ลองซักครั้ง !!! FlowRider โต้คลื่นกลางกรุงเทพฯ ไม่ต้องไปถึงต่างประเทศ FLOW HOUSE BANGKOK จัดให้
สวัสดีคร้าบบบ วันนี้มีอะไรสนุกๆ มาแนะนำกันอีกแล้วครับ หลังจากที่ครั้งก่อนไปบิน SKYFLY ที่หัวหิน ยังสนุกไม่หาย ^^ ครั้งนี้ลงน้ำให้ชุ่มฉ่ำ ท่ามกลางอากาศร้อนของกรุงเทพฯ เล่น FlowRider กีฬาเอ็กซ์ตรีม ที่แสนจะท้าทาย คลายร้อน รูปแบบใหม่ กันซักหน่อยครับ
การเล่น FlowRider ของผม ไม่จำเป็นต้องไปถึงทะเลก็สัมผัสเสียงน้ำ (ดังมาก) และคลื่นน้ำความเร็ว 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ที่ผมไปเล่น FlowRider ก็คือ FLOW HOUSE BANGKOK นั่นเองครับ
ขั้นตอนและวิธีการเล่นเป็นยังไง ไปดูกันเลยดีกว่านะครับ (ไม่ยากเลยครับ 1 ชั่วโมงก็ยืนได้ละ)
ก่อนจะมาเล่นแนะนำให้โทรมาจองคิวกันก่อนครับ
พอมาถึงก็มาจ่ายค่าบริการกันก่อน (ส่วนของค่าบริการเดี๋ยวบอกตอนท้ายนะครับ)
ทำการลงทะเบียนยอมรับเงื่อนไขการเล่นนิดหน่อย
หลังจากลงทะเบียนเสร็จก็จะได้บัตรคิวสำหรับลงเล่น เตรียมไว้ไปยื่นถ้าถึงรอบของเราครับผม ^^
การแต่งกายในการเล่น
ผมใส่กางเกงว่ายน้ำไว้ข้างในครับ ส่วนด้านนอกก็เสื้อยืด กางเกงขาสั้น
แนะนำว่าต้องกระชับ และไม่อุ้มน้ำจะดีมากครับ
กางเกงขาสั้นต้องมีสายมัดที่มัดได้แน่นมากๆ เดี๋ยวเล่นไปจะโป๊เอา #น้ำแรงมาก
ใครที่ไม่มีชุดมาซื้อที่นี่ได้ครับ ด้านล่างมีร้าน RIP CURL อยู่ครับ
หลังจากชุดพร้อมแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้ารอกันได้เลย
ระหว่างที่รอ … ก็ชมบรรยายกาศไปพลางๆ ก่อนเนอะ
ดูโปรเค้าเล่นกัน
ส่วนตัวคิดว่าถ้าเล่นแบบเหมาจ่ายเต็มวัน
เล่นเป็นแน่นอนครับ
ในที่สุดก็ถึงรอบที่ผมจองไว้แล้น … ตื่นเต้น
ก่อนอื่นต้องทำตัวให้เปียกกันก่อน
จะฝักบัวด้านข้างให้ล้างตัวครับ ใครเขิลก็ล้างมาจากในห้องน้ำได้ครับ
1 ช่วงเวลาจะมีคนเล่นรอบเดียวกันอยู่ประมาณ 4-5 คน
สลับกันเล่นครับ
ใครล้มโดนน้ำพัดไปก็สลับให้คนต่อไปเล่นบ้าง
วนกันไปเรื่อยๆ ครับ
สำหรับใครที่เล่นครั้งแรกต้องมีการเทรนก่อนนิดนึง
บอร์ดที่ใช้แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ …
Body Board สำหรับผู้เริ่มต้น เป็นบอร์ดแบบนอนเล่น ง่ายต่อการทรงตัว และมีอันตรายน้อยครับ
ผมก็เริ่มจาก Body Board เช่นกันครับ
การจับ ให้จับบอร์ดตรงกลาง มือที่จับค่อนมาทางด้านบน ถ้าจับลึกไปจะโดนคลื่นน้ำได้
ชันศอกไว้บนบอร์ด อยากเลี้ยวซ้ายก็เอียงบอร์ดไปทางซ้าย
เลี้ยวขวาก็เอียงบอร์ดไปทางขวาครับ
พร้อมแล้วก็ลุยกันเลยครับ
ช่วงแรกที่เล่น เลี้ยวไม่ได้จ้า คอนโทรลซ้ายขวา ลำบากมากยังไม่คุ้นเคย
พอเราเริ่มคุ้นเคยกับคลื่น รู้จังหวะและแรงเหวี่ยง ก็มีการเพิ่มเติมท่ากันหน่อย
