ทัวร์แอฟริกาใต้ : เที่ยวเคปทาวน์ ชมเกาะแมวน้ำ ดูนกเพนกวิน กินกุ้งมังกร
ห่างเหินไปซักพักใหญ่สำหรับการรีวิวในหมวดหมู่ Journey นะครับ มัวแต่เพลินกับการกินครับ ห้าๆๆ ^^
วันนี้กลับมาแล้วคร้าบบบ … สำหรับรีวิวนี้ เป็นวันหนึ่งของทัวร์แอฟริกาใต้ครับ ผมขอพาไปเที่ยวเคปทาวน์ ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งของประเทศแอฟริกาใต้ครับ เมื่อเราพูดถึงประเทศแอฟริกาใต้ หลายคนรวมถึงผม คงจะนึกถึงชนเผ่า คนดำ การเดินป่า ส่องสัตว์ แต่จริงๆ แล้วแอฟริกาใต้ยังมีเมืองที่สวยๆ น่าเที่ยวอีกหลายเมืองเลยครับ
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
หลังจากที่ทำการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ที่โรงแรม SOUTHERN SUN NEWLANDS HOTEL ในคืนที่ผ่าน ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำกินอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วก็ออกไปเที่ยวกันต่อครับ สำหรับเช้านี้เราจะไปดูเกาะแมวน้ำกันครับ โดยเราต้องเดินทางไปยังขึ้นเรือ ท่าฮูทเบย์ (Hout Ba) ครับ
เมื่อไปถึงแหม สวยมากๆ ครับ บรรยายกาศไม่คิดว่าอยู่ที่แอฟริกาใต้เลยครับ นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะครับ
ที่นี่จะเป็นท่าเรือที่จะนำเราไปยังเกาะแมวน้ำครับ ใช้เวลาไม่มากในการเดินทางครับ
หันซ้าย หันขวา ขอบบอกว่าวิวดีมากๆ ครับ เรือยอร์ชจอดเต็มไปหมด
หลังจากที่ได้ขึ้นไปบนเรือแล้ว เรือเริ่มออกจากท่า นักท่องเที่ยวก็เริ่มตื่นเต้น ชี้ให้เพื่อนที่มาด้วยกันดูอะไรซักอย่าง …
อ้อ … เจอเป้าหมายแล้วครับ
เจ้าแมวน้ำนั่นเอง ยังไม่ทันไรเราก็เริ่มเห็นกันแล้วนะครับ ไกด์บอกว่าบนเกาะนั้นเยอะกว่านี้เยอะมากครับ
ลองมาซูมดูใกล้ๆ ชัดๆ กันหน่อยครับ ขึ้นมาอาบแดดน่ารักเชียว ^^
ลองมองย้อนกลับไปที่ท่าเรือ เห็นแมวน้ำขึ้นมานอนอาบแดดเต็มไปหมดครับ
ดีนะครับ ไม่มีใครไปทำอะไรมัน น่ารักดีครับ
ระหว่างเดินทางไปยังเกาะแมวน้ำ คลื่นที่นี่แรงมากครับ ใครเมาคลื่นแนะนำให้กินยาแก้เมาไปก่อนเลยครับ
แถมลมก็แรงมากๆ ด้วยครับ ฝนก็ปรอยๆ เช้านี้ สุดท้ายก็เลยให้แม่ลงไปนั่งด้านล่างครับ ด้านล่างของเรือเป็นจะนั่งสบายกว่า
ระหว่างทางก็จะมีเรือท่องเที่ยว ที่ไปชมมาแล้ว สวนกลับมา ลองดูคลื่นครับ ขอบอกว่าคลื่นแรงจริงๆ
ไม่ได้สอบถามมานะครับ ว่าเป็นปกติรึปล่าวที่คลื่นแรงแบบนี้ หรือว่าเป็นช่วงมรสุม
นั่งเรือมาซักพัก เรือก็เริ่มชะลอตัวลงพร้อมประกาศให้นักท่องเที่ยวหันซ้ายยยย ….
ว้าวววววว
ถึงแว้ววว เกาะแมวน้ำ ตั้งแต่ไปเที่ยวมายังไม่เคยเห็นแมวน้ำ ธรรมชาติเยอะขนาดนี้มาก่อนครับ
มาถึงเกาะแมวน้ำ ที่มีแมวน้ำเยอะขนาดนี้ จัดภาพให้ดูกันหลายๆ ภาพเลยละกันนะครับ
แมวน้ำมีทั้งบนเกาะ ที่กลังอาบแดดอย่างสบายใจ และอยู่ในน้ำว่ายน้ำไปมา
เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ ว่าคลื่นแรงมากๆ คลื่นซัดไปที่โขดหินตลอดเวลา และแรงมากๆ ครับ จะมีแมวน้ำถูกคลื่นซัดชนหินบ้างมั๊ย น้า ?
