ทริปนี้… ขอพาไปเที่ยวยุโรปที่เวียดนามกันหน่อยนะครับ ที่นี่ผมเห็นหลายคนไปเที่ยวแล้วโพสลง Social กันเยอะมากครับ ผมว่าหลายคนก็น่าจะรู้จักกันมาบ้างแล้วเนอะ แต่ก็คงคิดเหมือนผมว่า… ไม่คิดว่าจะมีที่ท่องเที่ยวแบบนี้ใกล้เรา แถมยังไปเที่ยวได้ในราคาที่ไม่แพง ที่นี่บาน่าฮิลล์ หรือชื่อเต็มๆ ภาษาอังกฤษก็คือ Sun World Ba Na Hills ก่อนหน้านี้ที่นี่เป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่มีอาศัยที่เวียดนามในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1,2 ซึ่งเวียดนามเป็นเมืองขึ้น ชาวฝรั่งเศสเลือกยอดเขาแห่งนี้ที่ดานังมาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้ทางด้านบน
ต่อมา… ก็ได้มีการปรับปรุงพื้นที่ที่ถูกทิ้งล้างมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งผมว่าดีมากๆ เหมือนเราได้ไปเที่ยวยูโรปด้วยการเดินทางที่ไม่นานบินจากไทยไปแค่ 1-2 ชั่วโมง ราคาไม่แพงแต่ได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในยุโรปเลยครับ ทั้งบรรยากาศและอากาศครับ ส่วนของโรงแรมทางด้านบนจะเป็นโรงแรม Mercure Danang French Village Bana Hills ใครที่อยากจะไปเที่ยวผมแนะนำนะครับ ไปนอนค้างกันซัก 1-2 คืน จะดีกว่า เพราะว่าช่วงกลางวันคนจะเยอะมาก ทัวร์ส่วนใหญ่จะไปเช้าเย็นก็ลงมานอนข้างล่างครับ เพราะฉนั้นช่วงกลางวันคนจะเยอะมาก แบบว่าทุกอนูครับ ใครอยากถ่ายรูปสวยๆ ต้องนอนข้างบน ออกมาเดินตอนกลางคืนและเช้า ที่ทัวร์ยังมาไม่ถึงได้รูปสวยๆ แน่นอนครับ
ส่วนของทริปนี้จริงๆ ผมมาไปเที่ยวที่อื่นก่อนที่จะนอนที่บาน่าฮิลล์ 1 คืนครับ แอบเศร้าหน่อยๆ เหมือนผู้ประสบภัย ผมไปถึงประมาณบ่ายๆ กว่าจะเช็คอินเสร็จก็เกือบเย็น แทบจะไม่ได้เล่นอะไรเลย ส่วนสนุกปิดห้าโมงเย็น เช็คอินนานมาก ถ้าให้แนะนำนะครับ สำหรับใครที่คิดว่าจะนอนคืนเดียว ชึ้นไปแต่เช้า ไปเที่ยวเล่นสวนสนุกก่อน แล้วค่อยเช็คอินบ่ายแก่ๆ เย็นๆ ก็ได้ครับ
รอบนี้ผมจัด Private ทัวร์ไป ทัวร์จัดให้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขึ้นไปก็บ่าย เช็คอินเสร็จก็เย็นและแถมยังให้เช็คเอ้าท์ก่อนเที่ยงแล้วลงมากินมื้อเที่ยงข้างล่างอีก ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ แทบจะไม่มีเวลาเที่ยวเล่นเท่าไหร่เลยครับ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยพาไปดูกัน #ต้องซ่อมมั๊ยเนี๊ย T_T
ส่วนขอการขึ้นไปด้านบนถ้าใครไม่ได้นอนข้างบนต้องซื้อตั๋วขึ้นไป ราคาจะอยู่ประมาณพันกว่าบาท แต่ถ้านอนด้านบนก็จะสามารถขึ้นไปได้ฟรีครับ ราคานี้จะรวมกระเช้าขึ้นไปและเล่นสวนสนุกด้านบนได้ด้วยนะครับ ส่วนของกระเช้าขึ้นไปด้านบนก็แบบนี้เลยครับ