เปลี่ยนจากท่านอน มาท่าคุกเข่าคู่ (double knee) และจบที่ท่าชันเข่าหนึ่งข้าง (drop knee) ครับผม
ผมนั่งอยู่ได้แค่แป๊บๆ ก็โดนน้ำพัดครับ 555+
เดี๋ยวดูคลิปด้านล่างได้ครับ ^^
ถ้าถามว่าตอนที่ล้มแล้วโดนน้ำพัดเจ็บมั๊ย
ผมว่า Flowrider ค่อนข้างปลอดภัยครับ
ส่วนของพื้นของตัว Flowrider เป็นวัสดุที่รองรับแรงกระแทกอย่างดี
คล้ายแทรมโพลีน (trampoline) ที่เด้งได้
เวลาที่ล้มไม่รู้สึกเจ็บครับ
แต่อาจจะมีน้ำเข้าปาก เข้าหู บ้าง 555+
รอบแรกครูฝึกจะเป็นคนส่งเราเข้าไปโต้คลื่นครับ
รอบหลังๆ ก็จะให้เราของเข้าไปโต้คลื่นเอง ตื่นเต้นดี เสียงน้ำดัง น้ำพัดแรงมาก
ระหว่างพักเหนื่อยดูโปรเค้าเล่นกันหน่อย
เล่น Flowboard ได้เจ๋งมาก ถ้าเล่นโปรแล้วจะสามารถเพิ่มเทคนิค
ท่าทางต่างๆ กระโดดลอยตัว เตะบอร์ดกลางอากาศ
เหมือนเล่นสเกตบอร์ด เลยครับ ^^
หลังจากที่เล่น Body Board พอได้
มาลองเล่น Flowboard ซึ่งจะเป็นบอร์ดแบบยืนกันบ้างดีกว่า
ความยากของ Flowboard ก็คือการทรงตัวบนบอร์ดครับ
เมื่อสามารถรักษาบาลานซ์บนบอร์ดได้แล้ว
ก็จะเป็นการเรียนรู้เทคนิคท่าทางต่างๆ เพิ่มความท้าทายและตื่นเต้น
ซึ่ง 1 ชั่วโมงของผม ยืนได้ก็ดีแล้วเนอะ ^^
ช่วงการเริ่มต้นจะมีเชือกจูงก่อนนิดนึง
เริ่มทรงตัวได้ก็ปล่อยมือ คอนโทรลซ้ายขวาด้วยตัวเองดูบ้าง
แต่ทำไมมันหมุนแบบนี้หละเนี๊ย
สุดท้าย … ล้มไม่เป็นท่า ห้า ห้า ห้า สนุกดีชอบมากกกก
ก่อนจะจบรีวิวนี้ มาดูคลิปวิดีโอที่ผมเล่น FlowRider ที่ FLOW HOUSE BANGKOK กันหน่อยนะครับ
ในที่สุดก็ถึงตอนท้ายของรีวิวการเล่น FlowRider ของผมแล้วครับ น่าสนุกใช่รึปล่าวล้า (ผมยังอยากไปเล่นอีกเลย ^^)
ใครที่สนใจอยากจะไปลองเล่น FlowRider ที่ FLOW HOUSE BANGKOK ไปกันได้เลยครับ ที่โครงการ A-Square Community Mall ซอยสุขุมวิท 26 เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 10.00 – 24.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เปิด 08.00 – 24.00 น.
ส่วนราคาค่าโต้คลื่น FlowRider 750 บาทต่อชั่วโมง ราคานี้รวมอุปกรณ์ทุกชนิดและครูฝึกสอนครับ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองคิวเล่น FlowRider ได้ที่ …
โทร 02-108-5210 เว็บไซต์ www.flowhousebangkok.com Facebook: Flow House Bangkok
ที่ FLOW HOUSE BANGKOK นอกจากจะมี FlowRider ให้เล่นแล้ว ยังมีร้านอาหาร สระว่ายน้ำ บาร์ ห้องส่วนตัว จัดปาร์ตี้กันได้เลย ชิล ชิล สบายๆ ครับ เล่น FlowRider เสร็จชักเริ่มหิว เดี๋ยวรีวิวต่อไปผมจะพาไปกินอาหารที่ห้องอาหารของ FLOW HOUSE BANGKOK กันนะครับ
Related Articles