โรงเรียนนานาชาติได้กลายเป็นตัวเลือกมีความต้องการของพ่อแม่หลายๆ คน เนื่องจากต้องการให้ลูกได้ทักษะทางภาษาอังกฤษในการสื่อสารที่คล่องแคล่ว ซึ่งการเรียนในโรงเรียนนานาชาติจะตอบโจทย์ส่วนนี้โดยตรง แต่เพราะโรงเรียนนานาชาติมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ทำให้ต้องพิจารณาอยางถี่ถ้วนในการนำลูกไปศึกษาเล่าเรียน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด สำหรับสิ่งที่ต้องคำนึงถึง มีดังนี้
1. หลักสูตรที่ได้มาตรฐาน
แน่นอนว่าโรงเรียนนานาชาติ จะต้องมีแผนการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ มีการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกันภายในโรงเรียน แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาไม่ใช่แค่แผนการสอนที่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาด้วยว่าหลักสูตรการเรียนการสอนนั้นผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เป็นสากลหรือไม่ เพราะนอกจากการสื่อสารภาษาอังกฤษที่เด็กๆ ควรได้รับ ในเรื่องของความรู้ที่ได้รับในด้านวิชาการ ก็ควรเป็นเนื้อหาที่ได้มาตรฐานตามหลักสากล
โดยเนื้อหาที่ได้มาตรฐานนั้น จะทำให้เด็กนักเรียนที่เรียนจบไปและย้ายไปศึกษาต่อที่อื่นได้ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในสถาบันใหม่ที่จะย้ายไป และควรเป็นที่ยอมรับทั้งสถาบันในประเทศและต่างประเทศ
2. ครูผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อพิจารณาเนื้อหาหลักสูตรจากทางโรงเรียนไปแล้ว นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองที่จะเอาลูกหลานไปเรียนในโรงเรียนนานาชาติสักแห่ง ควรพิจารณาทีมครูผู้สอน ซึ่งควรเป็นครูที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสอน สามารถพิจารณาได้จากประวัติการสอนที่ผ่านมาของครูผู้สอนเหล่านั้น ที่สำคัญควรมีครูผู้สอนที่เป็นชาวต่างชาติอยู่ด้วย ไม่ควรเป็นครูไทยทั้งหมด
เนื่องจากการเรียนการสอนในโรงเรียนนานาชาติมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หากเป็นการคุ้มค่าที่สุดก็ควรเป็นการถ่ายทอดวิชาจากทีมผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ โดยเฉพาะครูผู้สอนที่เป็นเจ้าของภาษาอังกฤษ สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเชี่ยวชาญ เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่หลักการใช้ไปจนถึงสำเนียงภาษาที่มาจากเจ้าของภาษาอย่างแท้จริง
3. สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงเรียน
การส่งลูกไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ สิ่งที่ควรพิจารณานอกจากหลักสูตรและทีมครูผู้สอน ที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่องคือสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงเรียน ที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับค่าเทอมที่ต้องจ่าย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ควรครบครันและตอบโจทย์การใช้ชีวิตในโรงเรียนที่สะดวกสบายให้กับนักเรียน นอกจากความสะดวกแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญก็คือการมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกหลานที่ถูกส่งไปเรียน ควรครบครันไปด้วยสนามกีฬาที่รองรับการเล่นกีฬาที่หลากหลาย รวมถึงการมีศูนย์เรียนรู้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุด ห้องมัลติมีเดียเพื่อตอบโจทย์การใช้งานและการเรียนรู้ด้านสื่อสารหรือเทคโนโลยีต่างๆ เป็นต้น
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองจะต้องพิจารณาให้ดี เนื่องจากว่ามีโรงเรียนนานาชาติบางโรงเรียนไม่ครบครันในส่วนนี้ แต่มีค่าเทอมที่ค่อนข้างสูงตามระดับของโรงเรียนนานาชาติ ที่เมื่อเปรียบเทียบกับโรงเรียนนานาชาติแห่งอื่นแล้วกลับพบว่าค่าเทอมต่ำกว่ากันเพียงนิดเดียว หากเป็นไปได้พ่อแม่ผู้ปกครองควรยอมเพิ่มเงินเล็กน้อย เพื่อแลกกับความคุ้มค่าที่มากกว่า เมื่อเทียบกับการที่ลูกจะได้เรียนในโรงเรียนที่ครบครัน ที่พร้อมเสริมสร้างการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ขนาดของโรงเรียน
