ทัวร์แอฟริกาใต้ : ส่องสัตว์ล่า BIG 5 ประสบการณ์ประทับใจที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ถ้าถามผมว่าที่ไหนที่ไปเที่ยวมาแล้วประทับใจมากที่สุด ที่นี่เป็นหนึ่งคำตอบของโจทย์นี้ครับ ที่นี่ก็คือ ประเทศแอฟริกานั่นเองครับ อาจจะเป็นเพราะเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่อันหนึ่งของผมนั่นเองครับ ซึ่งถ้าเราไปแอฟริกาใต้สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือการส่องสัตว์ครับ
สำหรับทริปทัวร์แอฟริกาใต้ครั้งนี้ ผมก็ไม่พลาดครับ โดยสถานที่ที่ผมไปพักและส่องสัตว์ก็คือ “แบรค ไรโน เกม ลอดจ์ (Black Rhino Game Lodge)” แบรค ไรโน เกม ลอดจ์ อยู่เมือง ซัน ซิตี้, อุทยานแห่งชาติพิล่าเนสเบร์ก, แอฟริกาใต้ ครับ กว่าจะถึง แบรค ไรโน เกม ลอดจ์ ค่อนข้างจะลำบาก ประกอบกับผมเดินทางไปถึงค่อนข้างจะดึกครับ ทางเข้า 2 ข้างทางเป็นป่า มืดมาก
พอไปถึงที่พักก็เปิดไฟเท่าที่จำเป็น T_T อยู่กันแบบสงบมาก น่าจะเนื่องจากอยู่ในอุทยานแห่งชาติพิล่าเนสเบร์ก (คิดว่านะครับ) พอไปถึงไม่ทันได้ Survey อะไร (เอาไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากัน) เนื่องจากมืดมาก หิวแล้วด้วยครับ ก็เลยรีบเข้าไปทำการ Check-in พร้อมสั่งอาหารมากิน สำหรับมื้อเย็นนี้
มาสถานที่แบบนี้ ก็ต้องกินอะไรแปลกๆ กันซักหน่อย ว่ามั๊ยครับ เมนูวันนี้ได้แก่ ข้าวหน้าสเต็กเนื้อ blesbok !!!! อุ๊ย แล้วตัวมันเป็นยังไง แต่มาถึงที่นี่แล้ว ก็ลองซ้กหน่อยก็แล้วกันนะครับ
พอมาเสิร์ฟเลือดแดงเต็มจากกันเลยทีเดีย (เท่าที่ดูความสุกน่าจะเป็น Rare เลือดถึงได้แดงขนาดนี้) แต่ขอบอกว่าเนื้อนุ่ม อร่อยมากครับ
จริงๆ แล้ว เค้าเสิร์ฟเฉพาะสเต็กนะครับ แต่ข้าวเค้าทำหุงมาให้พิเศษ บริการดีมากๆ ครับ เราอยากได้อะไร ถ้าเค้าหาให้ได้เค้าก็ทำมาให้ครับ
เมื่อเราถามเค้าว่า blesbok เป็นยังไง เค้าไม่รอช้าครับ นำมือถือขึ้นมา เข้า Google แล้ว Search ให้เห็นภาพกันเลยทีเดียวครับ (Friendly มากๆ ครับ คนดูแล)
สำหรับที่นี่ ตอนที่เรามาถึง เหมือนกับว่าไม่มีคนพักอยู่เลยครับ เงียบมากๆ หรืออาจจะเพราะเรามาถึงดึกมากๆ เท่าที่ได้คุยกับคนดูแล เค้าบอกว่าเราเป็นคนไทยกลุ่มแรกที่มาพักที่นี่ แถมยังไม่รู้จักประเทศไทยอีกนะครับ ต้องอธิบายกันยาว ว่าอยู่ตรงไหนของโลก T_T
อ้อลืมบอกไป ทริปนี้ของผม เป็นทริปแบบ Private Tour จะมีเฉพาะครอบครัวผม 3 คนเท่านั้นครับ ยิ่งทำให้คนดูน้อยไปใหญ่ครับ
ดูสภาพที่พักกันหน่อยครับ
ที่พักดีมากๆ ครับ ภายในตกแต่งสวยงาม ร่มรื่น ยังดูใหม่มากๆ นะครับ
เข้าไปที่เตียงก็เจอกับผ้าขนหนูและจดหมายต้อนรับครับ บอกรายละเอียดต่างๆ ของที่นี่ และเวลากินข้าว และรอบที่เราจะออกไปส่องสัตว์กันครับ
ด้านปลายเตียงมีโซฟา ทีวีอยู่ด้านข้าง ส่วนโซฟา หันไปทางประตูกระจกทางด้านหลังห้องครับ น่าจะเอาไว้ส่องสัตว์นั่นเองครับ
เห็นอยู่กลางป่าแบบนี้ มีอ่างอาบน้ำนะครับ บรรยากาศดีมากๆ มองเห็นวิว ด้านบน ด้านนอก ชมดาวได้ด้วยครับ อีกฝั่งที่เป็นกระจกเป็นฝักบัวอาบน้ำแบบ Open Air ครับ อาบลมห่มฟ้า ห้าๆๆๆ ได้บรรยายกาศไปอีกแบบ
ปล. ห้องน้ำที่นี่ไม่มีประตูนะครับ เป็นแค่ฉากกั้ง อยู่ด้านหัวนอน เดินอ้อมไปก็เป็นห้องน้ำเลยครับ
ตรงกันข้ามกับอ่างก็เป็น อ่างล้างหน้า และชักโครกครับ
ประตูกระจกตรงปลายเตียง เปิดออกมามีที่นั่งชิว ส่องสัตว์ตอนกลางคืนได้ครับ
ไม่รอช้าสั่งไวน์มานั่งจิบ ชิว ชิว ก่อนนอน
คนที่ดูแลที่นี่บอกว่า บางครั้งจะมีสัตว์มาใกล้ๆ ที่พัก สามารถพบเห็นได้ง่ายๆ อุ๊ย ขนาดนั้นเลยหลอ ?
ตื่นเช้ามา ของ Survey สถานที่กันหน่อยครับ อย่างแรกที่พบเห็นล้อมที่พักอาศัยของเราเลยก็คือ รั้วไฟฟ้า นั่นเองครับ น่าจะเอาไว้ป้องกันสัตว์เข้าทำร้าย นั่นเองครับ ว่าแต่ เตี้ยไปมั๊ย ?
ที่พัก ถ้าดูจากภายนอก ค่อนข้างเก่า และดูสีสรร การแตกแต่ง ให้เนียนไปกับธรรมชาติครับ แต่ภายในดูหลูหลาใช้ได้เลยครับ จากที่ให้ชมกันไปทางด้านบนครับ
ไม่ต้องห่วงครับ ห่างไกลขนาดนี้ แต่มี TV ให้ดูครับ ผ่านจานดาวเทียมครับ อินเทอร์เน็ตก็มีนะครับ ให้บริการฟรีที่ Lobby ครับ (เนื่องจากบ้านแต่ละหลังค่อนข้างห่างกันครับ ไม่สามารถทำ WIFI ให้ครอบคลุมได้ครับ)
มุมมองนี้เป็นฝั่งของหัวเตียงครับ ที่บอกว่าเป็นห้องอาบน้ำแบบ Open Air ครับ (ส่วนที่เป็นกำแพงปูน)
บ้านแต่ละหลัง ค่อนข้างห่างกัน เป็นส่วนตัว เงียบสงบมากๆ ครับ
เห็นภายนอกดูเก่าๆ แบบนี้ ธรรมชาติแบบนี้ แต่มีสระว่ายน้ำให้บริการด้วยนะครับ สำหรับห้องสวีท ครับ
มาเที่ยวแบบนี้ต้องตื่นเช้าหน่อยนะครับ เนื่องจากชีวิตสัตว์ป่าที่เราต้องการจะไปดูจะออกหากินหรือทำกิจกรรมต่างๆ จะเห็นได้ในช่วงเวลาที่เช้าตรู่กับช่วงเย็นๆ เวลาที่จะมีรถพาเราออกไปส่องสัตว์จะมี 2 ช่วงเช่นกันครับ คือช่วงเวลา 6.30 น. และ 16.00 น. ครับ
นี่ก็จะเป็นรถที่จะพาเราไปส่งสัตว์กันครับ ด้านหน้าก็เป็นที่นั่งคนขับปกติ ด้านหลังจะเป็นที่นั่ง จะสูงหน่อยครับ บางที่จะมีการให้อาหารสิงโต เสือดาว ด้วยนะครับ แต่แนวนั้นน่าจะเป็นการทำลายสมดุลธรรมชาตินะครับ ผมว่า สัตว์จะไม่ไปหาอาหารกินเอง รอคนมาให้อาหาร แต่ก็น่าสนใจไปอีกแบบ
ส่วนที่ผมไปจะเป็นการไปส่องสัตว์จากธรรมชาติจริงๆ ครับ
เมื่อถึงเวลานัด ก็ออกไปรอที่จุดนัดหมายครับ เค้าจะไม่รอนะครับ เมื่อถึงเวลา ก็จะออกไปเลย เพราะมีหลายรอบ บางคนอาจจะต้องการพักผ่อน ไม่มีการจองไว้ล่วงหน้าครับ
บริเวณที่เราพักอาศัยก็จะมีรั้วไฟฟ้าล้อมรอบ รวมถึงประตูอัตโนมัติครับ ต้องใส่รหัส สำหรับตอนเข้ามา ผมมารถตู้ ตรงที่กดรหัสเพื่อเปิด-ปิดประตู ก็จะมีคล้ายๆ กับอินตอร์คอมเพื่อสื่อสารมายัง Lobby ของที่พักได้ครับ เค้าก็จะบอกรหัสเพื่อเปิดประตูเข้ามายังที่พักครับ
เมื่อเริ่มออกเดินทาง รถก็จะขับไปตามทางครับ จากที่สังเกต เห็นคนที่เข้าพักมาส่องสัตว์แค่ประมาณ 3 คนครับ นั่งรถคันก่อนหน้า 1 คน เหมือนเป็นแบบส่วนตัว กล้องเลนส์ เทเล คงต้ังใจมาส่องสัตว์ ถ่ายภาพสัตว์มากๆ ส่วนอีก 2 คน ผู้หญิงกับผู้ชาย น่าจะมาท่องเที่ยวปกติ โดยสารมาคันเดียวกับครอบครัวผมครับ
หลังจากเดินทางมาซักพัก ก็พบกับ ยีราฟ ครับ ซึ่งพบเห็นได้ง่าย สิ่งที่ ทุกคนมาส่องสัตว์อยากจะเห็น นั่นก็คือ BIG 5 นั่นเองครับ ซึ่ง BIG 5 ประกอบไปด้วย เสือดาว สิงโต ช้างแอฟริกา แรด และ ควายแอฟริกา ครับ มาดูกันหน่อยครับ ว่าผมเห็นอะไรบ้าง ?
ระหว่างโดยสาร คนขับก็จะจอดรถ ดับเครื่อง เพื่อไม่ให้สัตว์ตกใจ และวิ่งหนี พร้อมกับส่งกล้องส่องทางไกลให้เราได้ส่องสัตว์กันแบบใกล้ชิดครับ ระหว่างนี้คนขับก็พยายามส่องกล้องส่องทางไกล หาสัตว์ต่างๆ เพื่อบอกให้เราได้ส่องตามครับ
สำหรับการส่งสัตว์ ต้องตาไว และกล้องไวหน่อยนะครับ แนะนำว่าใครอย่างมาถ่ายภาพต้องพกเลนส์เทเล มาด้วยครับ ส่วนใหญ่สัตว์ที่หาดูยาก จะอยู่ไกลๆ ครับ
อย่างภาพด้านล่างนี้เป็นหมูป่าครับ วิ่งไว และหายไปไวมากๆ ครับ ภาพไหวไปนิดนึงนะครับ กล้องไม่ค่อยดีครับ ห้าๆๆๆ
ต่อมาซักพัก คนขับรถก็จอดรถ ดับเครื่องครับ ก็ยังงง ว่าจอดทำไม หลังจากนั้นก็ชี้เป้าหมายให้เราเห็นครับ ฝูง blesbok ที่เรากินกันเมื่อคืนนี้ครับ ภาพนี้ขอบอกว่า มองด้วยตาปล่าวแทบจะไม่เห็นอะไรครับ ต้องใช้กล้องซูมเอาครับ
ในที่สุดเราก็ได้เห็น 1 ใน BIG 5 กันแล้วครับ นั่นก็คือ แรด นั่นเองครับ เป็นฝูงใหญ่ๆ ภาพนี้ก็ต้องซูมหนักๆ เช่นกันครับ เลนส์ที่ผมใช้เป็น Nikon 18-105 อยากจะบอกว่า นี่ใช้ที่ 105 mm เลยครับ สุดทางเลนส์ที่มี เสียดายที่ไม่มี เลนส์ เทเล ที่สามารถซุมได้มากกว่านี้ครับ T_T
เดินทางมาอีกซักพักก็เจอกับยีราฟอีกแล้วครับ รอบนี้เห็นกันแบบใกล้ๆ กำลังเดินข้ามถนน คนขับรถที่พาเรามาส่องสัตว์ของเราในวันนี้ เค้าเหมือนจะรู้จักสัตว์ทุกตัวที่เราเห็นในวันนี้ คงเจอบ่อยๆ จนจำได้ รู้ถึงขนาดว่า มียีราฟตัวนึงเดิน กะเผลก เนื่องจากโดนสิงโตไล่ากัดมาครับ โอ้ ….. เกือบไม่รอด !!!
