นั่ง Float Plane ส่องหมี @Ketchikan Alaska
ความสนุก ตื่นเต้น ของทริปท่องเที่ยวอลาสก้าของผมยังไม่หมดนะครับ ที่ผ่านมาผมเล่าเรื่องอะไรไปบ้าง ตามอ่านได้จากลิงค์ต่อไปนี้ได้เลยครับ ^^
- พาเที่ยว พาชม ธารน้ำแข็งที่สวยที่สุดของเมือง Juneau, Alaska @Mendenhall Glacier Visitor Center
- กินปูอลาสก้า @Alaska Fish House Ketchikan
- ตะลุยอลาสก้า เดินเล่นไปบนธารน้ำแข็ง (Glacier)
- พาเที่ยวดูการจับปูอลาสก้า อาชีพที่อันตรายที่สุดในโลก !!!
จากความประทับใจจนต้องมาเล่า แชร์ประสบการณ์ให้ฟังทางด้านบน ก็ยังมีอีกหนึ่งความประทับของทริปนี้ นั่นก็คือ การนั่งเครื่องบินน้ำ (Float Plane) นั่นเองครับ โดยการมาท่องเที่ยวอลาสก้าหลายคนน่าจะอยากจะมาส่องสัตว์โดยเฉพาะหมีกริซลี (grizzly bear) หรือหมีสีน้ำตาล (brown bear) และสัตว์ป่าอื่นๆ
แต่ด้วยการเดินทางทริปนี้ของผมเป็นล่องเรือสำราญ เรือจะทำการจอดเทียบท่าให้ทำการท่องเที่ยวแต่ละเมืองในช่วงกลางวันและเดินทางต่อในช่วงกลางคืนทำให้ไม่มีเวลาที่จะทำการไปส่องสัตว์ (อย่างจริงจัง) การที่จะส่องสัตว์ในป่าลึกๆ ได้ภายในครึ่งวัน นั่นก็คือการนั่งเครื่องบินไปทำการส่องสัตว์นั่งเองครับ โดยทัวร์ส่องสัตว์โดยใช้เครื่องบินจะมีทั้งแบบที่เป็นเฮลิคอปเตอร์ (ซึ่งเคยนั่งมาแล้ว) เครื่องบินเล็กธรรมดา และเครื่องบินน้ำ (Float Plane) (ที่หานั่งได้ยากถ้าเราอยู่ที่ประเทศไทย)
ผมเลยตัดสินใจเลือกที่จะนั่งเครื่องแบบ Float Plane ในการไปส่องหมีในครั้งนี้ครับ ^^
หลังจากที่เรือสำราญเทียบท่าที่เมือง Ketchikan พอลงเรือก็ต้องเดินหาป้ายทัวร์ Float Plane ที่เราซื้อไว้ก่อนครับ
แต่เหมือนว่า …. คนมารับเราไปขึ้นเครื่องบินจะยังไม่มา ถ่ายรูปเล่นกันก่อนก็แล้วกันนะครับ
เมือง Ketchikan ได้สมญานามว่า เมืองหลวงแห่งปลาแซลมอน
น่าจะเนื่องมาจากปลาแซลมอนทำการว่ายมาวางไข่ที่นี่ และดำรงชีวิตด้วยการจับปลาแซลมอน จากนั้นพัฒนาทำปลาแซลมอนรมควันขายจนเป็นที่นิยม
แต่ที่เมืองนี้แอบไปกินปูอลาสก้าซะงั้น ห้าๆๆๆ
