เดี๋ยวนี้ทัวร์ไฟไหม้มีเยอะมากเลยนะครับ ใครที่ชอบเที่ยวโดยเฉพาะประเทศที่ไม่ต้องทำ VISA อย่างญี่ปุ่น เกาหลี จีน เตรียมตัวกันให้ดีเลย ยิ่งใกล้เดินทางค่าทัวร์ยิ่งถูกครับ ครั้งก่อนผมก็ไปปูซาน (เกาหลี) มาราคา 9,900 บาท บ้าไปแล้วเที่ยวในไทยยังไม่ได้ราคานี้เลยครับ ห้าๆๆๆ เผื่อใครยังไม่ได้อ่านรีวิวนี้แล้วสนใจ… เที่ยวปูซาน เกาหลี ทัวร์ไฟไหม้ EP1 EP2 คลิกอ่านกันได้เลย
สำหรับรีวิวนี้ผมไปฮอกไกโด 6 วัน 4 คืน ได้ราคาดีย์ไฟไหม้อีกแล้ว 3 หมื่นกว่าบาท เอาจริงบางช่วงที่ไม่ใช่ High Season ก็มีราคาประมาณนี้ก็มีน้า แต่ถ้าช่วง High Season ก็จะประมาณ 5 หมื่น ช่วงหนาวๆ แบบติดลบ เที่ยวฮอกไกโดก็ต้องไปหนาวๆ อ่ะเนอะ ส่วนของราคานี้จะมีค่าทิปอีก 2,000 บาท อาหารบางมื้อต้องกินเองนะครับ และกิจกรรมอย่างขี่ Snowmobile ก็ต้องจ่ายเพิ่มครับ (ถ้าอยากเล่น) ไปครับ ไปเที่ยวกันเดี๋ยวผมมารีวิวให้อ่านกันครับ ว่าเดินทางไปไหนบ้าง โรงแรมและอาหารเป็นยังไง กินเองแนะนำให้กินอะไร ? ไปกัน…
ส่วนของการเดินทางของผมเดินทางช่วงต้นเดือน ธค. เริ่มวันแรกนัดเจอกัน 23.00 น. บินตอนประมาณตีสองครับ ถึงญี่ปุ่นตอนประมาณ 10.40 น. มื้อเช้าก็กินอาหารบนเครื่อง ส่วนของมื้อกลางวันจะเป็นเบนโตะกินบนรถบัสนะครับ เพราะต้องเดินทางหมู่บ้านเทพนิยาย นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace) เดินทางน่าจะประมาณ 3 ชั่วโมงได้ครับ ขี้นไปตอนบนอากาศก็จะหนาวหน่อย ระหว่างทางก็มีแวะให้เข้าห้องน้ำกันหนึ่งจุด แวะถ่ายรูปกับหิมะกันได้
พักแวะเข้าห้องน้ำระหว่างทางก็ถ่ายรูปเล่นกันซักหน่อย…
อยากจะบอกว่าทริปนี้มีลุ้นครับ ปี 2024 หิมะมาช้า… หน่อย อย่างหิมะบนยอดฟูจิก็ยังมาช้า ลงเครื่องมาแบบว่าไม่มีหิมะเลยครับ แต่พอขึ้นตอนเหนือมาอีกหน่อย เริ่มเห็นหิมะ เย่ๆๆ เห็นหิมะแล้ว ส่วนของอุณหภูมิก็ติดลบเบาๆ ประมาณ -1 องศา
อีกหนึ่งความโชคดีของผมก็คือ ช่วง Week ที่ผมไป คลื่นความเย็นแผ่ลงมาพอดี แล้วมาแต่ Week ที่ผมไปพอดี ห้าๆๆๆ หลังจากที่ผมกลับอากาศก็อุ่นขึ้นนิดหน่อย
เจอหิมะแล้วก็ต้องถ่ายรูปกันนิดนึง ชอบ ชอบ ชอบเที่ยวประเทศอากาศหนาวครับ ^^
ส่วนของชุดเครื่องแต่งกายเผื่อใครคิดว่าใส่แค่ไหนถึงจะพอ
ช่วงที่ผมไปอุณหภูมิประมาณ 5 องศา ถึงประมาณ -5 องศา น่าจะต่ำสุดนะครับ ส่วนของเสื้อใส่ 3 ชั้นพอ เสื้อยืดข้างใน เสื้อ Heattech แขนยาวบางๆ และเสื้อกันหนาวข้างนอก ส่วนของหมวกต้องมีนะครับ ปิดหัวและปิดหู เวลาลมมาจะไม่ไหวเอา หรือใครขี้หนาวหน่อยก็ใส่ผ้าพันคอปิดตรงปากจมูกยิ่งอุ่นครับ โดยเฉพาะช่วงขี่ Snowmobile จำเป็นครับ
ส่วนของกางเกงผมใส่ Heattech บางด้านในแล้วใส่ Heattech หนามีขนด้านในของ Uniqlo ทั้งหมด เอาอยู่ครับ
ใครสายถ่ายรูปถุงมือจำเป็นมาก ต้องเอาแบบ Touch Screen ได้น้า และกันลมได้ ถ้าแบบไหมพรมมีรู ไม่รอดครับ ส่วนของรองเท้าก็เน้นรองเท้าที่กันลมได้ ถ้าเป็นพวกรองเท้าวิ่ง รองเท้าแฟนชั่น บางรุ่น เค้าจะเน้นให้อากาศเข้าได้ อันนี้ไม่รอดครับ ผมใช้บูทของ Columbia และถุงเท้า Heattech เอาอยู่เลยครับ ถ้าเป็นรองเท้าพวกนี้ก็จะดีอีกหน่อยคือ บางที่พื้นเป็นน้ำแข็งจะลื่นหน่อย รองเท้าแบบนี้ช่วยได้ครับ
สรุปแล้ว ค่าทัวร์ไม่แพง แต่ค่า Accessories แพงกว่า สำหรับคนที่ไม่มีเสื้อผ้ากันหนาวเลย ห้าๆๆๆๆ
เดินทางต่อมาพักใหญ่ก็ถึงแล้น… หมู่บ้านเทพนิยาย นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace) เมืองฟูราโนะ จังหวัดฮอกไกโด และอยู่ภายในโรงแรม Furano Prince ระหว่างเดินจากลานจอดรถก็ผ่านลานสกี ที่นี่เป็นสกี Resort นะครับ เผื่อใครอยากมาเล่นสกีก็สามารถมาพักที่นี่ได้ และสนามเด็กเล่นเล็กๆ เดินบนเชือกเบาๆ ด้วยครับ
พอมาถึงที่นี่หิมะก็เยอะอยู่น้า…
เดินมาประมาณ 400 เมตรจากลานจอดรถ ถึงแล้น… หมู่บ้านเทพนิยาย นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace)
ส่วนของที่นี่จะเป็นที่เที่ยวที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในป่าสน จะสวยเป็นพิเศษช่วงหิมะตกเยอะๆ เหมือนกับอยู่ในเทพนิยาย ใครอยากไปช่วงหิมะ ต้องไปช่วงเดือนธค. – กพ. ครับ ผมไปต้นเดือนธค. หิมะแอบน้อยไปนิด แอบเสียดายอยู่เหมือนกันครับ เห็นภาพเคยเห็นหิมะเยอะกว่านี้จะสวยกว่านี้
ภายในหมู่บ้านจะมีมีกระท่อมเล็กๆ เชื่อมต่อกันด้วยสะพานไม้ ส่วนของกระท่อมต่างๆ ก็จะเป็นร้านขายของงานฝีมือ งานไม้ งานเซรามิค งานแกะสลัก และร้านกาแฟครับ ส่วนของบรรยากาศ ถ้าเลือกได้แนะนำให้ไปช่วงเย็นๆ ให้ได้ 2 บรรยากาศคือยังมีแสงและช่วงกลางคืน ที่นี่ไฟก็จะสวยมากครับ ยิ่งได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในเทพนิยายไปอีก…
ส่วนตรงนี้เป็นร้านกาแฟครับ เผื่อใครอยากจิบกาแฟร้อนๆ หรือซื้อกาแฟกลับมากินกัน
ถ่ายรูปสวยๆ กันยาวปายยยยย สำหรับที่นี่เที่ยวไม่นานแป๊บเดียวก็เดินทั่วแล้วครับ สิ่งที่ยากของที่นี่ก็คือคนเยอะนิดนึงถ่ายอาจจะติดคนเยอะหน่อย แต่ตอนนี้ AI เก่งเนอะ ก็มาใช้ AI ลบกันเอาเองน้า ^^
เดินเล่นถ่ายรูปพักใหญ่ก็ได้เวลาเดินทางกลับ แอบแวะมาถ่ายรูปกระเช้าสกีกันนิดนึง สวยดีนะครับ
แต่ตอนนี้ลานสกีทางด้านบนน่าจะยังไม่เปิด น่าจะเป็นหิมะแรกๆ เลย กระเช้ายังไม่ทำงาน เผื่อใครอยากไปเล่นสกีที่นี่ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมกันดูน้า… ว่าเค้าเปิดให้เล่นสกีกันประมาณเดือนไหน เช็คกับทางโรงแรม Furano Prince กันได้ครับ
หลังจากเที่ยวหมู่บ้านเทพนิยายเสร็จก็กลับมาที่เมืองอาซาฮิคาว่า (Asahikawa) เดินทางประมาณชั่วโมงกว่า ส่วนของมื้อเย็นวันนี้ อิสระมื้อเย็นจ้า… ทางทัวร์จะเอาเราไปทิ้งไว้ที่ อิออน อาซาฮิคาซ่า (AEON Asahikawa Ekimae) ให้เราหาของกินกันเองครับ
ส่วนของเวลาแอบให้น้อยไปนิด เอาจริงๆ นั่งกินข้าวก็หมดเวลาแล้วครับ เดินเล่นเพิ่มเติมไม่ได้เลย T_T
บางคนในกรุ๊ปเลือกที่จะเดินเล่นซื้อของ แล้วซื้ออาหารจากซุปเปอร์มาร์เก็ตข้างล่างกลับไปกินที่โรงแรมครับ หรือจริงๆ ใกล้ๆ โรงแรมก็พอมีร้านให้นั่งกินข้าวอยู่บ้างครับ แต่จะสั่งอาหารยากหน่อย เมนูมีแต่ภาษาญี่ปุ่นครับ
ส่วนของเมนูแนะนำของที่นี่ เท่าที่หาข้อมูลมา ร้านดังจะเป็นข้าวหน้าหมูย่างครับ
Kikuyoshi (คิคุโยชิ) ร้านอาหารบุตะด้ง (ข้าวหน้าหมูย่าง) อันเก่าแก่ที่ถือกำเนิดในเมืองโอบิฮิโระ (Obihiro) จังหวัดฮอกไกโด เมนูยอดนิยมของที่นี่ก็คือข้าวหน้าหมูโทคาจิ (Tokachi Butadon) หมูส่วนสันนอกชิ้นหนาราดซอสพิเศษของทางร้านที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นแบบไม่อั้น นำไปย่าง เสิร์ฟแบบร้อนๆ หอมๆ บนข้าวสวย คือดีย์ บอกเลย
นี่เลย ข้าวหน้าหมูโทคาจิ (Tokachi Butadon) หอมอร่อยมาก ส่วนทางร้านก็ยังมีเมนูอื่นๆ อีกน้า…
เมนูนี้ลิ้นวัวย่างเผื่อใครอยากกิน แต่ลิ้นวัวของที่แอบเหนียวหน่อย ถ้าเป็นลิ้นวัวย่างไกด์จะแนะนำอีกร้านนึงมากกว่าครับ แต่คนเยอะมากเลยครับ ไม่รู้ว่าจะกินทันมั๊ย ห้าๆๆๆๆ