หลังจากที่ส่องสัตว์มาซักพัก เราก็มายังที่พักระหว่างทาง เพื่อชิว จิบกาแฟ ยามเช้า พื้นที่นี้ก็เป็นประตูอัตโนมัติ และล้อมด้วยรั้วไฟฟ้า เหมือนกับที่พักเราครับ แต่เป็นพื้นที่เล็กๆ ครับ พอจอดรถเสร็จ คนขับรถก็เตรียมของบนกระโปรงหน้ารถ ให้เราได้ ชิว ชงกาแฟ จิบ แอบส่งสัตว์กันไปพลางๆ
ระหว่างนี้ก็ถ่ายรูปคู่รถกันไปก่อนครับ ที่หน้ารถมีวิทยุ คนขับจะคอยวิทยุหาเพื่อนๆ ร่วมทาง ที่ออกมาส่องสัตว์พร้อมๆ กัน ว่าเจออะไรที่ไหนบ้าง เผื่อว่าเราจะได้เห็นเหมือนๆ กันครับ
สุดท้ายแล้วเราก็ต้องกลับมาที่พัก สิ่งที่ได้เห็น ก็เพียงแค่ ยีราฟ แรด (1 ใน BIG 5) หมูป่า กวาง blesbok เท่านั้นครับ น้อยไปหน่อยนะ แต่ผมก็มีเวลาน้อยด้วยหละครับ พักที่นี่ แค่คืนเดียว มาถึงกลางคืนเช้าไปส่องสัตว์ เที่ยงออกเดินทางไปเที่ยวที่อื่นต่อครับ
จากที่ได้สอบถาม ถ้าต้องการเห็น BIG 5 ให้ครบต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ครับ และต้องออกทุกวัน เช้า เย็น เนื่องจากสัตว์ป่าบางชนิด ไม่ออกหาอาหารทุกวันครับ
หลังจากกลับจากการส่องสัตว์ ก็กลับมากินอาหารเช้าครับ แก้วเตรียมไว้เยอะมาก แต่ก็ยังคงมีแค่ครอบครัวผม 4 คน ที่มากิน ห้าๆๆๆ หรือว่าจะมีคนมาพักที่นี่ช่วงที่ผมมาเพียงแค่ 7 คน ที่เห็นตอนที่ไปส่องสัตว์ แต่ห้องพักก็มีจำกัดนะครับ เท่าที่ดู น่าจะไม่ถึง 10 หลัง เท่าที่เห็นนะครับ
และนี่ก็เป็นอาหารเช้าของผมเช้านี้ครับ american breakfast ที่พบเห็นได้ตามโรงแรมทั่วโลกทุกเช้า ห้าๆๆๆ
จากประสบการณ์ครั้งนี้ ผมถือว่าประทับใจนะครับ ในเรื่องของการบริการ สถานที่ ที่พัก ห้องพัก ถึงแม้ว่า ผมจะเห็น BIG 5 เพียงแค่ตัวเดียว T_T แต่ก็เข้าใจได้นะครับ ส่องสัตว์แบบธรรมชาติ ไม่ได้ดูสัตว์ในสวนสัตว์ ต้องใช้เวลาหน่อย แต่ก็ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจครับ เนื่องจากไม่เคยเจอมาก่อนครับ ถ้าได้เจอ BIG 5 ครบ คงจะดีนะครับ
หรือถ้าใครชอบประสบการณ์แบบตื่นเต้น ลองหาทัวร์แบบที่เค้าไปให้อาหารสิงโตดูนะครับ ก็จะได้อีกบรรยายกาศครับ แล้วแต่ชอบครับ ถ้ามาแบบผมก็มาแบบธรรมชาติจริงๆ ครับ ^^
Related Articles