กระเช้านึงก็ขึ้นได้ประมาณ 5-6 คนครับ ถ้าใครนอนด้านบนก็ต้องเอากระเป๋าขึ้นกระเช้าไปด้วยครับ
วิ่งขึ้นกระเช้าก็แอบทุลักทุเลนิดนึงน้า ถ้ากระเป๋าใหญ่ๆ กัน กระเช้าจะไม่หยุดให้ขึ้น
กระเช้าไหลๆ ไปตลอดครับ
ระหว่างทางก็ชมวิวสวยๆ กันไป วิวดี สูงมากๆ แบบว่าหูอื้อกันเลยทีเดียว
นั่งกระเช้าชมวิวสวยๆ กันแบบนี้ครับ สวยมาก แต่ก็แอบเสียวหน่อยช่วงแรกครับ
พอเริ่มชินก็ไม่เท่าไหร่แล้วครับ
คนกลัวความสูงอาจจะเสียวกันนิดนึงน้า แต่วิวสวย ก็พอหายกลัวได้
ตอนที่อยู่ทางด้านล่างอากาศก็ดีมากนะครับ อากาศร้อนเลย แต่พอขึ้นมาถึงด้านบน อากาศเย็นมากกกกกกก ที่สำคัญคือ… เหมือนมาอยู่ในก้อนเมฆจ้า… บางช่วงมองเห็นแค่ในระยะไม่เกิน 2 เมตรครับ ห้าๆๆๆๆ
แถมหมอกเยอะจัดพร้อมลมแรงๆ กลายเป็นสายฝนไปซะงั้น ต้องใส่เสื้อกันฝน หรือกางร่มไม่งั้นเปียก T_T
ไหนๆ ก็ขึ้นมาแล้วเก็บภาพกันซักนิดนึง ต้องกางร่มไม่งั้นเปียก แงๆๆๆๆ
ภาพที่เห็นตอนนี้คือ… เวลาประมาณ 4 โมงนะครับ คนที่มาเช้าเย็นกลับเริ่มลงไปกันแล้วครับ โล่งมาก ถ่ายรูปสวยเลยครับ ตอนที่ผมขึ้นมาตอนแรก ตรงนี้แน่นมาก แทบจะไม่มีที่ยืน ถ่ายยังไงก็ติดคนครับ
ใครอยากถ่ายรูปสวยๆ แบบนี้ นอนข้างบนกันน้า
เดินเล่นกันซักหน่อยทั้งที่หมอกหนาๆ ส่วนของช่วงที่ผมไปจะเป็นช่วงเดือนงธันวาคมครับ
ส่วนของหมอกไม่มีจะจางหายเลยครับ แค่มีมากหรือมีน้อยเท่านั้นเอง
เศร้ามาก ทั้งเปียก และเห็นวิวไม่ไกล
แต่คิดในแง่บวก ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบนึงเนอะ แต่… ไม่ค่อยชอบแบบนี้เท่าไหร่
ส่วนของช่วงเย็น ค่ำ และเช้า อยากจะบอกว่าเหมือนเมืองร้างครับ เงียบมาก
แต่ถามว่าคนอยู่ข้างบนเยอะมั๊ย ห้องก็เต็มตลอดนะครับ ใครจะมานอนทางด้านบนต้องจองล่วงหน้านานๆ หน่อยนะครับ
ส่วนของห้องก็มีหลากหลาย มีทั้งแบบมีระเบียงและไม่มีระเบียง แบบไม่มีระเบียงผมว่าอึดอัดไปหน่อย
ส่วนของห้องก็จะประมาณนี้เลยครับ แนววินเทจ ตกแต่งสไลต์ยุโรปสวยเลยครับ
ในห้องจะมี Heater เค้าบอกว่าที่นี่อากาศเย็นทั้งปี ช่วงหน้าหนาวจะยิ่งหนาวมาก ก็ไม่น่าเชื่อนะครับ แค่ขึ้นมาด้านบนอากาศก็ต่างกันลิบลับเลยครับ ใครที่ชอบอากาศเย็น ที่นี่ไม่ผิดหวังครับ
ส่วนของวิวที่ระเบียง เอิ่ม !!!! วันที่ผมไป ไม่เห็นอะไรเลยจ้า… เห็นแบบรางๆ คิดว่าอยู่ในหนัง Harry Potter ห้าๆๆๆ
ช่วงที่หมอกบางหน่อย ก็จะสวยหน่อยแบบนี้ ผมว่าวิวที่นี่สวยมากนะครับ
เหมือนอยู่ยุโรปมากกกกกกก
เดินเล่นกันหน่อย ส่วนตรงนี้จะเป็นร้านของที่ระลึกครับ ช่วงที่ผมไปกำลังจะคริสต์มาสพอดี
