ชมวิวเมืองเคปทาวน์ทุกซอกทุกมุมจาก Table Mountain National Park @แอฟริกาใต้
สำหรับประเทศแอฟริกาใต้ ผมก็ได้พาไปส่องสัตว์ล่า BIG 5 ที่ แบรค ไรโน เกม ลอดจ์ (Black Rhino Game Lodge) และตะเวนเที่ยวเมืองเคปทาวน์ ไปแล้วนะครับ (ใครที่ยังไม่ได้อ่านคลิกลิงค์ไปอ่านกันได้เลยครับ ^^) วันนี้ผมยังคงอยู่ที่เคปทาวน์ครับ เราจะไปชิมวิวเมืองเคปทาวร์จากมุมสูง ที่ Table Mountain National Park กันครับ
Table Mountain National Park เป็นอุทยานแห่งชาติของแอฟริกาใต้ และได้รับประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโก้อีกด้วยนะครับ ซึ่งความโดดเด่นในเรื่องของพันธุ์ดอกไม้หายากมากกว่า 1,400 ชนิด รวมถึงทรัพยากรด้านสัตว์ป่าที่น่าสนใจหลายชนิด Table Mountain มีความสูง 1,086 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง อย่างรอช้าเลยครับ
ขึ้นไปข้างบนนั้นกันดีกว่า ….
การขึ้นไปชมวิวทางด้านบน Table Mountain National Park สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
การปีนเขาและการนั่งกระเช้า
แน่นอนครับ อย่างผม นั่งกระเช้าอยู่แล้น ห้าๆๆๆ
สำหรับราคาค่าขึ้นกระเช้า (ไป-กลับ) อยู่ที่ 225 แรนด์ของแอฟริกาใต้ (ประมาณ 600 กว่าบาท)
โดยกระเช้าดังกล่าวบริเวณพื้นจะสามารถหมุนให้ทุกคนได้ชมวิวเมืองเคปทาวน์ แบบพาโนรามาได้ 360 องศา
เท่ากันทุกคน ไม่ต้องเดินไป เดินมา ^^
นั่งกระเช้าชมวิวมาซักครู่ก็ถึงแล้วครับ
ไปชมวิวต่อกันทางด้านบน
หลังจากที่ลงกระเช้ามาเท่านั้นแหละ
ภาพที่เห็นสวยมาก อดใจไม่ไหว ขอถ่ายรูปตรงนี้ก่อนซัก 2 รูป ก่อนเดินต่อไปทางด้านใน
Table Mountain National Park เป็น 1 ใน 28 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่ โดยเกิดจากการยกของเปลือกโลก
ประกอบกับการผุพัง ถูกกัดกร่อนโดยลมและฝน จนทำให้ภูเขาคล้ายกับรูปร่างของโต๊ะ จนได้ชื่อว่า Table Mountain นั่นเองครับ
ซึ่งกระบวนการดังกล่าวใช้เวลากว่า 800 ล้านปี ถึงจะมีภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์อย่างที่เราเห็นกันในทุกวันนี้
ดูรูปจำลองกันหน่อยว่าเหมือนรึปล่าว ^^
สำหรับการท่องเที่ยวบน Table Mountain National Park จะมีทางเดิน
ให้เราเดินไปรอบ Table Mountain ได้เลยครับ ส่วนของจุดชมวิวทั้งหมด 3 จุด
ลองมาดูแผนที่กันหน่อยครับ
ภาพจาก http://www.tablemountain.net/uploads/files/Wheelchair_Map_2014.pdf
บอกตามตรงว่า เดินไม่รอบครับ ห้าๆๆ
แต่ไปถึงทั้ง 3 จุดชมวิวครับ ^^
บน Table Mountain National Park อย่างที่บอกไปข้างต้นว่ามีพันธุ์ดอกไม้หายากและสัตว์ป่า
สัตว์ป่าที่เราจะสามารถเห็นได้บนนี้ มีดังนี้ …
นอกจากจะบอกว่ามีสัตว์อะไรที่เราจะสามารถพบเจอได้ ยังมีเวลาที่ใช้ในการเดินทางให้ด้วยนะครับ
ช่วงแรกสุด ใช้เวลาเดินรอบประมาณ 15 นาที ต่อมาก็ 30 นาที และ 45 นาที ตามลำดับ
เดินมาซักพักก็ถึงจุดที่จะสามารถเห็น THE DASSIE ได้
ว่าแต่ … มันแอบอยู่ตรงไหนเนี๊ย T_T ไม่เห็นเลยจ้า
แอบถามอากู๋แป๊บ หน้าตามันเป็นยังไง
ภาพจาก http://focusingonwildlife.com/news/the-dassie-rat-an-unique-rodent/
อ๋อมันเป็นตัวแบบนี้นี่เอง ^^
เดินต่อดีกว่า เดินไปซักพัก ก็ถึงจุดชมวิวที่ 3 ขอบอกว่าตรงนี้ ไฮไลท์เลยครับ
ใครขึ้นมาแล้วมาไม่ถึงจุดนี้เสียใจด้วยน้า อิอิ
มองไปไกลๆ เห็น กรีนพอยท์ สเตเดียม (Green Point Stadium) ซะด้วย
มาดูจุดชมวิวนี้แบบถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama) กันหน่อยครับ
ขอภาพมุมนี้ซักรูป สวย ชอบ ^^
ทางเดินรอบ Table Mountain National Park ค่อนข้างงงนิดหน่อย
แต่ละจุดไกลมาก แต่ตามทางจะมีป้ายอยู่บริเวณพื้นทางเดินเพื่อไม่ให้บังทัศนียภาพ
ใครที่เดินทางไปเผื่อเวลาหลงไว้หน่อยนะครับ ห้าๆๆ
ว่าแล้วกลับดีกว่า เดินต่อไม่ไหวแล้ว
ระหว่างทางก็จะมีจุดให้เรานั่งพัก ถ้าใครเหนื่อย นั่งกินน้ำกินขนม
ช่วงที่ผมไปอากาศไม่ร้อนมากครับ
อุณหภูมิประมาณ 20 ต้นๆ แต่ลมแรงมาก เย็นสบายกำลังดี
ใครเดินเหนื่อยๆ ก็แอบหลบเข้าไปพักที่ Table Mountain Cafe ได้ครับ
จิบ ชา กาแฟ ชิว ชิว
แม่ผมก็ไปรออยู่ทางด้านในหลังจากถ่ายรูปแล้ว แม่เดินไกลไม่ค่อยไหว
ก่อนกลับแวะซื้อของที่ระลึกนิสนึง
เริ่มเย็นแล้ว พระอาทิตย์ใกล้จะตก ขออีกซักรูปก่อนกลับลงไปด้านล่าง
เสียดายไม่ได้อยู่ถึงพระอาทิตย์ตก T_T
ดูกระเช้าจากมุมนี้เสียวใช้ได้สำหรับคนกลัวความสูง ห้าๆๆ
แถมภาพระหว่างกระเช้าขาลงอีกซักภาพ
วิวสวย ชอบจัง
วิวบน Table Mountain National Park สวยมากใช่มั๊ยหละครับ พอลงมาถึงด้านล่างก็เริ่มหิว (มื้อเย็น) ซะแล้น เหนื่อยด้วย เดินเยอะ สำหรับรีวิวนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ
ครั้งหน้าผมจะพาไปเที่ยวที่ไหน ? อย่าลืมเข้ามาติดตามอ่านกันได้ ที่ www.Hello2Day.com นะครับ ^^
Related Articles