ดูใกล้ๆ หน่อย โอ้วววว … เยอะจริงๆ ครับ ดีนะครับ ไม่มีใครไปทำอะไรมัน
หลังจากที่เรือจอดให้เราชมเกาะแมวน้ำซักพัก เรือก็เดินทางกลับมายังท่าเดิมครับ
เริ่มสายแล้ว คนเริ่มเยอะขึ้นครับ
มีนักดนตรีเปิดหมวกมาร้องเพลง ต้อนรับตอนลงเรือซะด้วยครับ
นักท่องเที่ยวสนใจกันมากครับ เข้าไปถ่ายรูปด้วย คงได้ไปหลายตัง ห้าๆๆ
ก่อนที่จะไปเที่ยวที่อื่นต่อ ขอแวะดูของที่ระลึกก่อนนะครับ
สำหรับการเที่ยวแอฟริกาใต้ของผมครั้งนี้ ผมไปแบบ Private Tour ครับ (เฉพาะครอบครัวผมเท่านั้นครับ)
เลยได้ออกนอกเส้นทางได้ตามต้องการครับ
คนขับรถแนะนำว่า จะพาเดินทางไปอีกทางนึง ซึ่งวิวสวยมากๆ ครับ ปกติแล้ว ทัวร์ทั่วไปจะไม่ไปทางนี้ครับ
ที่สำคัญคือ ถ้าจะผ่านทางนี้ มีเสียตังด้วยนะครับ ค่าใช้จ่ายตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ (รถที่ผมใช้เดินทางทริปนี้เป็นรถตู้ครับ)
ขับรถมาซักพัก คนขับรถก็จอดให้ถ่ายรูปครับ วิวมุมนี้สวยมากๆ ครับ เสียดาย แดดไม่มีภาพเลยหมองๆ ไปหน่อยครับ T_T
เส้นทางนี้จะลัดเลาะภูเขาไปเรื่อยๆ ครับ อีกด้านหนึ่งก็เป็นทะเล สวยดีครับ
บางช่วงถนนถูกเจาะเป็นอุโมง แต่เปิดด้านข้างให้เห็นวิวทะเล
ปลายสุดของถนนสายนี้ เป็นวิวชายหาด สวยมากครับ อยากลงไปถ่ายรูป แต่ไม่มีที่ลงครับ ^^
เดินทางมาซักพัก เราก็มาถึงเมืองไซมอน (Simon’s Town)
เมืองนี้จะมีบ้านอยู่ตามเนินเขา หันหน้าออกทะเล เห็นแล้วอยากจะได้ซักหลังนะครับ ส่วนใหญ่เป็นบ้านของคนรวยที่นี่ครับ
และแล้วก็ถึง … Boulders Visitor Centre เพื่อมาดูเจ้าถิ่นของชายหาดโบลเดอร์ BOULDER BEACH กันครับ
ก่อนอื่นต้องซื้อตั๋วกันก่อนครับ สำหรับผู้ใหญ่ 40 แรนด์ ประมาณ 100 กว่าบาท
ยังครับ !!! ไม่ใช่เจ้าตัวนี้ครับ ที่เป็นเจ้าถิ่นของชายหาดโบลเดอร์ BOULDER BEACH แต่เห็นว่าสีสวยดีครับ เลยถ่ายภาพมาให้ดูกันครับ
สอดส่องไปตามโพรงหญ้า เริ่มแอบเห็นกันแล้วครับ
น่าละครับ เจ้าถิ่นของที่นี่ นกเพนกวินแอฟริกา
ตัวผู้จะมีสีสรรโดดเด่นกว่าตัวเมีย โดยจะทาอายแชโดว์สีชมพูบริเวณขอบตา (เป็นสาวประเภทสองรึปล่าวเนี๊ย ห้าๆๆ)
ตัวสีดำตัดขาว ส่วนตัวเมียจะมีสีน้ำตาลครับ
สำหรับที่นี่นกเพนกวินใช้ชีวิตแบบธรรมชาติจริงๆ ครับ สบายใจเฉิบ ไม่มีใครไปกวน ยกเว้นแต่นักท่องเที่ยวอย่างเรา ห้าๆๆๆ
