จิบกาแฟยามเช้า ขับฟอร์มูล่าวันม้ง อากาศเย็นสบาย ณ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ สดชื่น … มาก บอกเลย
ช่วงปลายปีแบบนี้ แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมคงจะหนีไม่พ้นภูเขาอย่างแน่นอน วันนี้ผมกับฟ้าก็ขอพาไปเที่ยวภูเขาเหมือนกันครับ แต่เป็นภูเขาที่ไม่สูงมากภาษาเหนือเค้าเรียกกันว่า “ม่อน” ซึ่งถ้าใครไปเชียงใหม่ช่วงนี้ต้องห้ามพลาด หลายคนวางแผนจะไปกันช่วงปีใหม่นี้ (เดาว่ารถติดหนักแน่นอน) นั่นก็คือ “ม่อนแจ่ม” อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ครับ
ม่อนแจ่มเป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย อยู่ที่ ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 36 กม. การเดินทางไปไม่ยากครับ แนะนำให้ใช้ Google Map เลยครับ ค้นหาคำว่า “ม่อนแจ่ม” เจอแน่นอน ไม่หลง ขับตามไปได้เลย ซึ่งระหว่างทางก็จะมีป้ายตลอดทางครับ
ใครกำลังจะไปเที่ยวม่อนแจ่ม ผมแนะนำว่าให้ไปแต่เช้าตรู เช็คเวลาพระอาทิตย์ขึ้นแล้วย้อนเวลาเดินทางไปอีกประมาณ 30 นาที กะว่าไปถึงที่ม่อนแจ่มพระอาทิตย์ขึ้นพอดี จะสวยมาก เย็นสบาย และคนไม่เยอะครับ (เช็คเวลาพระอาทิตย์ขึ้นได้ที่นี่ http://thaiastro.nectec.or.th/skyevnt/sunmoon/2015/chiangmai.html#12 เลยครับ)
เส้นทางช่วงแรกจะเป็นทางทั่วไปครับ ตั้งแต่ทางเข้าตรงนี้เป็นต้นไปทางจะโค้งคดเคี้ยวพอสมควรเลยครับ
ภาพทางเข้าด้านบนผมถ่ายตอนขากลับนะครับ บ่ายแก่ๆ แดดแรงดูร้อนไปนิดนึง ^^
วันที่ผมไปเที่ยวผมออกเดินทางประมาณ 6 โมงเช้าครับ
ช่วงหน้าหนาวพระอาทิตย์ขึ้นช้า
ขับรถชิว ชิว ถึงม่อนแจ่มเกือบ 7 โมงเช้า แดดยังไม่ออกเท่าไหร่
ส่วนของเส้นทางจะเล็กลงเรื่อยๆ คดเคี้ยว และชัน
แต่เต้าหู้ (Mazda 2) ลุยได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องห่วง
ระหว่างทางอากาศเย็นสบายมาก 10 กว่าองศา เปิดกระจกรถรับอากาศบริสุทธิ์ได้เลย ชอบมาก
ช่วงทางขึ้นม่อนแจ่มจะเป็นทาง One way ครับ
แนะนำว่าให้เลี้ยวซ้ายเข้าที่จอดรถจะสะดวกกว่า ด้านบนพอจะมีที่จอดแต่น้อยมาก
ค่าที่จอดรถ 30 บาท
มาสายที่จอดรถเต็มนะครับ วันที่ผมไปวันธรรมดายังแน่นๆ หยุดยาว ปีใหม่ไม่อยากจะคิดเลย T_T
ระหว่างทางมาม่อนแจ่ม จะมีแหล่งท่องเที่ยวดักตลอดทาง
ไม่ว่าจะเป็นไร่สตอเบอรี่ ฟาร์มงู การแสดงลิง ปางช้าง และอื่นๆ จิตใจอย่าเพิ่งวอกแวกนะครับ
ตรงมาที่ม่อนแจ่มกันก่อน
บริเวณทางขึ้นก็จะมีผักผลไม้เมืองหนาวเพียงให้เลือกซื้อกันได้
มันเผาอุ่นแก้หนาวก็ไม่เลวน้า ^^
ใครที่ขาแข้งไม่ดีแนะนำให้นั่งพี่วิน ราคา 20 บาท
แต่ออกกำลังกายยามเช้าหน่อยก็ดีนะ
สรุปไม่ได้นั่งพี่วิน ค่อยๆ เดินขึ้นไปกินดีกว่า เดินไปชมวิวไป
วันนี้ตื่นแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย แวะซื้อไก่ทอดไปกินด้านบนนิดนึง
ซื้อเสร็จก็เดินทางกันต่อย อีกไม่ไกลก็ถึงม่อนแจ่มแล้น
ระหว่างทางก็จะมีผัก ผลไม้ สตอเบอรี่ เสื้อผ้าชาวเขาตลอดทาง แวะซื้อกินได้
ถึงแล้นม่อนแจ่ม
ส่วนแรกนี้ก็เป็นลานจอดรถทางด้านบนครับ
ค่อนข้างจะวุ่นวายหน่อย รถจอดกันแน่น
เดินเข้าไปอีกนิดเป็นที่สำหรับกินอาหาร
วิวดีมาก …
ไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปด้านใน ดีเหมือนกันนะครับ เดี๋ยวจะสกปรก
ไก่ที่ซื้อมาก็ต้องกินตรงนี้แล้วซินะ
จับจองพื้นที่กันก่อนได้ครับ
