นอนเต็นท์หรูติดแอร์ ห้องน้ำในตัว แคมป์แนวซาฟารี (Safari Tented Camp) ใกล้ชิดธรรมชาติ ท่ามกลางประวัติศาสตร์ หินตก ริเวอร์ เเคมป์ ช่องเขาขาด กาญจนบุรี

1 min read

ใครเป็นเหมือนผมบ้างมั๊ยครับ ชอบเที่ยวหรู อยู่สบาย (ซะเคยตัว ไม่ดีเลย ห้าๆๆๆๆ) บางครั้งก็อยากใกล้ชิดธรรมชาตินอนเต็นท์ บ้างเหมือนกัน แต่ก็กลัวลำบาก  ที่นี่ตอบโจทย์ผมเลยครับ หินตก ริเวอร์ เเคมป์ (Hintok River Camp) ช่องเขาขาด กาญจนบุรี ครับผม ทำให้ผมได้รำลึกความหลัง สมัยเข้าค่ายพักแรมตอนเด็กๆ เลยครับ #แต่ไม่ลำบากเท่าตอนนั้นนะครับ ^^

ส่วนของ หินตก ริเวอร์ เเคมป์ (Hintok River Camp) อยู่ที่ ช่องเขาขาด หรือ ช่องไฟนรก จังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่นี้เป็นส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 2 โอบล้อมด้วยธรรมชาติ แม่น้ำและป่าไม้ ที่สมบรูณ์ครับ ใครที่ชอบพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติต้องมาที่นี่เลยครับ ผมเองยังประทับใจมากๆ เลยครับ การเดินทางมาที่นี่เดินทางจากกรุงเทพประมาณ 3 ชั่วโมงครับ ถนนที่เข้ามาที่รีสอร์ทจะแคบๆ เล็กๆ หน่อยครับ บางช่วงจะเป็นโค้งบนเขาและชันมากครับ ขับรถระวังกันหน่อยน้า เข้าทางเดียวกับช่องเขาขาดเลยครับ แต่มาถึงที่รีสอร์ทแล้วบอกเลยว่าคุ้มค่ามากครับ

ตอนขับรถเข้ามาแอบโทรไปถามที่โรงแรมครับ ว่าผมมาถูกมั๊ย ไม่คิดว่าจะมีรีสอร์ทอยู่ในนี้ครับ แต่ถ้าเห็นป้ายแบบนี้ แสดงว่าใช่เลยครับ มาถูกที่แล้วครับผม

พอเข้ามาถึงบริเวณที่จอดรถก็ว้าวววววเลยครับ ได้ฟิวแคมป์ปิ้งมากๆ เลยครับ

เห็นแว๊บแรกแคมป์ทหารรึปล่าวเนี๊ย เหมือนยังมีร่องรอยของสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่บ้างครับ ^^

ถ้าไม่อ่านรีวิวมาก่อน ผมน่าจะไม่มาพักครับ กลัวจะลำบาก ห้าๆๆๆ

ใครที่มาพักที่นี่ผมแนะนำให้แต่งตัวแนวเดินป่า แคมป์ปิ้ง ซาฟารี จะเข้ากับที่นี่มากครับ

วันนี้ตาลนี่มาตีมเขียวขาวน้ำตาลเลยครับ เข้ากันอยู่น้า…

ขอถ่ายรูปที่ทางเข้ารีสอร์ทก่อนซักรูปนึงก่อนเลยเนอะ

แนวแคมป์ปิ้งมากครับ บอกเลย

เดินเข้ามาอีกหน่อยจะมีก่อนถึงล็อบบี้ จะมีพิพิธภัณฑ์ หินตก ริเวอร์ เเคมป์ ครับ

ข้างในก็จะมีของเก่าของโบราณที่ได้มาจากพื้นที่นี้ครับ

ใครชอบประวัติศาสตร์ แวะเข้าไปดูกันได้ครับ อ้อ… มาถึงที่นี่แล้วอย่าลืมไปแวะเดินป่า เข้าไปดูช่องเขาขาดกันด้วยนะครับ ทางผ่านเลยครับ แต่เดินไกลนิดนึงครับ

ยังเดินไปไม่ถึงไหนเลยครับ… ถ่ายรูปกันไปตลอดทาง มุมสวยๆ เพียบเลยครับ

ส่วนตัวผมว่านอนซัก 2 คืนน่าจะกำลังดีครับ จะได้พักผ่อนกับธรรมชาติกันแบบเต็มๆ ครับ ที่นี่ไม่มีทีวีนะครับ ใกล้ชิดธรรมชาติกันอย่างแน่นอนครับ 4 ทุ่ม กิจกรรมต่างๆ ของรีสอร์ทหมด ต่างคนต่างกลับเต็นท์ที่พัก ในรีสอร์ทเสียงเงียบกริบครับ

ส่วนตรงนี้ก็เหมือนเส้นทางสู่การเข้าแคมป์นะครับ ซุ้มต้อนรับครับผม

ผมว่าใครอยากมาปิดเหมารีสอร์ทเพื่อมาทำกิจกรรมเข้าค่าย รอบกองไฟที่นี่ ที่นี่พร้อมเลยครับ

มองไปทางซ้ายอีกหน่อย มุมถ่ายรูปก็มาอีกแล้วครับ

นอนเต็นท์หรูแต่มาถ่ายเอาบรรยากาศนอนเต็นท์สนามตรงนี้กันได้ครับ ^^

ส่วนของเต็นท์หรูที่ผมบอก ที่เราจะพักกันคืนนี้ ก็จะเป็นแบบนี้เลยครับ

ทำเลของเต็นท์ที่ให้บริการจะแบ่งเป็น 2 แถวใหญ่ครับ

ห้องพักแบบ Deluxe จะอยู่ด้านหน้าใกล้กองไฟที่สำหรับกินมื้อเย็นครับ ส่วนห้องแบบ Superior จะอยู่โซนด้านหลังเดินไกลไปอีกหน่อยครับ (แถวที่สอง) ภาพที่เห็นนี้เป็นภาพห้องแบบ Superior ด้านหลังครับ

เอาจริงๆ ส่วนของห้องพัก ขนาดไม่แตกต่างกันครับ แต่อาจจะเดินไกลกว่านิดนึง ราคาต่างกันหลักร้อยครับ

รีวิวนี้ผมพักกันที่ห้องพักแบบ Deluxe ครับ อยู่ติดกับส่วนของมื้อเย็น รอบกองไฟเลยครับ

ตอนแรกก็แอบห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัว เสียงดัง แต่พอได้มาพักแล้ว OK ครับ ใกล้ส่วนกลางเดินทางสะดวก เดินไม่ถึง 5 ก้าวก็ถึงที่นั่งกินมื้อเย็นแล้วครับ เสียงก็ไม่ดังนะครับ ส่วนใหญ่กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายครับ สี่ทุ่มก็เงียบกริบครับ

ส่วนนึงคือทางรีสอร์ทขอความร่วมมือครับ ดีนะครับ ได้พักผ่อน ใกล้ชิดธรรมชาติแบบเต็มๆ ครับ

อันนี้เป็นส่วนของในห้องพักครับ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ ขาดแต่ทีวีครับ ห้าๆๆๆ

ใครติดทีวี หยุดเสพข่าวมาใกล้ชิดธรรมชาติกันก่อนซักวัน 2 วันครับ ^^

ปล. ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็แอบเอา มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์มาดูแก้เหงากันไปก่อนนะครับ ห้าๆๆๆ

#เน็ตที่นี่แรงใช้ได้เลยครับ

ห้องพักที่นี่จะเป็นเต็นท์ผ้าใบครับ หลายคนน่าจะคิดเหมือนผมว่าแล้วใหม่มั๊ย มีรามั๊ย จากที่สอบถามมาเค้าบอกว่าเค้าทำการปรับปรุงส่วนของที่พักทุก 3 เดือนครับ ผมเข้าพักแล้ว OK นะครับ ใหม่ใช้ได้เลยครับ

ผมไปเที่ยวมาเมื่อประมาณปลายเดือน มค. ครับ กรุงเทพร้อนมาก แต่ไปที่นี่แล้วหนาวเลยครับ อาจจะเพราะอยู่ในหุบเขา กลางป่า ส่วนของเต็นท์ที่พักกันหนาวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ อย่าลืมชุดนอนหนาๆ ไปกันด้วยนะครับ ตอนกลางคืนหนาวน้า

ส่วนของหน้าต่างจะเป็นผ้าใบม้วนปิดครับ ถ้าจะเปิดแอร์ อย่าลืมปิดกันด้วยนะครับ

ส่วนของพื้นก็จะมีเสื้อปูให้ด้วยครับ ได้บรรยากาศซาฟารีมากครับ

โต๊ะข้าวของเครื่องใช้ก็จะเป็นไม้ครับ

ส่วนของที่นอนก็จะมีเตียงใหญ่ให้ 1 เตียง เตียงเล็กอีก 1 เตียง นอนกันได้ 3 คนต่อ 1 ห้องครับ

ถ้ามา 2 คน พนักงานสามารถชิดเตียงให้ได้ครับ

ถ่ายรูปเล่นในห้องกันอีกซักนิดนึงเนอะ เก๋ๆ นอนเต็นท์กลางป่า ^^

ส่วนของห้องน้ำจะอยู่ด้านหลังครับ ก่อสร้างมาเป็นปูน แต่ก็มีที่ระบายอากาศทางด้านบนครับ ช่วงกลางคืน ช่วงเช้าอาบน้ำก็จะเย็นหน่อยครับ ถ้ามาหน้าหนาวคงจะหนาวไปอีกหน่อยครับ ห้าๆๆๆ

ด้านซ้ายมือเข้าไปจะเป็นห้องสำหรับขับถ่ายครับ

ส่วนห้องด้านขวาจะเป็นห้องอาบน้ำครับ มีน้ำอุ่นนะครับ ไม่ต้องห่วงครับ

โดยรวมแล้วของห้องพักชอบเลยครับ

ออกมาถ่ายรูปด้านนอกกันดีกว่าครับ มุมนี้ใครมาที่นี่ต้องมาถ่ายเลยครับ

ได้ฟิวแคมป์ปิ้งมากครับ

กางเต็นท์นอนกลางป่ากันค๊า…

มีรถมาเป็นพร็อพถ่ายรูปให้ด้วยครับ ชอบตรงนี้ครับ ^^

อดใจไม่ไหวขอถ่ายรูปบ้างซักรูปสองรูปครับ ^^

ถ่ายรูปคู่รถ Land Rover Off-Road Defender แล้วคิดถึงพ่อเลยครับ

เมื่อก่อนพ่อผมทำงานป่าไม้ ก็มีรถแบบนี้เหมือนกันครับ

มุมนี้ถ่ายรูปกันได้แบบยาวปายครับ

รูปคู่ก็ต้องมาแล้วครับ ห้าๆๆๆ

ถ่ายรูปเล่นจากด้านในแล้วก็ต้องออกไปด้านหน้ากันอีกซักหน่อยครับ

มุมรถทหารสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องมาแล้วครับ

สำหรับใครที่อยากออกกำลังกายขี่จักรยานเที่ยวแถวนั้น ทางรีสอร์ทก็มีจักรยานให้บริการครับ

ใกล้โซนรีสอร์ทที่น่าปั่นจักรยานไปก็เป็นสะพานแขวงข้ามไปก็จะเป็นวัดหาดคกงิ้ว (มีพระพุทธรูปห้าสี) ครับ รวมถึงการชมวิถีชาวบ้านครับ

โซนอื่นๆ ของรีสอร์ทก็จะมีบาร์นั่งชิล ชิมวิวแม่น้ำแควน้อยครับ

วิวที่บาร์นี้ สวยมากกกกครับ เห็นโค้งน้ำพอดีครับ ด้านล่างเดินลงไปอีกหน่อยก็ยังมีที่ให้พักผ่อนเพิ่มเติมนะครับ

เดี๋ยวพาลงไปน้า…

ขอถ่ายรูปก่อนนิดนึงครับ

ระหว่างทางลงไปแพทางด้านล่างก็จะมีจุดพักให้มานั่งเล่นนอนเล่นกันได้ด้วยครับ

บริเวณนี้เลยครับ นอนรับลมใต้ร่มไม้เย็นๆ กันได้นะครับ

ส่วนตรงนี้เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ครับ

บ่อน้ำที่ออกแบบมาให้กลมกลืนกับธรรมชาติ วิวดี ริมแม่น้ำแควน้อย น้ำที่ไหลมายังบ่อเป็นน้ำที่จากภูเขา

แช่น้ำไป ชมวิวแม่น้ำแควไป ฟินมากครับ

ด้านล่างริมแม่น้ำแควน้อยทางรีสอร์ทมีแพให้นอนเล่น นั่งเล่น เดินเล่น หย่อนใจกันด้วยครับ

นอนเตียงชายหาด มองแม่น้ำ รู้สึกสบาย ผ่อนคลายมากๆ เลยครับ

ระหว่างรอหกโมงเย็น เวลามื้อค่ำของที่นี่… ก็นั่งหย่อนใจกันไปก่อนเนอะ

อ้อ… ลืมบอกไปครับ ส่วนของห้องพักที่ผมไปพักวันนี้จะรวมอาหารค่ำและอาหารเช้าครับ

ส่วนของอาหารค่ำจริงๆ ผมแนะนำว่าให้รวมไปเลยครับ อาหารดีมากครับ เป็นยังไงเดี๋ยวพาไปดูกันนะครับ ส่วนตัวผมมองว่าถ้าออกไปกินอาหารข้างนอก กลับมาตอนกลางคืน เส้นทางมารีสอร์ทค่อนข้างมืด โค้งและชันมีทางขึ้นเขาและลงเขา คนไม่ชินทางไม่แนะนำให้ออกไปช่วงกลางคืนเลยครับ

เรามาดูมื้อค่ำของที่นี่กันบ้างเนอะ

ส่วนของมื้อค่ำทางโรงแรมจัดให้แบบ Buffet ครับ มีคอหมูย่าง ส้มตำ อาหารไทยประมาณ 5-6 อย่าง ที่ผมชอบมากกกก ก็คือ… บาร์บีคิว ครับผม ได้บรรยากาศการมาแคมป์ปิ้งมากครับ ชอบมากกก

นี่เลยครับ บาร์บีคิวมีทั้งหมูและไก่ครับ น่ากินมากเลยเนอะ

ส่วนของที่นั่งทางโรงแรมก็จัดให้เป็นโต๊ะรอบกองไปครับ ถ้าอากาศเย็นหน่อย น่าจะยิ่งได้บรรยากาศไปอีกครับ

ยิ่งมืด ยิ่งสวย บรรยากาศยิ่งดีครับ นั่งกินข้าว กินบาร์บีคิว นั่งดื่มไปด้วย เยี่ยมไปเลยครับ

ประมาณสามทุ่มกว่าทางโรงแรมก็จะเก็บอาหารมื้อเย็นครับ

เราสามารถมานั่งกินต่อกันที่ระเบียงหน้าห้องกันได้ครับ แต่หลังสี่ทุ่มเบาเสียงกันหน่อยนะครับ ทางรีสอร์ทขอความร่วมมือไว้ครับ นั่งดื่มเบาๆ รับลมหนาวเย็นๆ ยิ่งดึก ยิ่งเย็น สบายดีครับ ชอบไปอีกครับ ^^

