ชิมอาหารอร่อยๆ เม้ามอยชิลๆ กับบรรยากาศสบายๆ ที่ร้าน SEED @ซอยพร้อมจิต สุขุมวิท 39
สายๆ ของวันเสาร์ วันหยุดจากการทำงานทั้งทีขอตื่นสายๆ อาบน้ำแล้วออกไปหาอะไรอร่อยๆ กินกัน เดินเล่นซักแปบ ดูหนังซักเรื่อง แล้วก็ซื้อของกลับไปทำอาหารเย็นมื้อเล็กๆ กินที่บ้านค่ะ ทำงานมาทั้งสัปดาห์มันก็เหนื่อยอ่ะเนอะ
และวันนี้มื้อ brunch ที่เป็นการรวมเอาอาหารเช้าและอาหารกลางวันเข้าไว้ด้วยกันของฟ้ากับพี่สาม ขอไปนั่งชิลๆ ฝากท้องกับอาหารอร่อยๆ ที่ร้าน SEED ในย่านพร้อมพงศ์กันค่ะ
ร้าน SEED ที่ว่านี้ฟ้ากับพี่สาม เราสองคนยังไม่เคยมาลองเหมือนกันค่ะ ไม่รู้ว่ารสชาติและบรรยากาศจะออกมาหมู่หรือจ่าเลยในตอนแรก แต่พอได้ลองชิมอาหารแล้วบอกได้เลยว่า ไม่ผิดหวังค่ะ
ภายในร้านตกแต่งได้สวยดีค่ะ เป็นสไตล์โรงนาแบบฉบับตะวันตก เก๋ๆ ไฟสีเหลืองอ่อนๆ ให้ความรู้สึกที่ดูอบอุ่นดี เฟอร์นิเจอร์ไม้ในหลายรูปแบบ มีความเขียวจากต้นไม้มาแซมๆ เพิ่มลูกเล่นด้วยเชือกและฟางในทุกมุมของร้าน
ร้านค่อนข้างกว้าง ไม่ว่าจะวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ก็มานั่งกินอาหารได้ เหมาะกับทุกคนในครอบครัวค่ะ
สั่งอาหารไปแล้ว นั่งรอไม่นาน เครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้สดชื่นกันก่อน
Mango Magic (แก้วด้านซ้าย) มะม่วงสุก หอม ผสมกับโยเกิร์ต ออกมาแล้วได้รสสัมผัสที่นุ่ม หวานๆ ฉ่ำๆ ราคา 110 บาทค่ะ
Adam & Eve (แก้วด้านขวา) แอปเปิ้ลเขียวและแอปเปิ้ลแดง ที่ผสมกันอย่างลงตัว เติมน้ำส้ม มิ้นต์และน้ำมะนาวไปซักหน่อย ดูดไปคำแรกรู้สึกสดชื่นมาก ราคา 110 บาทค่ะ
จานหลักมื้อ brunch ของเรามาแล้นนนนน จานนี้มีชื่อว่า Popeye & Olive ผู้ใหญ่สมัยนี้หลายๆ คนต้องร้องอ๋อกับชื่อเมนูแน่ๆ เลย เพราะเป็นการ์ตูนยอดฮิตเมื่อหลายปีก่อน กะลาสีเรือป๊อบอายพอได้กินผักโขมแล้วกล้ามโต๊ โต มีพลังเพิ่มขึ้นเยอะมากกกก มีแฟนสาวร่างยาว ตัวสูงชื่อว่าโอลีฟ (บอกอายุมากๆๆ การ์ตูนเรื่องนี้ 555+)
เฟร้นโทสผักโขมจานนี้ รสชาติบอกเลยว่าอร่อยมากค่ะ ขนมปังอบชีสเยิ้มๆ มาแบบนุ่มสุดๆ ตัวซอสผักโขมมีความเค็มนิดๆ กินคู่กับตัวขนมปังและลูกมะกอกหั่นแว่นเข้ากันมากค่ะ
จานนี้เป็นเมนูใหม่ เพิ่งขายได้ไม่นาน Poached Barramundi ราคา 560 บาท เป็นปลากะพงขาว ราดมาด้วยซอสครีมที่มีความเข้มข้นมากๆ มาพร้อมกับข้าวโพดนิ่มๆ ครีมซอสรสจะออกเปรี้ยวนิดๆ เนื้อปลามีความนุ่ม ละมุน กินคู่กับหนังไก่แผ่นบางกรอบค่ะ
ส่วนจานนี้กินกันไม่เหลือซากเลย ชอบมาก อร่อยอ่ะ ชื่อว่า Slow-Cooked Lamb Ragout Fusilli ค่ะ ฟูลซิลลี่เนื้อแกะตุ๋นในซอสมะเขือเทศราชินีและน้ำมันพริก
คือมันลงตัวมาก รสชาติโอเคมากค่ะ เนื้อแกะก็นุ่ม เปื่อย กินง่ายมากๆ มะเขือเทศราชินีก็มีความเปรี้ยวอมหวานในตัว ทำให้จานนี้พิเศษมากๆ ราคา 380 บาทค่ะ
เห็นเหลืองๆ แบบนี้ เดาได้เลยว่าต้องมาแนวไข่ใช่มะคะ ใช่แล้วค่ะ! เพราะมันคือ Anytime Egg เมนูไข่ๆ สไตล์ร้าน SEED เค้าล่ะค่ะ
เป็นการผสมผสานของครีมถั่วลันเตา มันฝรั่ง เห็ด เบคอนรมควัน ซอสโฮลอนเดสมิโซะหวานมาด้านใต้ของไข่ เสิร์ฟคู่กับขนมปังซาวด์โดว์ปิ้ง เวลากินก็เอาขนมปังซาวด์โดว์ตักช้อนเอาไข่ขึ้นมา โอยยยยย…..อร่อยไปอี๊กกกกก เมนนูนี้ราคา 250 บาทค่ะ
แต่รูปนี้ขอใช้ช้อนตักไข่แบบเต็มๆ ลูกมาให้ดูก่อน ว่ามันน่ากินขนาดไหน ^^
สั่งของหวานไปด้วย มาเสิร์ฟใกล้ๆ กับของคาวเลย ถ่ายรูปเอาไว้ก่อนเดี๋ยวเผลอกินหมด อดถ่าย อิอิ
นี่คือ Jao’s Granola เป็นกราโนล่าสูตรพิเศษของเชฟจาว Head Chef ของที่นี่ค่ะ เสิร์ฟมาในโถกลมๆ กินคู่กับผลไม้รสเปรี้ยว อร่อยค่ะ ราคา 180 บาท
อาหารพร้อมแล้นนนน เลยขอภาพหมู่ซะหน่อย
นี่งายยยย โฉมหน้าเชฟจาวที่รังสรรค์เมนูอร่อยๆ ให้เราได้ชิมกันในวันนี้ ^^
ขอซะหน่อย อิอิ
ของหวานอย่างเดียวไม่เคยพอ ขอเพิ่มอีกซักอย่างนึงแล้วกัน พี่สามนางมองค้อนเลย 555+
Chocolate Cha Thai เค้ก Chocolate แบบไร้แป้งตรงฐานด้านล่าง มาพร้อมคุกกี้เมอแรงค์ซอสชาไทยเข้มข้นกับไอศครีมโปะด้านบน อร่อย หวานกำลังดีเลยค่ะ ของหวานจานนี้ราคา 250 บาทค่ะ
ภวพรวมร้านนี้ รวมถึงอาหารถือได้ว่า ดีต่อใจ มากค่ะ อาหารอร่อย บรรยากาศก็ดี ผ่อนคลาย มีความชิลๆ การบริการโอเคเลยค่ะ พนง. ดูแล ยิ้มแย้มแจ่มใสดี คนที่กินมังสวิรัตก็สามารถมากินทีร้าน SEED ได้นะคะ ในเล่มเมนูของทางร้านจะมีสัญลักษณ์และคำอธิบายชัดเจนว่าเมนูไหนสำหรับมังสวิรัตค่ะ
เวลาเปิด-ปิด :
- อังคาร – ศุกร์ ตั้งแต่ 11.00 น. – 24.00 น.
- เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่ 10.00 น. – 24.00 น.
พิกัด ร้าน SEED อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ค่ะ เข้ามาจากถนนสุขุมวิท ตรงมาเรื่อยๆ จนเจอซอยย่อยด้านซ้ายมือชื่อว่าซอยพร้อมจิต ก็เลี้ยวเข้าไปได้เลย ตรงไปอีกนิดจนถึงทางโค้งขวาร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ ใครที่เอารถมามีบริการที่จอดรถบริเวณร้านนิดหน่อย แต่ถ้าเต็มก็จะมีบริการ Valet Parking มีคนขับรถเอารถเราไปจอดให้ค่ะ สบายมาก
ร้านนี้เป็นอีกร้านที่ไม่อยากให้พลาดนะคะ อาหารอร่อยๆ มานั่งเม้ามอยชิลๆ กับบรรยากาศสบายๆ ได้ทุกมื้อเลยค่ะ 😀
Related Articles