สโนว์แมนก็มา…
อีกมุมนึงบริเวณนี้ก็ต้องโบสถ์คริสต์ตรงนี้เลยครับ สวยมาก
มุมถ่ายรูปที่นี่มีเยอะมาก
นอกจากพื้นที่โซนโรงแรมแล้ว ไฮไลท์ของที่นี่ก็ต้องเป็นสะพานมือ ที่ผมแทบจะมองไม่เห็นมือ แง แง…
ต้องเข้าไปใกล้ๆ หน่อย อ้อ มืออยู่นี่เอง ห้าๆๆๆๆ
เข้าใกล้หน่อย รอจังหวะหมอกบาง ยอมเปียกนิดนึง แช๊ะ ห้า ห้า ห้า…
ถ่ายรูปกันยาวปายจ้า
นอกจากสะพานมือแล้วก็ยังมีสวนดอกไม้ ถ้าไม่มีหมอกน่าจะสวยมากครับ
แต่ผมไป มองเห็นแค่ในระยะ 1-2 เมตร T_T
อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ Double High Speed Alpine Coaster รถรางเลื่อนนั่งแล้วเลื่อนไปยาวๆ ตื่นเต้นและสนุกมาก ปล.ดูจากคลิปนะครับ ห้าๆๆๆ ใครไปแล้วไม่ได้เล่นถือว่าพลาดครับ
ผมนี่แหละครับ ที่พลาด หมอกหนาจัดปิดให้บริการจ้า แง แง อีกแล้ว
แต่ก็แอบได้เล่นสวนสนุกนิดหน่อย
อย่างที่บอกนะครับ ว่าแนะนำให้มานอน 1-2 คืน ใครมานอนคืนเดียวแนะนำให้ขึ้นมาแต่เช้า เพราะว่าสวนสนุกบริเวณนี้จะปิดประมาณ 5 โมงและเปิดสายหน่อยครับ น่าจะประมาณ 10 โมงครับ ผมมาก็พลาดอีกแล้วได้เล่นเครื่องเล่นไม่ถึงชั่วโมงครับ
กลับมากินบุฟเฟ่ต์มื้อเย็น ก่อนจะไปหาอะไรดื่มยามดึก
ใครที่มานอนทางด้านบนอย่าลืมซื้อบุฟเฟ่ต์มาด้วยนะครับ หลังห้าโมงเย็นร้านส่วนใหญ่ด้านบนนี้จะปิดหมดครับ เหลือแค่ส่วนของโรงแรมครับ ไม่มีอะไรกินเลย
ปิดท้ายขอสรุป เผื่อใครไม่แยกต้องมาซ่อมแบบผม ผมว่ามาเที่ยวที่นี่ช่วงหน้าร้อนน่าจะดีกว่าครับ อากาศอาจจะไม่ถึงกับหนาวเย็นนิดๆ แต่ก็ไม่มีหมอกหนาแบบผมครับ ส่วนของการนอนทางด้านบน ผมว่ามีให้เลือก 2 แบบ คือ พัก 2 คืน มาช่วงบ่ายๆ เช็คเอ้าท์ช่วงเช้าได้ ชิลๆ หรือถ้าใครมาแค่คืนเดียวแนะนำให้มาแต่เช้า ฝากกระเป๋าแล้วเที่ยวเล่นก่อน ค่อยกลับมาเช็คอิน อันนี้ก็เช็คเอาท์สายๆ ได้เช่นกันครับ เที่ยวได้เต็มๆ วัน 1 วันเหมือนกันครับ
ทริปนี้ผมพลาดไปหน่อยให้ทัวร์จัดทริปแบบ Private ให้ มาถึงบ่ายๆ กว่าเช็คอินได้ก็เย็นแล้ว แถมยังต้องเช็คเอาท์เร็ว ไปกินข้าวกลางวันข้างล่างครับ แทบจะไม่ได้เที่ยวเล่นด้านบนเลยครับ กว่าจะเช็คอินเสร็จก็ 4 โมงกว่า ได้เล่นสวนสนุก 1 ชั่วโมงแล้วก็ปิด ได้ไปเที่ยวสะพานมือแบบรีบๆ เช้าก็ไม่ได้ไปไหนเลย ต้องเตรียมตัวเช็คเอาท์ จริงๆ ที่นี่ยังมีที่ให้เที่ยวอีกหลายส่วนเลยครับ ผมเดินแบบเร็วๆ ทั้งหมอกหนาและไม่ค่อยมีเวลาเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่นอกจากโรงแรมปิด 5 โมงเย็นครับ เลยรีวิวมาให้ได้แค่นี้น้า สงสัยต้องกลับไปซ้ำ กลับไปซ่อมแน่ๆ เลยครับ ห้าๆๆๆๆ