ถ่ายรูปเล่นอยู่ซักพักก็มีคนมารับเราแล้วครับ
เจอกันปุ๊บ ก็ถามน้ำหนักเราปั๊บ ต้องแจ้งน้ำหนักเราด้วยนะครับ เพื่อที่จะจัดตำแหน่งที่นั่งของเราบนเครื่องบิน
(เลือกที่นั่งเองไม่ได้นะครับ T_T อยากนั่งหน้า)
เนื่องจากเครื่องบินเป็นเครื่องบินเล็ก จะต้องมีการจัดตำแหน่งที่นั่งเพื่อให้สมดุลเวลาขึ้นบินนั่นเองครับ
พอไปถึงก็เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อน เตรียมตัว
ตลอดทริปนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่มีห้องน้ำนะครับ เข้าห้องน้ำเสร็จก็หมายตาของที่ระลึกไว้ซักหน่อย เดี๋ยวกลับมาเอา ^^
ขากลับมาก็ได้เครื่องบินน้ำจำลองกลับบ้านไป 1 ลำ
รออยู่ซักพักก็ได้เวลาขึ้นบินกันแล้วครับ
เดินตามนักบินของเราไปได้เลยครับ นักบินของผมเป็นผู้หญิงซะด้วย เก่งจริง อะไรจริง
ระหว่างทางเดิน แอบส่องปลาดาว
น้ำที่นี่ใสมากมองเห็นปลาดาวด้านล่างชัดเจน
เครื่องบินลำนึง นั่งได้ 6 คน (รวมคนขับ)
นั่งคู่คนขับ 1 คน (อยากนั่งตำแหน่งนี้มาก แต่อด) และแถวละ 2 คน อีก 2 แถวครับ
ก่อนขึ้นเครื่องก็มาถ่ายรูปกันก่อน เป็นที่ระลึก
ถ่ายรูปกันครบทุกคนแล้ว ทะยอยขึ้นเครื่องครับ
นักบินจะเรียกขึ้นทีละคน ภายในเครื่องแคบมาก เบียดกันหน่อย ไม่มีชั้น Business Class นะครับ ห้าๆๆๆ
ขึ้นกันครบทุกคนแล้ว ก็พร้อมบิน …
บนเครื่องจะมีหูฟังให้เรา ประโยชน์อย่างแรกเลยก็คือ ป้องกันหูอื้อ เนื่องจากเครื่องบินเสียงดังมาก
ส่วนอีกอย่างก็คือจะเป็นการบรรยายสถานที่ต่างๆ ระหว่างที่เราบินผ่าน พอเจออะไรน่าสนใจทางนักบินก็จะพูดแทรกขึ้นมาให้เราดูตามครับ
ก่อนออกเดินทางต้องมีคนช่วยดันก่อนนิดหน่อย เพื่อออกจากท่าเครื่องบิน
หลังจากนั้นก็จะเหมือนกับเครื่องบินทั่วไปครับ Taxi ไปบนน้ำเพื่อตั้งลำ พอตั้งลำได้ ก็ Take Off ทันทีครับ
พอเริ่มบิน ก็ตื่นตา ตื่นใจ วิวสวยมากครับ
เนื่องจากเป็นเครื่องบินเล็ก บินไม่สูงมาก ให้เราสามารถเห็นข้างล่างได้อย่างชัดเจน
ตามจุดประสงค์ ชมวิว ส่องสัตว์ โดยเฉพาะหมี !!!!