แล้วขึ้นไปสั่งอาหารทางด้านบน ซักพักจะมีพนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟ
อาหารทางด้านบนก็จะเป็นอาหารตามสั่งครับ
เช้าแบบนี้ก็ต้องข้าวต้มซินะ
แต่ขอบอกว่า อาหารที่นี่ ราคาแรงใช้ได้
สั่งเสร็จก็มานั่งรอกันตรงนี้
ด้านล่างไม่มีที่ว่างแล้วโดนจับจองหมด แต่ก็สวยไม่แพ้ด้านล่างเท่าไหร่
ข้าวต้มชามนี้ ราคา 70 บาท
กินข้าวต้มร้อนๆ อบอุ่นร่างกายกันหน่อย
ข้าวต้ม + ข้าวเหนียวไก่ย่าง ร้อนๆ กับอุณหภูมิ 16 องศา เยี่ยมไปเลย ^^
กินอาหารเสร็จก็ล้างมือเข้าห้องน้ำ ขึ้นมาจิบกาแฟร้อนบน ม่อนแจ่ม กัน
น้องชาวเขาน่ารักเต็มไปหมด นั่งอาบแดด พร้อมให้ถ่ายรูป
จุดบนสุดตรงกลางม่อนแจ่มจะเป็นร้านกาแฟครับ
สั่งกาแฟกันก่อน คาปูชิโน่ร้อนกับโกโก้เย็น อย่างละ 1 แก้วคร้าบ
ได้กาแฟแล้วก็แอบหามุมสงบ คลายเครียดจากการทำงานมาทั้งปีซักหน่อย
แอบเสียดายไม่ได้มาค้างคืนบนม่อนแจ่ม
ฟ้าก็ขอชิวบ้างกินโกโก้ไป ชมวิวไป อากาศดีสุดๆ
ด้านหน้าที่เราเห็นคือจุดกางเต้นครับ
มีรีสอร์ทอยู่บ้างนิดหน่อย
มุมนี้มีดอกทานตะวันอยู่นิดนึง สีเหลืองสดใส
น้องชาวเขาเป็นนางแบบไปโดยปริยาย มีแต่คนขอถ่ายรูป
ถ่ายเสร็จก็ให้ทุนการศึกษานิดหน่อย
ฟ้าบอกขอซักรูป น้องแอ็คติ้งเต็มที่ แต่ … หน้าไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ ห้า ห้า ห้า
ขอเก็บภาพมุมนี้ซักรูป
ฟ้าขอมุมดอกไม้
นั่งเฝ้ารอถ่ายภาพผึ้งในดอกไม้อยู่พักใหญ่
ได้ภาพ 4 ที่ถูกใจ ภาพจากหลายๆ คุ้มค่ากับการรอคอย ไล่ตามผึ้ง
ม่อนแจ่มนะวันที่ 11 ธันวาคม 2558 ถือว่าอากาศดีใช้ได้เลยครับ
ส่วนของดอกไม้ยังไม่เต็มเท่าไหร่
เดินลงมาหน่อยมีรถของโครงการหลวงที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นแปลงปลูกต้นไม้
คนถ่ายรูปกันเพียบเหมือนกัน รอคิวนิดนึง
กลับมาเก็บภาพรวมด้านบนกันอีกนิดนึง
ส่วนของม่อนแจ่มจริงๆ แล้วไม่กว้างเลยครับ ถ้าช่วงเทศกาลคนเยอะ แน่นๆ แน่นอน
มีน้องชาวเขาคนใหม่มีขอถ่ายบ้าง ^^
อีกฝั่งนึงของม่อนแจ่มเป็นไร่สตอเบอรี่ เข้าไปถ่ายรูปได้ วิวดี ไม่แพ้อีกฝั่งนึงเลย
เสียดายที่สตอเบอรี่ยังไม่สุก ยังขาวๆ
ถ่ายรูปไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
น้องชาวเขามีทุกที่ ถ้าท่านต้องการ ห้า ห้า ห้า
อีกมุมนึง สำหรับการนั่งปล่อยอารมณ์
สายมาเริ่มร้อน
เก็บภาพสตอเบอรี่กันนิดนึง
สายมาแดดแรงเริ่มร้อน ก็ได้เวลาลงจากม่อนแจ่มไปเที่ยวที่อื่นต่อกันละ
ตรงทางขึ้นม่อนแจ่มจะมีฟอร์มูล่าวันม้ง
ได้รับความสนใจพอสมควรจากนักท่องเที่ยว บอกตามตรงว่า ไม่คิดจะลองเลยครับ
เผลอแป๊บเดียว ฟ้าไปซื้อตั๋วซะละ T_T
คันคู่นั่ง 2 คน ราคา 80 บาท คันนั่งเดี่ยว นั่ง 1 คน ราคา 50 บาท
คันนี้คือแบบนั่งคนเดียวครับ
ส่วนภาพนี้ก็แบบนั่งคู่จะมีที่นั่งเพิ่มด้านหลัง
การเล่นจะต้องนั่งรถขึ้นไปทางด้านบนประมาณ 400 – 500 เมตรน่าจะได้ครับ
คนที่จะเล่นก็นั่งรถกระบะขึ้นไปได้เลย
หลังรถกระบะก็จะพ่วงรถที่เราจะเล่นขึ้นไปด้วย
พ่วงกันแบบไม่กลัวพัง ทางชัน และขรุขระ ใช้ได้ แอบน่ากลัว
พอขึ้นไปถึงก็เลือกรถได้ตามต้องการเลยครับ
การเล่นไม่ยากครับ คนขับนั่งหน้า คนซ้อนนั่งหลัง
การบังคับซ้ายขวาใช้เท้าทั้ง 2 ข้างดันเอาครับ ฝืนความรู้สึกนิดหน่อย
ส่วนตรงกลางเหมือนจอยสติ๊กคือเบรคครับ
มีบางครั้งเผลอโยกซ้ายขวา 555+
ทุกคนพร้อม เข้าที่ ระวัง !!!!