เดินเข้าไปอีกหน่อยก็เจออีกเพียบเลยครับ นอนอาบแดด ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป น่ารักดีครับ
ทำให้นึกถึงตอนไปดูนกเพนกวินที่ออสเตเรีย ที่นั่นนี่ ทั้งหนาว ทั้งเห็นน้อยกว่าครับ ห้าๆๆ เอาไว้จะมารีวิวให้ดูกันนะครับ
เข้าไปดูใกล้ๆ กันหน่อยครับ นอนอาบแดดสบายใจเลยน้า ^^
ตัวนี้สงสัยเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ตัวยังเปียกๆ ห้าๆๆ
มองไปไกลๆ วิวสวยอีกแล้วครับ อยากได้บ้านซักหลังบนนั้นจัง คงจะชิวไม่ใช่เล่นเลยนะครับ
หลังจากที่พยายามถ่ายรูปกับเจ้านกเพนกวินให้ใกล้ที่สุด จะเกือบจะจับ ก็เพิ่งมาเห็นป้ายเตือนนี้ครับ
ถ้าเผลอไปจับนกเพนกวินโดยปรับตั้ง 500 แรนด์ เลย T_T
มาดูดอกไม้สวยๆ กันบ้างครับ
ดอกนี้ ไม่รู้ว่าชื่ออะไรนะครับ แต่ชอบมากครับ สีสรรสดใส รูปร่างแปลกๆ
เที่ยวมาครึ่งวัน ก็ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี
มื้อเที่ยงนี้ คือ น้ำเปล่าใส่มะนาวฝาน 1 กลีบ ห้าๆๆๆ ล้อเล่นครับ
เมนูมื้อเที่ยงของเราวันนี้ ก็คือ …. กุ้งมังกรย่าง เสิร์ฟแบบทั้งตัว
พร้อมข้าว และซี้ฟู้ด อย่าง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ตัวใหญ่ และผักต้มเล็กน้อย บีบมะนาวหน่อยแล้ว ลุยกันเลยดีกว่าครับ น้ำลายไหล ^^
หลังจากกินเสร็จ เดินชมวิว ย่อยอาหารกันหน่อยครับ
แล้วก็เดินทางต่อไปยังแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) แหลมแห่งนี้ได้ชื่อว่า แหลมแห่งความหวัง
แหลมกู๊ดโฮปอยู่ในเขตสงวน Cape of Good Hope Nature Reserve เมื่อขึ้นไปด้านบนแล้ว มองลงมาสวนมากๆ ครับ
ระหว่างทางขึ้น แอบเห็นสัตว์ประหลาดครับ
สีดำตัดกับสีก้อนหิน และดอกไม้สีสดใสทางด้านหลัง แปลกตาดีนะครับ เหมือนสัตว์ดึกดำบรรพ์เลย
ในที่สุดเราก็มาถึงจุดที่สูงที่สุด และปลายสุดของแหลมนี้กันแล้วครับ
วิวบนนี้สวยมากครับ ใครมาแล้วไม่ขึ้นมาทางด้านบน เมื่อกลับไปแล้ว เห็นภาพต่อจากนี้ต้องเสียดายแน่นอนครับ
ปลายสุดแหลมมีประภาคารขนาดใหญ่
เมื่อมองจากด้านบนสุดจะเห็นรอยตะเข็บที่มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติกมาบรรจบกันได้ชัดเจน
สร้างมา 100 กว่าปีแล้ว หรอเนี๊ย !!!