น่าเสียดายหมอกเยอะไปนิดนึงวันนี้
ระหว่างนี้ ก็พยายามมองไปทางด้านล่าง เพื่อหาหมี แต่ … เสียดาย ทั้งทริปไม่เห็นเลย T_T
แต่ได้ชมวิวสวยๆ กับประสบการณ์การขึ้น Float Plane ก็ OK แล้วนะครับ
แต่แอบดีใจตอนท้ายนิสนึง เห็นอะไรลองอ่านต่อกันดูครับ
อ่านข้อความ หรือเห็นแต่ภาพอาจจะไม่ค่อยได้บรรยายกาศ
ลองชมคลิปกันดูหน่อยครับ
หลังจากที่นั่งเครื่องมาซักพัก ก็ถึงทะเลสาป กลางหุบเขา กว้าง น้ำนิ่ง (แอบกลัว) ห้าๆๆ
เครื่องก็ทำการบินลงไปบนทะเลสาปนั้นครับ
ตื่นเต้นมาก
พอ Landing สำเร็จ นักบินก็ลงมาเปิดประตูให้เราลงไปยืนถ่ายรูปเล่นบนทุ่นลอยน้ำของเครื่องบิน
ให้เสียวเล่นกันซะงั้นครับ
ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่ลงครับ บันไดก็เล็ก ทุ่นที่ฐานของเครื่องบินก็เล็ก
ทำใจอยู่ซักพัก ก็ค่อยๆ เดินลงไปครับ
จนได้รูปนี้มาครับ ห้าๆๆๆ
ทำเหมือนไม่กลัว แต่จริงๆ แล้วเสียวใช้ได้เลย พอจะถ่ายรูปก็ปล่อยมือออกจากที่จับ ^^
อากาศหนาวน่าจะเลขตัวเดียว น้ำคงเย็น น้ำนิ่งแบบนี้ คงลึกน่าดู ถ้าตกลงไปนี่ …
ไม่ต้องพูดถึง
ถ่ายรูปแบบ เก้ๆ กังๆ อยู่ซักพัก (เดินสวนกันไม่ได้) ก็เริ่มมีเครื่องบินตามมาลงที่นี่
ชื่นชมบรรยายกาศ อยู่ซักพัก ก็ได้เวลากลับกันแล้วครับ
กลับไปนั่งบนเครื่องอย่างสบายใจ (โล่งอก) พร้อมบินกลับแล้วจ้า
ระหว่างทางกลับก็พยายามนั่งมองไปด้านล่างเหมือนเดิม (ส่องสัตว์)
แต่ก็เข้าใจได้นะครับ ว่าไม่เห็นง่ายๆ แน่นอน
เหมือนตอนที่ไปแอฟริกาใต้ไปนอนส่งสัตว์แค่วันเดียว ก็เห็น BIG5 ไม่ครบเช่นกันครับ
นั่งเครื่องมาซักพัก (ขากลับเหมือนจะไว) ก็กลับมาถึงที่ Landing ของเราแล้วครับ มองจากทางด้านบน สวยใช้ได้
มีเครื่องนึงกำลัง Landing อยู่ทางด้านล่าง
การ Landing ของ Float Plane ผมมีความรู้สึกว่านิ่มกว่าเครื่องบินทั่วไปครับ หรืออาจจะเพราะนักบินเก่ง ^^
สำหรับทริปนั่ง Float Plane เพื่อส่องสัตว์ ก็จบเพียงเท่านี้ครับ
แต่ก่อนที่เครื่องจะลง แอบเห็นภาพน่าประทับใจ นั่นก็คือ ปลาวาฬ ครับ ว่ายมาคู่กับเครื่องตอน Landing นักบินประกาศให้เราในเครื่องดูกัน ถือว่าคุ้มใช้ได้ครับ ^^
ทริปอลาสก้านี้ ถือว่าเห็นปลาวาฬเยอะมากครับ
เห็นตอนเรือสำราญจอดเทียบท่าที่ Skagway เห็นบน Float Plane ที่ Ketchikan และเห็นเป็นฝูงว่ายไปข้างเรือสำราญ อีกครั้งนึง (จำไม่ได้ว่าที่ไหน) ครับ
ไม่ผิดหวังจริงๆ ทริปนี้ เอาไว้จะเอาภาพวิดีโอมาให้ดูนะครับ
การแชร์ประสบการณ์การนั่ง Float Plane ส่องสัตว์ของผมก็ขอจบเท่านี้ก่อนนะครับ ทริปอลาสก้า รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่ผมไปมายังไม่จบเพียงเท่านี้นะครับ เอาไว้จะมาทะยอยเล่าให้ฟังกันอีกนะครับ (รีวิวท่องเที่ยวนี่ใช้เวลาเยอะจริง อะไรจริง ห้าๆๆ) นานๆ มาที แต่อย่าลืมติดตามกันนะครับ ^^
Related Articles