เอาใจสายเนื้อกันอีกแล้วครับ ^^ คนที่อ่านรีวิวผมเป็นประจำน่าจะพอทราบว่าผมชอบกินเนื้อมากกกกกนะครับ วันนี้ก็เลยจัดอีกแล้วครับ #กินเนื้อเยอะเกิ้น สงสัยต้องรวมร้านเนื้อซักรีวิวแล้วมั้งเนอะ ความเด่น ความน่าสนใจของร้านนี้ก็คือ โปรโมชั่นของเค้าครับ #ที่มีทุกเดือน เค้าว่างั้นนะครับ แต่ผมเห็นใน Facebook ร้านเค้าก็มีทุกเดือนจริงๆ ครับ ช่วงที่ผมไปจะเป็นเดือนกรกฏาคมครับ แต่รีวิวนี้ออกเดือนสิงหาคมครับ ผมแอบไปดู Facebook ของร้านเค้าก็มีโปรใหม่สำหรับเดือนสิงหาคมมาแล้วนะครับ (www.facebook.com/nikusho/) อ้อ…ลืมบอกไป ร้านนี้มีชื่อว่า “NIKU SHO” ครับผม ร้านจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 ครับ เข้าจากปากซอยไปไม่ไกลครับ ส่วนตัวผมเดินทางด้วยรถไฟฟ้าครับ ลงสถานีพร้อมพงษ์ เดินอีกประมาณ 650 เมตรครับ แต่ใครเอารถไปทางร้านก็มีที่จอดรถให้นะครับ
อย่ารอช้ากันอยู่เลยเนอะ ผมเห็นภาพจาก Facebook ของทางร้านแล้วอดใจไม่ไหวจริงๆ ครับ ต้องขอลองดูเนื้อวากิว A5 ตัวเป็นๆ ซักหน่อย ว่าที่ร้านของเค้าภาพเพื่อการโฆษณารึปล่าว ห้าๆๆๆๆๆ
ส่วนของหน้าร้าน “NIKU SHO” สุขุมวิท 31 ก็ประมาณนี้เลยครับ ป้ายหน้าร้านมีเนื้อหลากหลายมากๆ ครับ น่ากินสุดๆ ไปเลย เท่าที่ลองสั่งถึงแม้ว่าจะไม่โปรโมชั่น ราคาก็ไม่แรงเท่าไหร่นะครับ เหมาะกับสายเนื้อวากิวมากๆ ครับ อาจจะด้วยสถานที่ที่ไม่ได้อยู่ในห้างเลยทำให้เค้าสามารถทำราคาโปรโมชั่นได้แบบนี้ครับ ^^
ส่วนของภายในร้านจะมีทั้งหมด 2 ชั้นครับ
ชั้นล่างจะมีทั้งแบบที่เป็นนั่งโต๊ะ และแบบที่เป็นเค้าเตอร์บาร์ครับผม ส่วนเค้าเตอร์บาร์ก็เหมาะสำหรับใครที่มาคนเดียว
นั่งเพลินๆ ย่างเนื้อไป จิบเบียร์ไป นั่งชมวิวถนนด้านหน้าไปครับ ^^
ส่วนชั้น 2 ก็จะเป็นแนวห้อง VIP หน่อยๆ ครับ มีความเป็นส่วนตัว ใครอยากได้ความเป็นส่วนตัว
นั่งชิลๆ กับเพื่อนๆ เมาส์กันมันๆ เชิญชั้น 2 เลยครับผม
อาหารเริ่มทะยอยมาเสิร์ฟแล้น กลับไปนั่งโต๊ะกันดีกว่าเนอะ
วันนี้น้ำดื่มขอติดแอลกอฮอล์นิดนึงนะครับ รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ขมนิด น่าจะกินกับปิ้งย่างอร่อยครับ
สำหรับแก้วนี้ ก็คือ… “Yuzumitsu hai” ราคา 120 บาท
ส่วนของรสชาติอย่างที่บอกก่อนหน้านี้เลยครับ เปรี้ยวนิด หวานหน่อย ขมพอดี (มีแอลกอฮอล์) ผมว่าแก้เลี่ยนดีเลยครับ กินกับเนื้อปิ้งย่าง
ฟินนนนนเวอร์ ห้า ห้า ห้า…
ส่วนของน้ำจิ้ม ที่นี่เค้าจะมีซอสยากินิคุ น้ำพริกเผา (รึปล่าว คล้ายๆ ของเกาหลีครับ) และกระเทียมบดละเอียดครับ
อ้อ มีน้ำมะนาวด้วยนะครับ อร่อยใช้ได้เลยครับ ปรุงตามชอบครับผม
ส่วนตัวผมจะชอบเปรี้ยวๆ หวานๆ ครับ เสียดายไม่มีพริกขี้หนูสด ห้าๆๆๆ ผมชอบกินเผ็ดๆ ครับ ^^
อาหารมาเต็มโต๊ะแว้ววววว พร้อมกินกันรึยังครับ
เดี๋ยวๆๆๆ อย่าเพิ่งครับ ผมแนะนำแต่ละจานก่อนนิสนึงว่าผมสั่งอะไรไปบ้าง ? อยากจะบอกว่าสั่งทุกเมนูโปรโมชั่นเลยจ้า
ห้า ห้า ห้า…
จานแรกของวันนี้ก็คือ “A5 Wagyu Kurimi” ปกติ 580 บาท ลดเหลือ 290 บาท
เนื้อลายหินอ่อนสมกับเป็นเนื้อ A5 น่ากินมากกกกก
ต่อกันที่ “A5 Wagyu Brisket” ปกติ 500 บาท ลดเหลือ 250 บาท
เนื้อสไลด์บาง ย่างแล้วกินทั้งแผ่นอร่อยเวอร์ ห้าๆๆๆ
ยังไม่หมดนะครับ ต่อกันยาวปายกับเมนู “Tokachi Herb Japanese Beef Karubi” ปกติ 320 บาท ลดเหลือ 99 บาท
สำหรับจานนี้ถูกมากๆๆๆ ครับ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเคี้ยวหน่อย
นุ่มกำลังดี ไม่เหนียวไป กำลังดีเลยครับ คุ้มครับ 99 บาท จะถูกไปไหน เนื้อญี่ปุ่น
จานนี้เป็นเมนูปกติครับ แต่ก็ถูกนะครับ ไม่แพง กินเต็มปากเต็มคำคุ้มครับ บอกเลย
เมนูนี้ก็คือ “Wagyu Japanese Beef Misuji” ราคา 360 บาท
เมนูนี้ ย่างทั้งแผ่น กินทั้งแผ่นนะครับ เด็ดมาก เนื้อนุ่ม คำละ 100 บาท ผมว่าจานนี้ + ข้าวสวยร้อนๆ ก็อิ่มและฟินแล้วครับ ^^
ยังครับ เมนูโปรโมชั่นยังไม่หมด ต่อกันที่ “A5 Wagyu Tonbi” ปกติ 580 บาท ลดเหลือ 290 บาท
จานนี้เนื้อก็นุ่มไปอี๊ก โอ๊ย ละลายยยยยย
ปิดท้ายด้วย “A5 Specially Select Karubi” ปกติ 700 บาท ลดเหลือ 350 บาท
ขอบอกว่า จานที่ฟินที่สุดของวันนี้ก็คือ จานนี้เลยครับ
เนื้อวากิว A5 คัดสรรมาพิเศษ ลายหินอ่อนสวย เนื้อนุ่มละลายในปาก 6 ชิ้น 350 บาท ถูกโคตรๆ บอกเลย ห้าๆๆๆ
รู้งี้จัดแค่เมนูนี้ซัก 10 จานก็ดีอ่ะ ห้าๆๆๆๆ ล้อเล่นนะครับ แต่ละจานก็มีความอร่อยแตกต่างกันออกไปครับ
แต่ใครชอบนุ่มมากต้องจานนี้เลยครับ
กินเนื้อย่างเปล่าๆ ก็จะเลี่ยนไป เลยจัดข้าวสวย (Size L) ร้อนๆ ซักถ้วย ราคา 90 บาท
ถ้วยใหญ่มาก ผมว่ากิน 2 คนน่าจะได้ครับ ผมไม่เน้นข้าวครับ ^^
พร้อมแล้วก็เริ่มกันเลยเนอะ Wagyu Japanese Beef Misuji แผ่นใหญ่ๆ กินเต็มปากเต็มคำ เนื้อนุ่มกำลังดี
ย่างพอเนื้อหด กลับด้าน รอซัก 3 วิ ก็กินได้แล้วครับ ย่างนานเนื้อจะเหนียวครับ
ส่วนตัวชอบนะครับ เนื้อนุ่ม แต่ผมชอบแบบเนื้อชิ้นหนา ตรงกลาง Rare มากกว่าครับ ฟินดี สุกไปผมว่าไม่เหมาะกับเนื้อวากิวครับ
จะสังเกตเนื้อบางส่วนยังแดงๆ อร่อยตรงนี้แหละครับผม ^^
ต่อกันที่ A5 Wagyu Tonbi ส่วนนี้ก็อร่อยไม่แพ้กันครับ หนาพอประมาณ ย่างเบาๆ จิ้มน้ำจิ้มหน่อย
กินกับข้าวสวยร้อนๆ ฟินไปอี๊ก ห้าๆๆๆๆ ชอบๆๆๆ
อีกซักชิ้นก็แล้วกันเนอะ แนะนำกันอีกนิด ถ้าไปคนเดียว ค่อยๆ ย่างทีละชิ้นแบบนี้ก็ดีนะครับ
ย่างแล้วมาทิ้งไว้ เดี๋ยวจะ Overcooked สุกไปเหนียวน้า จะบอก…ให้ อิอิ
พูดยังไม่ทันขาดครับ เหมือนย่างไม่ทันกิน จัดไปซะ 3 ชิ้น ห้าๆๆๆๆ
“A5 Wagyu Kurimi” เนื้อหนานุ่ม ย่างสุกแบบ Medium Rare นุ่มอร่อย ไม่แพ้กัน จัดยาวปายยยย
เอาออกมาจากเตาซักพักจิ้มน้ำจิ้มน้ำในเนื้อแดงๆ ไหลออกมาหวานอร่อย ฟินเวอร์
สายเนื้อเหมือนผมอยากฟินจัดปายยยย
ปิดท้ายกันด้วย “A5 Specially Select Karubi” พระเอกของวันนี้
เนื้อหนา นุ่มโคตร อร่อยสุดๆ ไปเลยครับ ใครไปกินที่ร้านนี้อยากกินเนื้อนุ่มๆ ละลายในปากสั่งเมนูนี้เลยครับ
จบการรีวิวสายเนื้อ ที่ร้าน “NIKU SHO” สุขุมวิท 31 ขอบอกว่าไม่ผิดหวังเลยครับ มาสรุปภาพรวมของร้านนี้กันหน่อยดีกว่าเนอะ ส่วนของบรรยากาศผมชอบนะครับ สบายๆ ตามสไตล์ร้านเนื้อปิ้งย่าง อยากได้ความเป็นส่วนตัวก็ขึ้นไปที่ชั้น 2 ได้เลยครับ ส่วนของรสชาติอาหารผมว่าเนื้อของที่นี่ใช้ได้เลยครับ เกรดดี ไม่ผิดหวัง ส่วนของเตาผมชอบครับ ไฟแรงมาก ย่างเนื้ออร่อย กลับ 2 รอบกินได้ (แต่นั่งหน้าเตาจะร้อนหน่อยครับ) ส่วนของน้ำจิ้มก็กำลังดีครับ ผมแทบจะไม่ค่อยได้จิ้มเท่าไหร่ครับ จิ้มนิดๆ จริงๆ เนื้อดีๆ จิ้มแค่เกลือ พริกไทย เล็กๆ ก็อร่อยมากๆ แล้วนะครับ เนอะๆ
ส่วนของราคาผมชอบมากครับ ณ จุดนี้ คือ วันที่ผมไปรีวิวก็ต้องใจเลยครับ ว่าจะสั่งแต่เมนูโปรโมชั่น เอาให้รู้กันไปเลยว่าเนื้อโปรโมชั่นจะดี จะอร่อย รึปล่าว ปรากฏว่าอร่อยมากครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ ถูกและดีมีจริง ห้าๆๆๆๆๆ วันนี้ผมหมดไปไม่ถึง 2 พัน มั้งครับ เนื้อลายสวยขนาดนี้ นุ่มอร่อยและดีขนาดนี้ ไม่จัด ไม่ได้แล้วมั้ง สายเนื้อ… ทั้งหลาย ^^
พร้อมแล้วก็ลุยยยยยย… กันเล้ย