ใครว่าขนาดของโรงเรียนไม่สำคัญ ทั้งที่จริงแล้วเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาไม่แพ้ปัจจัยอื่น การยอมจ่ายในโรงเรียนนานาชาติที่มีอัตราค่าเทอมสูงลิบทั้งที ควรยอมจ่ายให้กับโรงเรียนที่มีขนาดกว้างใหญ่ เพื่อแลกกับความครันในด้านต่างๆ เมื่อพบว่าถ้าหากเปรียบเทียบกันระหว่างโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่และโรงเรียนที่มีขนาดเล็ก พบว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงเรียนขนาดใหญ่กว่าย่อมครบครันกว่า เริ่มตั้งแต่สนามกีฬาในโรงเรียนขนาดใหญ่มีสนามที่กว้างขวางกว่าโรงเรียนที่มีขนาดเล็ก
รวมถึงสนามกีฬาที่รองรับกีฬาหลากหลาย อย่างในโรงเรียนขนาดใหญ่อาจมีสนามบอล สนามแบตมินตัน สนามบาสเก็ตบอล ลู่วิ่ง สระว่ายน้ำ หรืออื่นๆ แบบครบครันกว่า ขณะที่โรงเรียนขนาดเล็กอาจมีเพียงสนามบอลและสนามบาสเก็ตบอล หรือบางโรงเรียนอาจใช้วิธีแชร์สนามกันระหว่างสนามบอลกับสนามบาสเก็ตบอล เป็นต้น
ไม่เพียงแค่สนามกีฬาแต่ยังรวมถึงศูนย์การเรียนรู้อื่นๆ หากเป็นโรงเรียนที่มีขนาดกว้างขวางก็จะมีศูนย์การเรียนรู้ครบครัน อาทิ ห้องสมุดขนาดใหญ่เต็มไปด้วยหนังสือและห้องดูหนัง ห้องคอมพิวเตอร์ที่มีโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ขณะที่โรงเรียนขนาดเล็กอาจมีห้องสมุดที่มีเพียงหนังสือรองรับเพียงอย่างเดียว เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กที่เรียนจบจากโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่ มักมีประสบการณ์ที่ดีกว่านักเรียนที่เรียนจบจากโรงเรียนที่มีขนาดเล็กกว่า
5. จำนวนเด็กนักเรียน
จำนวนเด็กนักเรียนมีความสำคัญรองลงมาในการพิจารณาเลือกโรงเรียน ภายในโรงเรียนการมีเด็กนักเรียนจำนวนมาก แสดงออกถึงการได้รับการยอมรับจากผู้ปกครองจำนวนมากเช่นกัน ขณะเดียวกันก็ยังแสดงออกถึงศักยภาพที่โรงเรียนสามารถรับได้กับนักเรียนจำนวนมากๆ
แต่ที่สำคัญกว่าจำนวนนักเรียนทั้งโรงเรียน ผู้ปกครองต้องพิจารณาด้วยว่าจำนวนนักเรียนต่อหนึ่งห้องเรียนมีเท่าไร ที่เหมาะสมคือไม่ควรเกิน 40 คน เนื่องจากการที่มีนักเรียนมากเกินไปต่อหนึ่งห้องเรียน คุณครูจะไม่สามารถดูแลนักเรียนได้อย่างทั่วถึง ทำให้การเรียนรู้ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ อีกทั้งยังส่งผลให้เด็กขาดการดูแลเอาใจใส่ที่เหมาะสม
6. ความหลากหลาย
การเลือกโรงเรียนนานาชาติมีความพิเศษมากกว่าโรงเรียนทั่วไปก็คือความหลากหลาย โดยเฉพาะความหลากหลายทางเชื้อชาติของนักเรียนในโรงเรียน ยิ่งมีหลายเชื้อชาติเท่าไร ความหลากหลายทางวัฒนธรรมก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย และนั่นคือสิ่งที่เด็กนักเรียนในโรงเรียนจะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนกัน จึงควรพิจารณาในเรื่องนี้ หากต้องการเลือกโรงเรียนนานาชาติให้ลูก ซึ่งการเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย จะทำให้เด็กได้เรียนรู้ประสบการณ์ที่หลากหลายด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองทั้งหลายควรพิจารณาเมื่อต้องการเลือกโรงเรียนนานาชาติให้กับลูก เพราะโรงเรียนนานาชาติมีอัตราค่าใช้จ่ายที่สูง จึงควรเลือกสิ่งที่จะได้รับกลับมาที่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายนั้น อย่าพิจารณาเพียงแค่เรื่องหลักสูตรภาษาอังกฤษเท่านั้น เพราะบางครั้งอาจได้โรงเรียนนานาชาติที่ขาดประสิทธิภาพการเรียนการสอน เด็กได้กลับมาแค่ภาษาอังกฤษ แต่ไม่สามารถแข่งขันทางวิชาการกับคนอื่นได้ ไม่สามารถเรียนต่อในสถาบันที่เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศได้