ฟินแค่ไหนถามใจดู!! กับเมนู All You Can Eat ปูอร่อย หอยใหญ่ กุ้งไซส์บิ๊ก ที่ร้าน Crab and Claw @The EmQuartier
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปเดินเล่นชิลๆ ที่ห้างหรูใจกลางเมืองอย่าง EmQuartier เล่อะ!! มัวแต่เดินเล่นตลาดนัดทุกอย่าง 20 บาท แถวข้างบ้าน ฮ่าๆๆๆ แต่วันนี้ฟ้ากับพี่สามเราสองคนได้มีโอกาสไปฟิน ไปชิมอาหารทะเลอย่าง กุ้งล็อบสเตอร์ไซส์ใหญ่ หอยนางรมตัวใหญ่เป้งๆ แถมยังมีเมนูปูเข้าไปอีก ครบเลย…ครบสูตรตัวการทำปากบวมของฟ้าเลย 5555
แต่วันนี้เตรียมยาแก้แพ้มาพร้อมค่ะ ปากจะบวม ปากจะเจ่อยังไงเราก็ต้องชิมให้ครบทุกเมนูตรงหน้าให้มันตายกันไปข้างนึงค่ะ ฮ่าๆๆ แต่ตามประเพณีที่สืบทอดกันมาราวกับเปนทายาทอสูรเลยก็คือ จะพาไปชมบรรยากาศรอบๆ ทั่วๆ ร้านกันก่อนค่ะ
ร้าน Crab and Claw เนี่ย อยู่โซน Helix บริเวณ ชั้น 7 ของห้าง EmQuartier ค่ะ หน้าร้านจะตกแต่งด้วยตาข่ายจับปลา (แหม่…พูดซะ!! 555+) เน้นความเป็นท้องทะเลอะไรประมาณนั้นค่ะ
ภายในร้านก็ตกแต่งประดับประดาไปด้วย กุ้ง หอย ปู ปลา ที่ใช้เป็นเมนูหลักๆ ของ Crab and Claw ค่ะ
ให้ feel เหมือนเราเป็นชาวประมงกำลังจะออกเรือไปล่ากุ้งล็อบสเตอร์ที่โพ้นทะเล – -‘
ร้าน Crab and Claw เค้านิยามตัวเองว่าเป็นร้านอาหารทะเลสไตล์นิวอิงแลนด์ค่ะ แล้วสไตล์นิวอิงแลนด์เนี่ยมันคืออะไรล่ะ?? ถามจากทางร้านได้ความมาว่า มันก็คืออาหารซีฟู้ดสไตล์อเมริกัน ที่โด่งดังมีชื่อเสียงในแถบๆ นิวอิงแลนด์ ของสหรัฐอเมริกาโน่นล่ะค่ะ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากชาวอังกฤษที่อพยพมาตั้งรกรากกัน
ซึ่งที่นิวอิงแลนด์เนี่ย เป็นแหล่งรวมตัวของบรรดาอาหารทะเลที่อร่อย อุดมสมบูรณ์ติดอับดับโลกเลยค่ะ เพราะที่นี่มีกระแสน้ำเย็นที่ช่วยหล่อเลี้ยงและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของบรรดาเจ้าสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด ทำให้สัตว์เหล่านั้นมีรสชาติที่อร่อย อย่างเช่น กุ้งล็อบสเตอร์ที่เราจะได้ลิ้มรสกันวันนี้เป็นต้นค่ะ
เดินเข้ามาในร้านจะเจอเคาเตอร์หอยนางรมก่อนเลย ทุกเมนูที่เสิร์ฟลูกค้าจะต้องเป็นหอยสด ยังไม่ตายแล้วเอามาปรุงอาหารหรือกินสดๆ เสมอค่ะ ไม่มีแบบตายแล้วเอามาขายนะคะ ไม่มีค่ะ
โต๊ะที่นั่งของลูกค้าจะมีแผ่นรองจานที่บอกถึงวิธีแกะ & กินกุ้งล็อบเสตอร์ไว้ให้อ่านกันด้วยค่ะ ใครที่คิดว่าแกะยาก กินก็ยากแล้วล่ะก็พอได้แกะตามวิธีนี้ แกะง่าย กินง่ายเลยค่ะ
เครื่องดื่มมาก่อนเลยค่ะ แก้วนี้ของฟ้าเองเป็น mocktail ชื่อว่า in the beach ค่ะ รสชาติจะออกเปรี้ยวๆ ซ่าๆ ดื่มไปแล้วรู้สึก fresh ดีค่ะ อร่อยดีนะ เสิร์ฟมาในถังน้ำแข็งเกล็ด เย็นยะเยือกยาวๆ ไปค่ะ
ส่วนเครื่องดื่มของพี่สามเป็นไวน์ขาวค่ะ คุณเค้าดื่มไปหลายแก้วเลย หมดไปหลายขวดเลยมั้งคืนนั้น ฮ่าๆๆ
อ้อออ….ลืมบอกไปเลยว่าเมนูที่ฟ้ากับพี่สามมาชิมกันวันนี้เป็นธีม All You Can Eat Oyster โปรโมชั่นสำหรับ Oyster Lover กับธีม All You Can Eat Lobster โปรโมชั่น Lobster Olympics ค่ะ
เมนูที่ฟ้ากำลังจะบอกหลังจากนี้เป็นเมนู Complementary ซึ่งจะมีให้ฟรีอยู่แล้วเหมือนกัน ทั้ง 2 ธีมค่ะ
จานแรกที่มาเสิร์ฟก่อนเลย ชื่อว่า Fries หรือ มันฝรั่งทอด คล้ายๆ เฟร้นฟรายที่เรารู้จักกันนี่แหละ แต่มันจะมีรสสัมผัสที่หนึบๆ นุ่มๆ กว่ากัน แท่งใหญ่กว่าที่เราคุ้นเคยกัน อร่อยดีนะคะ แต่อันนี้กินไปแค่ 2-3 ชิ้นพอ เดี๋ยวแน่น กินอย่างอื่นไม่ได้ อิอิ
ขนมปังอบกระเทียมโฮมเมด สูตรจากซานฟรานซิสโกเชียวน๊าาาา มีความหอมๆ อร่อยค่ะ
ต่อกันที่เมนูน้ำๆ ข้นๆ กับ Clam Chowder หรือ ซุปครีมหอยโฮมเมดเสิร์ฟพร้อมขนมปัง ค่ะ มีความครีมมี่มากๆ กลมกล่อมค่ะ เมนูนี้ถ้าสั่งแบบ a la carte จะราคา 240 บาทค่ะ
ส่วน Green Salad หรือ สลัดผักสด ข้างๆ นั่นก็มาในธีมนี้เหมือนกันค่ะ น้ำสลัดอร่อย กินแก้เลี่ยนได้เลยค่ะ
ต่อกันด้วย Corn on the Cobb หรือ ข้าวโพดฝักย่าง ถ้าสั่งแบบ a la carte จะราคา 60 บาทค่ะ แทะกันมันส์เลย แหะๆ
แทะข้าวโพดฝักย่าง แล้วมาต่อด้วย Clam Melt หรือ หอยตลับอบในขนมปังโฮมเมดและชีส อร่อยมาก ชีสเยิ้มๆ ถูกใจเลยค่ะ
ส่วนเมนูต่างๆ หลังจากนี้เราสามารถเลือกสั่งได้เมื่อเราสั่งธีมหอยนางรม All You Can Eat Oyster ค่ะ ซึ่งเป็นเมนูเด่นๆ ที่ทางร้านแนะนำว่าอร่อยและควรต้องสั่งค่ะ อิอิ (ส่วนเรื่องราคา All You Can Eat กับรายละเอียดอื่นๆ ฟ้าจะบอกตอนท้าย สรุปทีเดียวเลยนะคะ)
เมื่อกี้อุ่นเครื่องด้วยอาหารเมนู Complementary เบาๆ (หรอออ???) ตอนต้นกันไปละ เริ่มหนักๆ ขึ้นมาอีกนิดดีกว่าค่ะ
Oyster Rockefeller หรือ หอยนางรมกับผักโขมอบชีส มากันแบบตัวใหญ่ ไซส์พี่บิ๊กค่ะ แต่ถ้าสั่งเป็นแบบ a la carte จะราคา 420 บาทค่ะ
ถือทีเต็มมือเล่อะ!!
หอยนางรมตัวใหญ่ มากับชีสยืดๆ ได้ใจ Cheese Lover แบบฟ้าฝุดๆๆ เลยค่ะ
Fries Oysters หรือ หอยนางรมทอดราดซอสสูตรเด็ด เมนูนี้หอยนางรมส่งตรงมาจากสหรัฐอเมริกา เอามาชุบแป้งสูตรพิเศษแล้วเอามาทอด โรยไข่ปลาบินมาด้านบนด้วยค่ะ
เมนูถ้าสั่งเป็นแบบ a la carte จะราคา 420 บาทค่ะ
ด้วยความที่หอยตัวใหญ่ ทำให้เวลากัดลงไปที่ตัวหอยนางรมแล้วเต็มปากเต็มคำดีมากกกกกกกกค่ะ
Fries Oyster Roll หรือ หอยนางรมทอดในขนมปัง เหมือนกับแซนวิชหอยนางรมทอดอ่ะค่ะ จะมีความกรอบนอก นุ่มใน อร่อยตั้งแต่ขนมปังยันหอยด้านในเลย
ธีมหอยนางรมทั้งที จะพลาดหอยนางรมสดได้ไงเนอะ หอยนางรมของที่นี่จะมีหลากหลายสัญชาติมากค่ะ ก็จะมี
- Smokey Bay Oyster สัญชาติออสเตรเลีย
- Fine De Claire สัญชาติฝรั่งเศส
- Irish Premium Oyster สัญชาติไอร์แลนด์
- Wolf Beach สัญชาติอเมริกา
- Kumamoto สัญชาติอเมริกา (จริงๆ แล้วคือหอยนางรมจากญี่ปุ่น แต่ไปเลี้ยงและโตที่อเมริกา ก็เลยได้สัญชาติอเมริกาไปโดยปริยาย)
ในธีม All You Can Eat Oyster โปรโมชั่นสำหรับ Oyster Lover นี้เนี่ย เราเลือกหอยจากสัญชาติไหนก็ได้ตามที่ฟ้าบอกเลยค่ะ หอยสดๆ แต่ละสัญชาติที่มาจากแต่ละที่ก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งขนาด รสสัมผัส รวมถึงรสชาติก็ต่างกันด้วยค่ะ ถ้ามาชิมก็เลือกมามันทุกแบบนี่ล่ะค่ะ กินให้รู้ความต่างกันไปเลย
ราดน้ำจิ้มซะหน่อย
หอยอะไร ตัวใหญ่เท่าหน้า เหอะๆๆๆ
ธีม All You Can Eat Oyster ผ่านไป มาดูเมนูธีม All You Can Eat Lobster โปรโมชั่นสำหรับ Lobster Olympics ที่นอกเหนือจาก เมนู complementary กันบ้างค่ะ (เมนู complementary จะมีให้ลูกค้าเหมือนกันทั้งธีม Oyster และ ธีม Lobster นะคะ)
เมนูเหล่านี้จะเป็นเมนูเด่นๆ ที่ทางร้านแนะนำว่าอร่อยและควรต้องสั่งนะคะ ก็อร่อยจริงอย่างเค้าว่าน่ะแหละ อิอิ
เริ่มกันเลยที่ Live Maine Lobster Served จะมีให้เลือก 3 แบบค่ะ
แบบที่ 1 : Steamed ล็อบสเตอร์นึ่ง จิ้มกับน้ำจิ้ม ทาด้วยเนยละลายนิดๆ เนื้อฟู นุ่ม สดค่ะ
เมนูนี้ถ้าสั่งแยกต่างหากแบบ a la carte ก็จะคิดตามน้ำหนักค่ะ
- ขนาด 700 – 800 กรัม ราคา 1,900 บาท
- ขนาด 1,000 – 1,300 กรัม ราคา 2,800 บาท
แบบที่ 2 : Grilled with Garlic Butter ล็อบสเตอร์ย่างเนยกระเทียม มีกลิ่นของการย่างมาหอมๆ เนยและกระเทียมเข้าเนื้อดีค่ะ
เมนูนี้ถ้าสั่งแยกต่างหากแบบ a la carte ก็จะคิดตามน้ำหนักค่ะ
- ขนาด 700 – 800 กรัม ราคา 1,900 บาท
- ขนาด 1,000 – 1,300 กรัม ราคา 2,800 บาท
แบบที่ 3 : Topped Old Bay Seasoning ล็อบสเตอร์คลุกเคล้าด้วยผงโอเบย์ ตัวผงโอเบย์ (Old Bay) เนี่ย เค้ามีรสชาติเฉพาะตัวและอร่อยดีค่ะ คนไทยอาจไม่คุ้นชินเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ฝรั่งเค้าเอามาใช้ปรุงอาหารหรือเป็นส่วนประกอบของอาหารที่เป็นเมนูอาหารทะเล ซีฟู้ด รสชาติของผงโอเบย์ (Old Bay) ที่ฟ้าได้ชิมมันจะเหมือนเครื่องเทศ สมุนไพรอะไรประมาณนั้นค่ะ เข้ากันมากๆ
Lobster Melt เนื้อล็อบสเตอร์อบในขนมปังโฮมเมดและชีส อบมาแล้วเข้ากันมาก ไม่อ้วนเอาเท่าไหร่คะเมนูนี้ แต่มันอร่อยจริงๆ เนื้อล็อบสเตอร์ที่ให้มาก็เยอะน่าดู ตักไปเจอแต่เนื้อล็อบสเตอร์ค่ะ
Spicy Lobster Linguine สปาเกตตี้เส้นลิงกวินิผัดกับเนื้อล็อบสเตอร์ อร่อย แซ่บบบบบ 555+
C & C Lobster Roll เนื้อล็อบสเตอร์ปรุงสูตรเฉพาะในขนมปัง เมนูนี้ต้นตำรับจากรัฐ Maine, USA ค่ะ เนยที่ผสมผสานอยู่ในขนมปัง กรอบนอก นุ่มใน โรยมาด้วยผิวเลม่อน เนื้อกุ้งล็อบสเตอร์มาแบบเน้นๆ มากๆ งานดีอ่ะ อร่อยมากด้วยค่ะ
ถ้าสั่งแยกเป็นเมนู a la carte จะราคา 950 บาทค่ะ
Lobster – ARA สปาเกตตี้เส้นเฟตตูชินี่ผัดกับซอสครีมปูและเนื้อล็อบสเตอร์ เส้นนุ่ม ล็อบสเตอร์ก็มาแบบเป็นชิ้นๆ ครีมรสชาติกลมกล่อมค่ะ
Fried Caramali หรือ ปลาหมึกทอดกรอบ ที่โรยมาด้วยผงโอเบย์ กรอบนอก ปลาหมึกด้านในก็ไม่เหนียว อร่อยค่ะ ถ้าสั่งเป็นแบบ a la carte จะราคา 180 บาทค่ะ
ถ่ายรูปเมนูต่างๆ จนล่วงเลยเวลามาละ หิวซะแล้วสิ
แต่ขออีกซักรูปสองรูปน่าาาา…..กุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ไม่ใช่เล่นเลยใช่มั้ยล่ะคะ
ก่อนจะกินก็ต้องใส่ผ้าอ้อม เอ้ยยย ผ้ากันเปื้อนกันก่อนนะคะ
ม่ะ…เรามาเริ่มแกะกัน ตามวิธีในแผ่นรองจานบอกเลยค่ะ งานนี้หนุ่มๆ หลบไป สาวๆ สตรองแบบเราขอดึงหัวกุ้งเองเลยค่ะ ฮ่าๆ
ด้วยความที่กุ้งมันสดมาก การดึงและแกะกุ้งล็อบสเตอร์มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ครั้งนี้ครั้งแรก ครั้งเดียวและเป็นครั้งสุดท้ายแน่นอนค่ะ 555+
ดึงไม่ได้ก็ทุบมันเข้าไปค่ะ ที่ Crab and Claw เค้ามีฆ้อนไม้เล็กๆ ไว้บริการด้วยค่ะ
แกะหัวแล้ว ก็มาแกะก้ามกันต่อค่ะ ยากเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ
แกะออกแล้วก็ใช้คีมบีบมันเข้าไปค่ะ
Crab Boil ปูอบสไตล์นิวอิงแลนด์ หอยกับข้าวโพด มันฝรั่งและก็ผงโอเบย์ค่ะ ถ้าสั่งแบบ a la carte เมนูนี้ราคา 1,200 บาท
ก้ามใหญ่ เนื้อเยอะ อร่อยค่ะ
โดยรวมแล้วอร่อยทุกอย่างค่ะ ทุกเมนูคัดมาเน้นๆ กุ้งเป็นกุ้ง หอยเป็นหอย ธีม 2 แบบที่ฟ้ารีวิวให้ได้ดูกันเป็น All You Can Eat ก็จริง แต่ไม่ได้ให้เดินไปตักเองเหมือนบุฟเฟ่ทั่วไปนะคะ ก็คือสั่งเมนูต่างๆ กับ พนง. เนี่ยแหละ รอให้เชฟปรุงอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะค่ะ
การบริการถือว่าโอเคเลยแหละ พนง. สื่อสารได้กับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ดีเลยค่ะ
รอราคากันอยู่ใช่แมะล่ะ อย่างที่ฟ้าบอกว่ามันมี 2 ธีม ทั้งกุ้งล็อบสเตอร์และหอยนางรม ราคาก็มีตามนี้เลยค่ะ
All You Can Eat Oyster โปรโมชั่นสำหรับ Oyster Lover : ทุกวันพุธ ของเดือนกรกฎาคม 2559
- ราคา 1,500++ บาท/ท่าน รับฟรี! ไวน์ 1 แก้ว
- ราคา 2,000++ บาท/ท่าน รับฟรี! ไวน์ไม่อั้น
All You Can Eat Lobster โปรโมชั่น Lobster Olympics : ทุกวันอังคารและวันศุกร์ ของเดือนกรกฎาคม 2559
- ราคา 2,800++ บาท/ท่าน รับฟรี! ไวน์ 1 แก้ว
- ราคา 3,300++ บาท/ท่าน รับฟรี! ไวน์ไม่อั้น
เงื่อนไขของ All You Can Eat ทั้ง 2 ธีมนี้ก็มีนิดหน่อยค่ะ (ถ้าใครกินไม่หมดแล้วล่ะก็…..มีปรับเด้ออออ)
- มีเวลาให้ทั้งหมด 100 นาที เริ่มนับเวลาตั้งแต่สั่งอาหารหรือเครื่องดื่มครั้งแรกค่ะ
- สำหรับกินที่ร้านเท่านั้นนะ
- ปรับ 1,000 บาท สำหรับอาหารทานเหลือ
- เมนูล็อปสเตอร์เค้าจะใช้เวลาปรุงประมาณ 10-15 นาที หลังจากออเดอร์ที่สั่งไป รอนิดนึงเนอะ
- สั่งล็อปสเตอร์ได้ 2 ตัว/ท่านสำหรับออเดอร์ครั้งแรกและ 1 ตัว/ท่านสำหรับออเดอร์ถัดไป
- เด็กสูงไม่ถึง 100 ซม. กินฟรีจ้า แต่ถ้าสูง 100 – 130 ซม. จ่ายครึ่งราคาค่ะ
Crab and Claw มี 2 สาขานะคะ ใครอยากไปชิมโทรจองก่อนได้เลย ตามนี้ค่ะ
สาขา The EmQuartier : 02-003-6233
สาขา Siam Paragon : 02-610-9713
พิกัด ร้าน Crab and Claw สาขาที่ฟ้าไปชิมอยู่ที่ The EmQuartier โซนฝั่ง Helix ชั้น 7 ค่ะ
ใครที่ชอบกินอาหารทะเลสดๆ แนะนำที่นี่เลย ปูอร่อย หอยใหญ่ กุ้งล็อบสเตอร์ไซส์บิ๊ก รับรองว่าพอได้ลิ้มลองแล้วฟินแน่นอนค่ะ 😀
Related Articles