สวัสดีเขาใหญ่ มารอบที่เท่าไหร่จำไม่ได้ ห้าๆๆๆ ทริปนี้ เราอยู่กันที่เขาใหญ่กับโรงแรมที่ผมบอกเลยว่า… ผมประทับใจมากครับ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง ธีมของโรงแรม เข้ามาในโรงแรมแล้ว เหมือนหลุดมาอีกโลกนึงเลย ดินแดนแห่งเทพนิยาย มีความลึกลับ ใกล้ชิดธรรมชาติ นักเดินทางอย่างเรา ก็ไม่พลาดที่จะต้องมาค้นหาความลึกลับของอาณาจักรแห่งนี้ครับ เกริ่นมาซะนาน ยังไม่ได้บอกชื่อ แต่กดมาอ่านแล้วก็รู้แหละเนอะ ว่าโรงแรมนี้ชื่ออะไร ^^
โรงแรมนี้ก็คือ… โรงแรม ลาบารีส เขาใหญ่ (Hotel Labaris Khao Yai) ส่วนของคำว่า Labaris เป็นภาษาลาตินซึ่งแปลว่า เขาวงกต นั่นเอง เป็นธีมของทางโรงแรมที่อยากให้เราสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้น ในการเข้ามาในอาณาจักร์ลึกลับแห่งนี้ครับ เอาจริงๆ ถ้าคนทั่วไปขับรถผ่านไป ผ่านมา ก็แทบจะไม่เห็นตัวโรงแรมเลยนะครับ ไม่รู้จริงๆ ว่าด้านในมีอะไรบ้าง จนกว่าที่จะได้เข้ามาในดินแดนแห่งนี้จริงๆ ก่อนจะเข้าไปด้านในกัน เรามาทำความเข้าใจภาษาของอาณาจักรแห่งนี้กันก่อนน้า…
- คำว่า “โรงแรม” ที่นี่เรียกว่า “อาณาจักร”
- คำว่า “ลูกค้า” พนักงานโรงแรมจะเรียกเราว่า “นักเดินทาง”
- คำว่า “โซน” ต่างๆ ของทางโรงแรม พนักงานจะใช้คำว่า “Chapter” เป็นไง แค่เปลี่ยนคำเรียกก็ตื่นเต้นแล้วใช่มะ
เริ่มกันเลยน้า นักเดินทาง ทั้งหลาย เรามาเริ่มกันที่ Chapter ที่ 1 ของอาณาจักร แห่งนี้กันเลยเนอะ
Chapter 1: Welcome Zone
โซนหน้าสุดของทางโรงแรมจะเป็นส่วนของ Rabbit Cafe บ้านหลังน้อยของเหล่าสัตว์วิเศษ ที่ซ่อนอยู่ใต้เนินเขา บริเวณคาเฟ่ยาวไปถึงด้าน หน้าโรงแรมแรมเหล่าสัตว์พิเศษซุกซ่อนตัวอยู่ตามพุ่มไม้ ร่มรื่นมาก เอาจริงๆ ถ้ามองมาจากด้านนอกจะไม่เห็นคาเฟ่นี้เลยครับ มองจากด้านนอกมาจะเห็นแต่เนินเขาอันนึง ส่วนของคาเฟ่นี้คนทั่วไปสามารถมาใช้บริการได้น้า ช่วงกลางวันคนเยอะมาก แขกที่เข้าพัก ถ้าอยากถ่ายรูปสวยๆ ผมแนะนำเป็นช่วงเย็นหรือช่วงเช้า จะไม่มีคน ถ่ายรูปสบายๆ เลยครับ
Rabbit Cafe เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 – 17.00 น.
ภาพนี้เป็นบรรยากาศช่วงเย็นคาเฟ่ปิดแล้ว แต่แสงยังได้ ถ่ายรูปชิลเลยครับ
อยากได้มุมไหน เลือกได้ตามชอบเลย
หนึ่งในสัตว์วิเศษที่หลุดมาบริเวณสนามหญ้า ลองไปตามหากันเพิ่มเติมดูน้า ตามพุ่มไม้มีอีกพอสมควรเลย บางรูปปั้น สัตว์ก็เหมือนมีชีวิต แต่ถูกสาบให้เป็นหินอยู่ กลางคืนค่อยออกมาวิ่งเล่น ห้าๆๆๆๆๆๆ
ส่วนของด้านในตามมุม ตามผนังจะตกแต่งแนวของจิ๋ว เหมือนเป็นบ้านของเหล่าสัตว์วิเศษ
ตอนกลางคืน !!!
