กินอาหารแบบมีสไตล์ เหมือนหลุดเข้าไปใน Wonderland ที่ร้าน The Hatter @สุขุมวิท 21
ฟ้ากับพี่สามได้มีโอกาสไปรีวิวร้านนู้น ร้านนี้มาเยอะแล้ว เคยแอบคิดในใจว่าอยากไปร้านอาหารที่เป็นแนวเทพนิยาย แนวเจ้าหญิง หรือพวกดินแดน Wonderland อะไรแบบนั้น แต่ก็ไม่เจอร้านที่ถูกใจน่าไปซักที จนมาเจอร้านๆ นึงแถวๆ อโศกค่ะ เป็นร้านที่ตกแต่งแนวแบบที่ฟ้าชอบเลย ดูนิทานๆ ฟุ้งๆ หน่อย งานนี้ฟ้าจะไม่พลาดค่ะ! เราต้องไปรีวิวกัน อิอิ
ร้าน The Hatter คือร้านที่ฟ้าพูดถึงค่ะ ร้านนี้แหละได้ฟุ้งสมใจเลย 555
เดินเข้ามาบริเวณหน้าร้าน ก็ดูร่มรื่น ต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งใบ ทำให้ไม่รู้สึกถึงความร้อนของแดดตอนเที่ยงเลยค่ะ
เดินเข้ามาในร้านกันเถอะๆๆๆ มาดูการตกแต่งของที่ร้านนี้กันยาวๆ ไปก่อนเนอะ เพราะร้านเค้าน่ารักจริงๆ เลยมีรูปบรรยากาศเยอะหน่อย แหะๆๆ
ตกแต่งได้เก๋กู๊ดเชียว เล่นมุม สูงต่ำ มีนาฬิกาน้อยๆ ห้อยลงมา น่ารักดีค่ะ
ทางเข้าไปนั่งที่โต๊ะนี่แบบว่าเหมือนกับเดินอยู่ในโพรงไม้หรือในถ้ำที่ตกแต่งได้อย่างอบอุ่นจริงๆ ค่ะ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็น Alice in Wonderland ฮ่าๆ
ด้านข้างกำแพงก็วาดลวดลายสัตว์ในเทพนิยายได้ feel มากๆ
เข้ามาถึงด้านในโพรงไม้ของ Alice in Wonderland แล้ว เอ้ยยยย….ด้านในของร้านแล้ว ตกแต่งได้ดูอบอุ่นมากๆ
ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ซ้ำแบบซักเท่าไหร่ จัดวางบนโต๊ะพื้นหินอ่อนดูเหมือนจะไม่เข้ากัน แต่จัดออกมาแล้วดูน่านั่งค่ะ
โคมไฟอย่างเก๋อ่ะ เอาถ้วย ขาม กาน้ำ แก้วน้ำ มาประดับ อันนี้ชอบๆๆ อิอิ
ใครที่มากับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนหลายๆ คนต้องมุมนี้เลยค่ะ นั่งล้อมลงกันเม้ามันส์ สนั่นได้เลย มีหมอนอิงน่ารักๆ เหมือนนั่งเล่นอยู่ในห้องที่บ้านเลย
เดินถ่ายรูปซะหลายมุม มาเจอปากกาขนนกอันนี้ นึกถึงแฮร์รี่ พอตเตอร์เลย ฮ่าๆๆ
ที่ร้าน The Hatter มีโซน Out Door ด้วยค่ะ เผื่อใครที่อยากสูดอากาศบริสุทธิ์ ใต้ร่มไม้ค่ะ มีเจ้ากระต่ายน้อยมายืนต้อนรับด้วย
แต่อย่างว่าอ่ะเนาะ….อากาศเมืองไทย ร้อนปรานีซะที่ไหน! แต่ด้วยร่มไม้ ต้นไม้ก็เลยทำให้โซนด้านนอกอาจจะอบอ้าวไปนิดค่ะ แต่ไม่ร้อนมาก
ที่นั่งก็ตกแต่งได้น่ารัก น่านั่งไม่แพ้ด้านในร้านค่ะ
อาวววว ล่ะค่ะ…..พาดูบรรยากาศของร้านมานานละ มาเข้าเรื่องของกินที่ฟ้ากะพี่สามมาลองกันวันนี้บ้างดีกว่าค่ะ
เริ่มกันที่เมนูกันก่อนเลยมาแบบกรอบรูปอันใหญ่มากเลยทีเดียว แถมเล่มเมนูก็ออกแบบมาหนาด้วยค่ะ อารมณ์เหมือนคัมภีร์อะไรซักอย่าง 555555
เลือกเมนูกันอยู่ซักพัก ก็สั่งออเดอร์กับ พนง. เรียบร้อยค่ะ นั่งเล่น ถ่ายรูปกันไปซักแปบก็มีออเดิฟมาเสิร์ฟค่ะ อภินันทนาการจากทางร้าน เป็นเหมือนขนมปังเนยกระเทียมค่ะ มาแบบแผ่นบางๆ กรอบๆ อร่อยอะ ฟ้ากินเรียบเลย
รอไม่นานเครื่องดื่มก็มาค่ะ ของพี่สามเป็น น้ำมะพร้าว หอม หวาน แต่แกะเนื้อกินยากเพราะลูกเล็กอ่ะ พี่สามแอบบ่น ฮ่าๆ ราคา 110 บาท แพงไปหน่อยค่ะ