นั่งดื่มซักพักใหญ่ก็ได้เวลาอาบน้ำ นอนหลับ พักผ่อนกันแล้วครับ นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ ครับผม

เจอกันใหม่พรุ่งนี้เช้าน้า…

กู๊ดดดด… มอร์นิ่งครับ

ตื่นนอนมาแอบได้ยินเสียงเด็กๆ มีหมอกด้วย มีหมอกด้วย ห้าๆๆๆๆ อยู่กรุงเทพไม่มีนะครับ ร้อนตับแลบครับ มาแค่กาญจนบุรี ตอนกลางคืนและตอนเช้าอากาศหนาวเลยนะครับ ชอบตรงนี้ครับ

เช้านี้ผมตื่นมากันแต่เช้า เดินเล่นรอบรีสอร์ทและที่ริมแม่น้ำครับ เช้าๆ อากาศดีและบรรยากาศดีมากครับ

เดินเล่นเสร็จก็เริ่มหิวมื้อเช้า มากินมื้อเช้ากันครับ

ส่วนของมื้อเช้าทางรีสอร์ทจัดให้บริเวณนี้เลยครับ ระเบียงที่ยื่นออกไปจากเขา ร่มรื่นมากครับ

ที่นี่รีสอร์ทไม่ใหญ่มากครับ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ครับ เลือกที่นั่งได้ตามชอบเลยครับ

มื้อเช้าทางรีสอร์ทก็จะมี เครื่องดื่ม ผลไม้ นม ซีเรียล สลัด บริเวณนี้เลยครับ

อีกฝั่งนึงก็จะเป็น American Breakfast อาหารไทย และข้าวต้มครับ ส่วนด้านในจะเป็นขนมปังและปาท่องโก๋ครับ เลือกได้ตามชอบเลยครับ

ที่นั่งก็จะประมาณนี้เลยครับ มีทั้งโต๊ะเล็ก โต๊ะใหญ่ โต๊ะสวยก็จะเป็นโต๊ะที่อยู่ริมระเบียงครับ

ใกล้ชิดธรรมชาติมองเห็นแม่น้ำแควน้อยด้านล่างครับ

ถ้ามากันหลายครับ มุมนี้สวยและส่วนตัวมากครับ

หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ ก็ไปพักผ่อนต่อที่ห้องพัก เล่นน้ำอีกนิดหน่อย อาบน้ำแล้วก็เช็คเอ้าท์กันครับ สำหรับที่ หินตก ริเวอร์ เเคมป์ (Hintok River Camp) ช่องเขาขาด กาญจนบุรี ผมนอนแค่ 1 คืนครับ ส่วนตัวแล้ว ผมชอบมากครับ ได้ฟิวแคมป์ปิ้งมากครับ คิดถึงตอนเข้าค่ายลูกเสือสมัยเด็กๆ เลยครับ แต่นอนหรูอยู่สบายกว่าครับ ห้าๆๆๆ ใครที่อยากไปพักผ่อนแนวแคมป์ปิ้ง ซาฟารี นอนกลางป่า นอนเต็นท์แต่ไม่ชอบความลำบาก ผมแนะนำเลยครับ ดีงามมากครับ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองห้องพักได้ที่…

  • เว็บไซต์ :​ https://www.hintokrivercamp.com
  • Inbox: : m.me/hintokrivercamp
  • Line: @serenatahotels
  • เบอร์โทร 02-642-5497​

ลองมาเที่ยวกันดูนะครับ #HintokRiverCamp #หินตกริเวอร์แคมป์ #ช่องเขาขาด #เต้นท์ติดแอร์ #ที่พักกาญจนบุรี #SERENATAHotels

You May Also Like

More From Author