อิ่มอร่อยแล้วก็ได้เวลาไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตข้างล่างต่อ… ส่วนของแนะนำที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตข้างล่างก็จะมีถุงร้อน ใครขี้หนาวแนะนำลงไปซื้อกันครับ อยู่ได้ 12-24 ชั่วโมงยาวๆ แล้วแต่ยี่ห้อครับ ใส่กระเป๋าเอาไว้ซุกมือ อุ่นพุงกันได้ อีกอย่างก็ต้องเป็นสตรอว์เบอร์รี ลูกใหญ่ๆ หวานๆ ถูกมาก เอาไปกินกันที่โรงแรมเนอะ
ส่วนของโรงแรมที่เราพักกันที่เมืองนี้ แค่ 1 คืน ก็คือ… Hotel Crescent Asahikawa ห้องพักไม่ได้ใหญ่มากตามสไตล์ญี่ปุ่น แนะนำสำหรับการพักห้องพักที่ญี่ปุ่น ถ้าอยากได้ห้องใหญ่ ต้องเป็นแบบ 2 เตียงนะครับ ห่างกันซักพัก ไม่ต้องนอนด้วยกันก็ได้สำหรับคู่รัก ห้าๆๆๆๆ ถ้าเตียงใหญ่เตียงเดียวห้องจะเล็กกว่า…
ส่วนของห้องน้ำเล็กไปอี๊ก แต่มีอ่างอาบน้ำและชักโครกอัตโนมัติตามสไตล์ญี่ปุ่นครับ อ้อ… น้ำก็ร้อนและแรงมากชอบเลย
ส่วนของวิวก็จะประมาณนี้ เก็บของเสร็จก็ได้เวลาไปเดินเล่นกัน
ลงมาเดินเล่นข้างหลังโรงแรม หิมะตกหนักมาก เอาจริงๆ ก็แอบตกหนักตั้งแต่อยู่ที่อิออนแล้วครับ
ส่วนของด้านหลังโรงแรมจะเป็นโซนร้านอาหารหลายร้านปิดแล้ว บางร้านยังเปิดอยู่ เผื่อใครอยาก Hangout ต่อลองไปหาที่นั่งดื่มกันต่อได้น้า… ส่วนเราก็ไปถ่ายรูปท่ามกลางพายุหิมะเบาๆ กัน นี่นักท่องเที่ยวหรือผู้ประสบภัย ห้าๆๆๆๆๆ แต่ชอบนะ
ร้านด้านหลังโรงแรมแสงสวยมากครับ ใครพักโรงแรมนี้หิมะตกแบบนี้ก็ไปเดินเล่นถ่ายรูป ถ่าย Story สวยๆ กันได้
อ้อมไปอีกฝั่งก็จะเป็นโซนร้านอาหารพร้อมลานกว้างด้วยนะครับ มีร้านเปิดอยู่นิดหน่อย
ร้านที่เปิดอยู่จะเป็นร้านนั่งดื่มเล็กๆ ครับ
สภาพหลังจากเดินเล่นอยู่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หิมะแน่นๆ หมวกจากหมวกสีดำกลายเป็นสีขาว ห้าๆๆๆๆ
จบวันแรก Part 1 วันนี้ได้เที่ยวหลักๆ เลยก็จะเป็น หมู่บ้านเทพนิยาย นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace) เดินทางมาถึงกว่าจะออกจากสนามบินก็เกือบเที่ยง เดินทางอีก 3 ชั่วโมง เดินทางกลับอีก 1 ชั่วโมง เดินเล่นอิออนเบาๆ และมาเดินเล่นเก็บบรรยากาศใกล้ๆ โรงแรมอีกหน่อย กลับโรงแรมนอนกันครับ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมวันนี้ก็จะเป็นอาหารมื้อเย็นที่ต้องหากินเอง ถ้ากินแบบที่ผมกิน ชุดข้าวหน้าหมูย่างก็ประมาณ 300 กว่าบาทครับ
สำหรับวันต่อไป ผมไปเที่ยวที่ไหนต่อ… รอติดตามตอนต่อไปน้า