มาดูกันหน่อยครับ ว่าที่นี่ห่างจาก Paris กี่กิโลเมตร หรือไป New York ดี แค่ 12,541 กิโลเมตร เองครับ ห้าๆๆๆ
ทางขึ้นมา ชันหน่อยนะครับ แม่ของผมกว่าจะขึ้นมาได้ ก็ใช้เวลาพอสมควรเลยครับ แต่ไม่ขึ้นมาก็น่าเสียดายครับ
ทะเลบริเวณนี้จะเป็นส่วนของมหาสมุทรอินเดียบรรจบกับมหาสมุทรแอตแลนติกมาบรรจบ
ท้องทะเลมักมีหมอกลงจัดอากาศแปรปรวน เนื่องจากกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นมาปะทะกัน
ทำให้ยากต่อการเดินทางโดยเรือตั้งแต่โบราณจนมาถึงในปัจจุบัน
ทัศนะวิสัยจะไม่ดีเท่าไหร่ ทำให้เรือชนหินโสโครก หรือชนกันเองบ่อยครับ
จากเหตุการณ์ที่ข้างต้น ทำให้ที่นี่ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับภาพหลอน มิติลี้ลับ
เรื่องเล่าขานเกี่ยวกับฟลายอิ้งดัตช์แมน Flying Dutchman นักเดินเรือชาวดัตช์ ที่พยายามจะเดินทางอ้อมผ่านแหลมกู๊ดโฮป
แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทำให้เรือสูญหายไปในทะเลท่ามกลางหมกหนาทึบจนทุกวันนี้
ด้านล่างจะมีรายละเอียดความเป็นมาของที่นี่ ให้เราได้อ่านกัน ก่อนจะเดินทางกลับ
อ้อ ลืมเล่าไป จากที่จอดรถมาด้านบน เราจะต้องนั่งรถที่เค้าจัดมาให้ครับ ไม่สามารถนำรถขึ้นมาทางด้านบนได้ครับ
ระหว่างขึ้นลง บางช่วงคนเยอะ ต้องรอคิวนานหน่อยครับ (เดินลงไปเองก็ไกลใช้ได้)
ก่อนจะหมดวันนี้ ก็ได้เวลาสำหรับผู้ใหญ่แล้วครับ
นั่นก็คือการชิมไวน์แอฟริกาใต้ครับ ไวน์แอฟริกาใต้ ถือว่าอร่อยใช้ได้เลยครับ แต่คนไทยไม่ค่อยนิยมครับ
ส่วนใหญ่จชอบไวน์ออสเตเรียมากกว่า
เมื่อเข้าไปถึงเค้าก็จะแนะนำ ไวน์ชนิดต่างๆ พร้อม Price List เราสามารถเลือกชิมได้ 3 ชนิดครับ
หลังจากชิมเรียบร้อย ก็ได้ของติดไม้ติดมือมาดังภาพครับ ไปกัน 4 คน แต่ได้กลับมา 6 ขวด ห้าๆๆๆ
อย่าลืมนะครับ เอาเข้าประเทศได้แค่คนละ 1 ลิตรนะครับ
(ที่ซื้อเยอะ กะว่ากินกันตอนที่อยู่ที่นั่นครับ เห็นว่าถูกดีครับ ^^)
ระหว่างทางกลับโรงแรม เห็นวิวสวยๆ คนขับรถก็แวะให้เราถ่ายรูปตลอดทางเลยครับ ลองชมภาพด้านล่างนี้ดูครับ
สุดท้ายสำหรับคนที่ชอบดูบอล อาจจะรู้จักสนามนี้กันเป็นอย่างดีครับ
สนามบอลนี้มีชื่อว่า “กรีน พอยท์ สเตเดี้ยม” หรือ “เคปทาวน์ สเตเดี้ยม” สนามแห่งนี้สามารถจุผู้เข้าชมได้ถึง 68,000 คน
สนามแห่งนี้ยังเป็นสนามที่ใช้แข่งขันฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศมาก่อนด้วยนะครับ
อ้อ !!!
มีเรื่องตื่นเต้นตอนที่ลงไปถ่ายรูปที่สนาม กรีน พอยท์ สเตเดี้ยม แห่งนี้ครับ
เนื่องจากว่าบริเวณสนามค่อนข้างเงียบ คนไม่มีเลย ผมไปกัน 5 คน รวมคนขับรถครับ เมื่อจอดรถ ถ่ายรูปกันอยู่ ก็มีคนดำๆ
เดินเข้ามาบริเวณน้ันครับ ดูท่าทางไม่ค่อยดี แต่ดีที่มีรถตำรวจขับมาใกล้ๆ พอดีครับ
พอมาถึงก็เปิดไซเรนและประกาศไล่คนนั้นไปครับ และจอดเฝ้าจนเราถ่ายรูปเสร็จครับ ดีจริงๆ ครับ การดูแลนักท่องเที่ยว
เหนื่อยเลยครับ วันนี้กลับโรงแรมนอนเอาแรงเที่ยวต่อวันพรุ่งนี้ ดีกว่านะครับ
สำหรับทัวร์แอฟริกาใต้ยังไม่หมดเท่านี้นะครับ ว่างๆ เอาไว้จะมารีวิวให้ชมกันต่อนะครับ สำหรับวันนี้ (ขณะที่ผมกำลังรีวิว) ก็ดึกแล้ว ขอตัวไปนอนก่อนน้า … นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ คร้าบบบบ ^^
Related Articles