เหล่าสัตว์วิเศษอาจจะมาใช้บริการตรงนี้จริงๆ ก็เป็นดายยยยยยยย… ห้าๆๆๆๆๆ
เข้ามาที่…
Chapter 2: The Heart of Labyrinth (Hotel Zone)
ส่วนของโซนนี้จะเป็นโซนของ Lobby และห้องพัก ก่อนอื่นนักเดินทางจะต้องทำการรับกุญแจนำทางและแผนที่กันก่อน หลังจากนั้นก็เข้าสู่เขาวงกต เพื่อไปสู่ปราสาทที่เราได้จองไว้ ทางเข้าห้องพักจะเป็นทางเข้าให้ความรู้สึกเหมือนเขาวงกต ลึกลับ ตื่นเต้นไปอีก ห้าๆๆๆๆ
หลังจากประตูด้านล่างนี้จะเป็นส่วนของห้องพักแล้วครับ เข้าได้เฉพาะแขกที่มาเข้าพักเท่าน้ัน โดยปกติแล้ว ผู้เข้าพักทางโรงแรมจะให้ไปจอดรถที่ชั้นใต้ดินของพื้นที่โรงแรม ขึ้นมาก็จะมาตรงบันไดทางซ้ายมือด้านในเลยครับ
ทางเข้าโรงแรมอลังการมาก สวยทุกมุม บอกเลยสำหรับปราสาทแห่งนี้
ถ่ายรูปเล่นกันยาวปายยยยยย…
ส่วนของ Lobby จะเป็นแบบ Open Air ช่วงหน้าหนาวอากาศดีเลย แต่ถ้าเป็นหน้าร้อน หรือหน้าฝน ผมว่าอาจจะร้อนและแอบลำบากนิดนึง
ตั้งแต่ด้านหน้า Lobby ไปถึงหน้าห้องพัก ก็จะมีช่วงที่ไม่มีหลังคาเป็นช่วงๆ ตอนผมไปฝนแอบตกหน่อยๆ
ทางโรงแรมก็มีบริการพนักงานกางร่มให้ครับ
บริเวณ Lobby ก็มีส่วนของ ของที่ระลึกนิดหน่อย ซื้อไปเป็น พร็อพถ่ายรูป กันได้
นักเดินทางพร้อมแล้วที่จะเดินทางต่อ… เข้าไปผจญภัยเขาวงกต สู่ปราสาทของเรากัน
ห้องทุกห้องโซนนี้จะเป็นประตูสู่เขาวงกตแบบนี้เลย ศูนย์กลางคือ Lobby ล้อมไปด้วยประตูสู่เขาวงกตครับ มองผ่านประตูเข้าไปแอบดูลึกลับ จะอินไปไหน ห้าๆๆๆๆๆ แล้วจะหลงมั๊ยนะ เดี๋ยวผมเฉลยในภาพต่อไป สำหรับลายแทงเขาวงกตแห่งนี้
อันนี้เป็นภาพมุมสูงของเขาวงกตของอาณาจักรแห่งนี้ครับ
จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ทุกประตูจะเป็นทางตรงไปสู่ห้องพักของเรา อาจจะเลี้ยวบ้าง บางห้อง แต่ไม่หลงแน่นอนครับ เอาจริงๆ น่าจะมีโค้งเยอะหน่อยเนอะ จะได้ความสนุกเพิ่ม ห้าๆๆๆๆ
บางห้องพักจะใช้ทางเข้าทางเดียวกัน แล้วแยกไปชั้นของตัวเองด้านใน
พร้อมแล้ว เข้าไปตะลุย เขาวงกตกันเล้ย…
ส่วนนึงที่แอบชอบ… ได้เกริ่นไปแล้วส่วนนึงตอนต้น ภายในอาณาจักรแห่งนี้มีความลึกลับจริงจัง มองจากด้านนอกมาแทบไม่รู้เลยด้านในเป็นยังไง พอเห็นแว๊บๆ ว่ามีอาคารทรงสูง จากด้านนอก ต้องเข้ามาด้านในแล้วเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าด้านในเป็นยังไง ส่วนของด้านข้างก็มีเขาวงกตอีกประมาณ 5-6 ชั้น มีความเป็นส่วนตัวดี
ส่วนของทางเข้าห้องพักของเราก็จะเป็นแบบนี้เลยบันไดแยกเป็นห้องๆ ห้องข้างๆ ไม่สามารถเดินหากันได้ ถ้ามาด้วยกัน อยากอยู่ใกล้ๆ กัน เดินหากันง่ายๆ อาจจะต้องเลือกห้องชั้นบนกับชั้นล่างน้า
ส่วนของห้องพักที่ผมพักวันนี้เป็นแบบ King Deluxe Room ห้องกว้าง ตกแต่งเรียบหรู เตียงใหญ่จริงจัง
เข้ามาว้าวววววเลย
ส่วนของห้องน้ำแยกโซน อ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ ก็เป็นแนวคลาสสิค สวยเลย
ส่วนของระเบียงสามารถออกไปได้ ช่วงกลางคืนอากาศเย็นสบาย เสียงจักจั่นร้องระงม ธรรมชาติมากกกกก
มองไป 2 ข้างตรงระเบียง… มีความซับซ้อน เข้าธีมอาณาจักรแห่งนี้
ดูภายในห้องกันแล้ว พร้อมผจญภัยกันต่อ…
เดินเข้ามาด้านในหน่อยระหว่าง Chapter 2 กับ 3 จะเป็นพื้นที่สนามเด็กเล่น อีกด้านนึงจะเป็นสนาม ฟุตบอลเล็กๆ พักผ่อนยามเย็นกันได้
สำหรับใครที่พาน้องๆ มาผจญภัยด้วย
Chapter 3: Explore The Secret Room (Villa Zone)
หมู่บ้านลึกลับ The Infinite Forest และ Infinite Villa (Pool Villas) โซนนี้จะมีกระจกสะท้อน มองผ่านๆ เหมือนกับเราอยู่ในป่าที่กว้างใหญ่ มีเพียงประตูเล็กๆ ที่ไม่รู้ว่าด้านในเป็นยังไง ด้านหลังประตูนี้ก็คือห้องแบบ Pool Villa นั่นเอง ลึกลับไปอีก
นักเดินทางพร้อม เดินทางต่อแล้วจ้า…
Chapter 4: Tracking the Beauty of Romance The Fable Feast (ห้องอาหารลาบาริส) และ Labaris Town Hall (ห้องประชุม)
ส่วนของโซนนี้จะเป็นโซนห้องอาหาร ที่สวยไม่แพ้ฝั่งโรงแรม ยังคงมีสัตว์วิเศษ กวางบินเขาเป็นดอกกุหลาบสีแดง อาหารที่นี่จะมีทั้ง Steak, Western และอาหารไทย ราคาก็แรงได้อยู่ แต่อร่อย คนที่ไม่ได้พักที่โรงแรมก็มากินที่นี่เยอะพอสมควรเลยครับ
ร้าน The Fable Feast Khao Yai เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.30 – 22.00 น.
ถ่ายรูปสวยๆ กับสัตว์วิเศษของที่นี่กันก่อนเข้าไปกินข้าวด้านในเนอะ
ส่วนของร้านอาหาร The Fable Feast Khao Yai กว้างขวาง โล่งสบาย
สำหรับแขกที่เข้าพัก มื้อเช้าก็จะมากินอาหารที่นี่เช่นกันครับ
ส่วนของมื้อเย็นผมขี้เกียจออกไปด้านนอกกันแล้ว คนข้างนอกยังมากินอาหารที่นี่เลย เลยต้องจัดอาหารที่นี่กันซักหน่อย
เริ่มที่ของกินเล่นกันก่อน ฟรี !!! จ้า
จานแรกของวันนี้ ยำผักกูดหมูสับ ผักกูดสดใหม่ อ่อน รสชาติยำ เปรี้ยวหวานเผ็ด ครบรส อร่อยมาก
ต่อด้วย ต้มจืดเต้าหู้ หมูสับ พอดีมีคนป่วย ท้องเสีย ก่อนเดินทางมา เลยต้องกินอาหารจืดๆ หน่อย
แอบเสียดายแทนเลยครับ มาเที่ยวแต่ต้องกินอาหารจืดๆ T_T
ส่วนของ Main Course ของผมเป็น…
ข้าวรีซอตโต้อบทะเลซอสล็อบสเตอร์ (Oven-Baked Risotto Tomyum Seafood) น่ากินมากกกก
ส่วนของรสชาติ เข้มข้นมากกกกกก แอบหนักไปทางเปรี้ยวนิดนึง แต่โดยรวมใช้ได้
ส่วนของล็อบสเตอร์ได้มาครึ่งตัว พร้อมก้ามอีก 1 ก้ามครับ
ส่วนของ Chapter สุดท้าย…
Chapter 5: The Meander Wonderer Nomadic Creek และ Cub’s Creek
โซนนี้จะเป็นสระว่ายน้ำ และลำธารธรรมชาติ ส่วนของสระว่ายน้ำออกแบบมาให้เหมือนแม่น้ำลำธารที่มีความคดเคี้ยว เหมือนแม่น้ำลำธารในธรรมชาติ ฟิลธรรมชาติ ต้นไม้ล้อมรอบ เหมือนว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ แถมมีมุมให้ถ่ายรูปหลายมุมด้วยครับ
ส่วนของโซนสระว่ายน้ำจะอยู่ด้านหลังของห้องอาหาร ยาวและกว้างมาก เลือกเล่นได้ตามชอบ
ส่วนของเก้าอี้ชาหาดก็จะมีให้เป็นช่วงๆ แต่ละโค้งน้ำ
ปลายสุดด้านขวามือ จะเป็นส่วนของสระเด็ก จะมีน้ำพุ และวงแหวนแห่งน้ำ ให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินกันด้วยน้า
ถ่ายรูปสวยๆ กัน… มีหมอกควัน บนผิวน้ำด้วยน้า เทพนิยายไปอี๊ก
ด้านหลังสุดของโรงแรม เราสามารถเดินต่อไปได้ จะเป็นลำธารธรรมชาติ
เดินไปชมธรรมชาติ สดชื่นๆ กันได้ครับ
จบ Chapter สุดท้ายแล้ว ก็กลับมาที่ Chapter ที่ 4 กันอีกครั้ง
เมื่อคืนนอนหลับสบายมาก เสียงจักจั่นดังระงม ธรรมชาติไปไหน เตียงนุ่ม อยากอยู่ต่ออีกซัก 1 อาทิตย์ ห้าๆๆๆๆ
#เสพติดการท่องเที่ยว #เสพติดโรงแรม
สำหรับมื้อเช้าที่นี่ อาหารดีเลยครับ มีทั้งอาหารในไลน์และสั่งเพิ่มเติมได้
มีทั้ง American Breakfast, อาหารจีน ซาลาเปา ขนมจีบ สลัด ผัก ผลไม้ ข้าวต้ม และก๋วยเตี๋ยว
อาหารเช้าที่นี่ดีเลยครับ
ส่วนของไข่ก็มีทั้ง Egg Benedict, Omelette และไข่ดาวเลือกได้ตามชอบ
สายบุญ ทางโรงแรมก็มีการนิมนต์พระมารับบาตรตอนเช้าด้วยนะครับ
เดี๋ยวนี้หลายโรงแรมก็เริ่มมีแบบนี้กันแล้ว ดีนะครับ มาเที่ยวแล้วยังได้ทำบุญ ชาร์จแบ็ตร่างกาย อิ่มกาย อิ่มใจ อิ่มบุญ
เป็นยังไงบ้างครับ กับ… โรงแรม ลาบารีส เขาใหญ่ (Hotel Labaris Khao Yai) “นักเดินทาง” ทั้งหลายคิดยังไงกับอาณาจักรแห่งนี้ ลึกลับ น่าค้นหามากเลยเนอะ ใครอยากที่จะมาผจญภัยที่อาณาจักรแห่งนี้ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม จองห้องพักกันได้ที่…
- Website: www.hotellabaris.com
- Facebook: www.facebook.com/hotellabaris
- Inbox : https://m.me/hotellabaris
- Line : @hotellabaris
- Tel : 063-1901900 และ 044-300-999
- พิกัด: https://goo.gl/maps/8j3uvXrKj4y6UAVY8
#Hotellabaris #khaoyai #เที่ยวเขาใหญ่ #ที่พักเขาใหญ่ #Khaoyaitrip #Thailand #เขาใหญ่ #HotelLabarisKhaoYai #NatureRetreat
