่าที่เกาะฟูก๊วก ประเทศเวียดนาม เที่ยวสวนสัตว์ Vinpearl Safari เที่ยวสวนสนุก Vin Wonders กลับขึ้นเรือ
  • วันที่ 4 เรือเทียบท่าที่เกาะสมุย ประเทศไทย กินข้าวที่เสบียงเล เที่ยวหินตาหินยา นั่งคาเฟ่ CoCo Tam’s
  • วันที่ 5 เรือเทียบท่าที่แหลมฉบัง เดินทางกลับกรุงเทพ โดยสวัสดิภาพ

ส่วนตัวนะครับ ผมว่าส่วนของการลงเรือไปเที่ยวที่ฝั่งเมืองต่างๆ แพลนผมแอบแน่นไปหน่อยครับ ไปได้ที่ละนิด ที่ละหน่อยครับ โดยเฉพาะที่เกาะฟูก๊วกครับ ใครอยากไปเที่ยวผมว่านั่งเครื่องบินไปเที่ยวน่าจะสนุกกว่าครับ มีเวลาเต็มๆ ครับ ลงเรือสำราญกว่าเรือจะเทียบท่า กว่าจะได้ลงเรือ ก็ 10-11 โมง ต้องกลับขึ้นเรือ 4 โมงเย็น เวลาบนฝั่งมีน้อยมากครับ ผมไม่แน่ใจว่าทำไมถึงช้า ได้ลงเรือช้านะครับ ที่ฝั่งยุโรประยะทางอาจจะสั้นกว่า เค้าแพลนมาดีกว่ารึปล่าว บางครั้งเราตื่นมา 6-7 โมงเรือก็เทียบท่าแล้วครับ กินข้าวแล้วประมาณ 8 โมง ก็ลงไปเที่ยวกันได้แล้วครับ อ้อ อีกเรื่องนึงคือ แพลนนี้ ทำให้ผมไม่มีเวลาใช้สิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือเลยครับ แอบเสียดายเหมือนกันครับ ไม่ได้ทำ Content บนเรือเท่าที่ควรครับ ปกติแล้วถ้าเราไปล่องเรือฝั่งยุโรป เค้าจะมี 1 วัน วันสุดท้าย ที่เรือจะล่องทั้งวัน ทั้งคืนครับ วันนั้นเราจะได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือทั้งวันครับ ว่ายน้ำ เล่นกิจกรรมต่างๆ บนเรือครับ

ส่วนของข้อดี ข้อเสีย และข้อแตกต่างระหว่างการล่องเรือฝั่งยุโรปและอเมริกา ที่ผมเคยไปมา vs ฝั่งเอเชีย เริ่มที่แหลมฉบัง ประเทศไทย ครั้งนี้

ล่องเรือฝั่งยุโรปและอเมริกา

  • การเช็คอินสะดวกสบายและรวดเร็วกว่า มีช่องทางพิเศษสำหรับห้อง Suite
  • ห้องอาหารเย็นแบบเซ็ตมีให้เลือก 2 ช่วงเวลา ต้องแต่งกายเรียบร้อย แยกระหว่างห้องธรรมดากับห้อง Suite อาหารดี บริการดี
  • หลังจากที่จองรอบอาหารมื้อเย็นแล้ว ที่นั่งจะได้นั่งโต๊ะเดิมตลอด พนักงานเสิร์ฟคนเดิม วันหลังๆ จะเริ่มคุ้นเคย รู้ใจ
  • มี Captain Night จะเป็น Gala Dinner ที่ทุกคนใส่สูท ชุดมาเต็ม สวยกันทั้งเรือ กัปตันเรือลงมาถ่ายรูป มีอาหารพิเศษ
  • โซนสระว่ายน้ำมีโซนพิเศษสำหรับห้อง Suite เข้าได้เฉพาะห้อง Suite เท่านั้น
  • ห้อง Suite จะมี Butler มาคอยดูแล จองโต๊ะอาหาร จองที่นั่งโชว์ บริการต่างๆ เป็นเหมือนเรขาส่วนตัว
  • ข่าวสารที่ส่งให้หน้าห้องทุกคืนมีแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น
  • การแสดงทั้งหมดเป็นการแสดงต่างชาติภาคภาษาอังกฤษ
  • ภาพรวม ชอบทั้งบริการ และอาหาร บริการดีมาก การจัดการดีมาก เรือตรงเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเทียบท่าหรือออกจากฝั่งในแต่ละเมือง

ล่องเรือฝั่งเอเชีย เริ่มที่แหลมฉบัง ประเทศไทย

  • การเช็คอินลำบากและวุ่นวายมาก ไม่มีช่องพิเศษสำหรับห้อง Suite ทั้งที่บอกว่าจะมีได้ขึ้นเรือก่อน
  • ห้องอาหารเย็นแบบเซ็ตมีแค่วันละ 1 รอบคือ 17.15 น. แต่งตัวยังไงไปกินก็ได้ ห้อง Suite ไม่มีสิทธิพิเศษ ไม่มีพื้นที่พิเศษให้
  • อาหารมื้อเย็น ไม่มีการจองเวลา ที่นั่งเปลี่ยนแปลงตลอด สลับที่วนไปเรื่อยๆ
  • ไม่มี Captain Night ไม่มีคืนพิเศษ
  • อยู่ห้อง Suite แต่ Butler ไม่มาแสดงตัว ห้าๆๆๆ
  • ไม่มีโซนพิเศษสำหรับห้อง Suite ทุกโซนรวมกันหมด บางโซนปิดไม่เปิดให้บริการ
  • ข่าวสารที่ส่งให้หน้าห้องทุกคืนมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย
  • มีทั้งการแสดงต่างชาติภาคภาษาอังกฤษและ Mini Concert นักร้อง ดาราไทย
  • ภาพรวมไม่ค่อยประทับใจเลยครับ อาหารก็ไม่ดี การจัดการไม่ค่อยดี เรือไม่ตรงเวลา ทั้งเทียบท่าและออกจากฝั่งแต่ละเมือง

ส่วนของรีวิวนี้ผมไม่ได้มาว่าหรือระบายอะไรนะครับ อยากที่แชร์ประสบการณ์ให้อ่านกันครับ การท่องเที่ยวก็จะมีทั้งที่ไปแล้วเป็นไปอย่างที่คิด เจอแต่เรื่องดีๆ เจอแต่สถานที่สวย อีกมุมนึงก็ยังมีสิ่งที่ไม่คาดฝัน ไม่คิดว่าจะเจอ ปนๆ กันไปนะครับ แต่ผมไม่อยากให้ทริปนี้เป็นประสบการณ์ที่แย่สำหรับคนที่เคยล่องเรือสำราญครั้งแรกนะครับ การล่องเรือสำราญจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม ดีกว่านี้เยอะมากครับ และประทับใจเกือบทุกรอบครับ ใครเจอเรื่องร้ายๆ ครั้งนี้ ลองไปกันใหม่ที่ฝั่งยุโรปหรืออเมริกากันดูนะครับ รับรองว่าประทับใจอย่างแน่นอนครับ ^^

You May Also Like

More From Author