… ไป …
ความน่ากลัวของการเล่นฟอร์มูล่าวันม้ง ก็คือ …
ความไม่ถนัดในการใช้เท้าบังคับ
อุปกรณ์ Safety เช่น ชุดที่รัดกุม หมวกกันน็อค ถุงมือ และอื่นๆ ไม่มี T_T
ไม่มีการให้ลองก่อนด้วย 555+
แนะนำว่าให้ค่อยๆ ไปครับ ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวพุ่งลงข้างทาง
เคยเห็นคนคว่ำมาบ้างเหมือนกัน
หลังจากตื่นเต้นจากการขับฟอร์มูล่าวันม้งเรียบร้อย
ก็ได้เวลาไปเที่ยวที่อื่นบริเวณนี้ กันต่อ …
ตอนกลับลงมารถเริ่มติดครับ ดีที่เป็นทางแบบ One way ขึ้นกับลงคนละทาง
ที่จอดรถเริ่มแน่น มีการจอดซ้อนคันใครมาสายไม่มีที่จอดรถแน่นอน
ทางลงจะเป็นอีกทางชันพอสมควรเลย
ทางกลับจะอ้อมไปทางที่ตั้งเต้นครับ
วิวสวยๆ ตลอดทาง อากาศเย็นสบายไม่ต้องเปิดแอร์
บางช่วงทางชันหน่อย แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเต้าหู้อึดใช้ได้ ^^
ส่วนนี้เป็นที่ตั้งเต้นครับ เสียดายไม่ได้วางแผนว่าจะมาค้างที่นี่ ดึกๆ น่าจะส่องช้าง (ทางช้างเผือก) ได้สบายๆ เลย
จุดนี้เป็นอีกที่ ที่คนชอบมาถ่ายรูปกันครับ ไร่ทานตะวัน
อยู่ใกล้ๆ ม่อนตะวัน
ภาพมุมนี้แปลกดี ใครแวะไปลองไปถ่ายรูปกันดูครับ
มันเป็นเลนส์นูนครับ เลยอ้วนไปนิด ตัวจริงไม่อ้วนนะครับ 555+
ส่วนนี้ก็เป็น ม่อนอิงดาว ไปเช่าเต้นค้างคืนกันได้
ส่วนของการชมวิวม่อนแจ่มก็น่าจะมีประมาณนี้ครับ แต่ระหว่างทางยังมีที่ท่องเที่ยวให้เราแวะเที่ยวกันได้ครับ เช่น ไร่องุ่น ไร่สตอเบอรี่ ปางช้าง สวนพฤกษศาสตร์ ฟาร์มงู ศูนย์ฝึกลิง และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ผมกับฟ้าแวะก่อนกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ก็จะมี …
- สวนอีเดน (ไร่องุ่น)
- สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (เดินเล่นบน Flying Draco Trail Canopy Walk เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้)
- ปางช้างแม่สา (ดูการแสดงช้าง ดูช้างอาบน้ำ)
- ไร่สตอเบอรี่ใหญ่ที่สุด (เค้าว่างั้น) ไม่มีชื่อ (กินไอติมเนื้อสตรอเบอรี่ 100%)
แค่นี้ก็ทั้งวันแล้วครับ กลับเข้าเมืองไปก็หาข้าวเย็นกินกันได้เลย เอาไว้จะค่อยๆ ทะยอยมารีวิวเพิ่มเติมให้ชมกันนะครับ
สำหรับรีวิวทริปท่องเที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน ชิมอาหารอร่อย ของเรา Hello2Day เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นครับ ติดตามรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ในจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่นี่ เร็วๆ นี้ครับ ^^
Related Articles