ส่วนของฟ้าเป็น แอปเปิ้ลโซดา เปรี้ยว ซ่า ได้ใจ ราคา 100 บาทค่ะ
เมนคอร์สของเราสองคนเริ่มทยอยมาแล้วค่ะ เริ่มกันที่ “Foie Gras Creme Brulee” ค่ะ เสิร์ฟมาในถ้วยแบบ Creme Brulee แบบเบเกอรี่ที่เราคุ้นชินกันนี่แหละค่ะ แต่นี่เป็นแบบของคาว เออ…แปลกดีนะ อ้วนดีด้วย ฮ่าๆๆ มีขนมปังปิ้งเป็นแท่งกรุบๆ เอาไว้จิ้มดิป Foie Gras ท้อปปิ้งด้วยลูกเกดเม็ดเล็กๆ กินแบบเก๋ๆ ด้วย
รสชาติโอเคเลยอ่ะ อร่อยดี นี่ชอบนะบอกเลย อาจเพราะไม่เคยกิน Creme Brulee ที่ทำออกมาเหมือนอาหารคาวแบบนี้ก็เลยแปลกๆ ตาค่ะ รสชาติตับห่านชัดเจนแต่ไม่แรงมาก ทุกอย่างเข้ากันดี ราคา 330 บาทค่ะ
ตัว Foie Gras Creme Brulee ชัดๆ ใกล้ๆ มีน้ำตาลไหม้นิดๆ ค่ะ
เมนู The Dodo จานนี้ก็เด็ดไม่แพ้กัน ทั้งรสชาติ ทั้งราคา เหอๆๆ เป็นเมนูอกเป็ดยัดไส้อะไรซักอย่างรสชาติเหมือนเนื้อเป็ดสับละเอียดค่ะ อร่อยค่ะจานนี้ เนื้อเป็ดนิ่ม นุ่มมาก พอทิ้งไว้นานๆ เนื้อก็ยังไม่แห้งค่ะ รองพื้นมาด้วยผักผักโขมด้านล่างสุด พร้อมผักอื่นๆ เข้ากันได้ดีค่ะ ราคาอยู่ที่ 450 บาท แรงอยู่ๆๆ แต่อร่อยก็โอเคร๊
มาถึงจานนี้เด็ดสุด ฟ้าขอ Recommend เลยค่ะ “Tomyum Pizza” อร่อย แซ่บมากกกกกกกกกก บอกเลย!! พิซซ่าถาดเล็กกินกันประมาณ 2 คนกำลังดีค่ะ แป้งพิซซ่าบางกรอบ หน้าพิซซ่าเป็นซีฟู้ดต้มยำโปะมาด้วยชีสที่เยอะและเยิ้มมากๆ ค่ะ ราคา 220 บาทค่ะ
รสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็ม มาครบเครื่องต้มยำจริงๆ กินเข้าไปคำแรกนี่แบบว่า….ขอข้าวสวยได้ป่ะ? ฮ่าๆๆๆๆ
อาหารมาครบแล้นนนน พร้อมกิน สู้ตายค่ะ อิอิ
ที่เห็นนี่เหมือนน้อยเนอะ ยังพูดกะพี่สามอยู่ว่า เฮ้ยยย….จะพอกินแมะเนี่ย? แต่พอเอาเข้าจริงๆ กินกัน 2 คนกำลังดีเลย ค่อนข้างอิ่มเลยล่ะค่ะ
กินจนอิ่มแล้ว ขอแว่บเข้าห้องน้ำหน่อย ที่ร้าน The Hatter เค้าไม่ได้มีดีแค่ตกแต่งร้านนะคะ ห้องน้ำก็เก๋กู๊ดไม่แพ้กัน ดูอ่างล้างมือสิเออ….
มาๆๆๆ มาฟังสรุปกันค่ะ มื้อนี้หมดไป 1,425 บาท (รวม Vat และก็ Service 10% แล้วค่ะ) รสชาติอร่อยใช้ได้ แนะนำพิซซ่าต้มยำจริงๆ นะ อร่อย แซ่บจริงค่ะ เมนูอื่นๆ ก็รสชาติดีไม่แพ้กัน พอใจนะร้านนี้ อิอิ ส่วนเรื่องราคาก็ค่อนข้างสูง แต่พอเทียบกะรสชาติก็โอเค พอได้ๆๆ พนง. น่ารัก บริการดีค่ะ
พิกัดของร้าน The Hatter อยู่ซอยสุขุมวิท 21 (ซอยอโศก) ซอยติด รพ.จักษุรัตนิน เข้าไปในซอยประมาณ 50 เมตรค่ะ ที่จอดรถมีนะแต่น้อยมากกกกกก จอดได้หน้าร้าน ประมาณ 2-3 คันเองค่ะ ไม่ควรเอารถไปด้วยประการทั้งปวง ถ้าดวงดีหน่อยก็มีที่จอดค่ะ ลำบากเรื่องที่จอดจริงๆ แต่ทางร้านเค้าก็มีกั้นที่จอดตรงหน้าร้านเอาไว้ แต่ก็ยังน้อยอยู่ดีค่ะ ถ้าจะไปก็แทกซี่หรือไม่ก็ MRT สถานีเพชรบุรี แต่ต้องเดินไปอีกหน่อยก็ถึงร้านค่ะ
โดยรวมแล้วรสชาติ บรรยากาศดีเลยแหละ ถูกใจคนชอบนิทาน ชอบการ์ตูนแบบฟ้ามากๆ ลองไปชิมกันดูนะคะ แนะนำๆๆๆ อิอิ
Related Articles