ชิม Japanese Hida Wagyu Beef A4 สไตล์เทปันยากิ ทั้งอร่อย ทั้งฮา @เบนิฮานา สเต็กเฮ้าส์ โรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพฯ
สวัสดีครับ วันนี้ผมกับฟ้าขอพาไปชิมอาหารสไตล์เทปันยากิที่ผสมผสานทั้งลีลาการปรุงอาหาร ความอร่อย และความสนุกสนาน นั่งกินกันแบบก้นไม่ติดพื้น (ลุ้นกันขนาดนั้น ล้อเล่นครับ) กินไป ตื่นเต้นไป ฮาไป สนุกดี ^^
ที่นี่ก็คือ “เบนิฮานา” สเต็กเฮ้าส์สไตล์ญี่ปุ่น ที่โรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพฯ นั่นเองครับ
ก่อนจะไปชิมซูชิและซาชิมิ และ Japanese Hida Wagyu Beef A4 สวรรค์สำหรับคนรักเนื้อ ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงอันมีสีสันของเชฟที่ปรุงอาหารกับแบบสดๆ ถึงโต๊ะ ทั้งหั่น ปิ้ง ย่าง ด้วยส่วนผสมต่างๆ ทั้งเนื้อสัตว์ระดับพรีเมี่ยม ซีฟู้ด ผักสด และข้าว เราไปดูบรรยายกาศของร้านกันก่อนนิดนึงเนอะ
เริ่มจากด้านหน้ากันก่อนเลยครับ “เบนิฮานา” สเต็กเฮ้าส์อยู่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพฯ
เข้าไปทางด้านในก็จะเป็นขวดสาเกวางเรียงราย สวยดี
ตั้งใจให้ดูการตกแต่งน้าไม่ได้ส่งเสริมการดื่ม ^^
ฝั่งตรงข้ามเป็นเค้าเตอร์บาร์ ใครที่ตั้งใจมาดื่ม กินอะไรนิดๆ หน่อยๆ เชิญตรงนี้เลยครับ
ส่วนด้านในจะเป็นโต๊ะแบบที่มีเตาเทปันยากิครับ
เลือกนั่งได้ตามต้องการ
แอบเห็นห้องนี้ เกร๋ดีครับ นั่งชิวๆ สังสรรค์กับเพื่อนๆ ได้สบาย
ใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือคุยธุรกิจต้องเป็นห้องนี้เลยครับ
สำหรับใครที่นั่งห้องส่วนตัว ไม่ต้องกลัวว่าจะเรียกพนักงานลำบากเวลาที่สาเกหมดนะครับ
ทุกห้องจะมีปุ่มให้กด พนักงานจะเต้นรำนำสาเกมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ
คิดแล้วฮาดีนะครับ น่าลอง ^^
หิวแล้วได้เวลาอาหาร
แต่ก่อนจะกิน Main Course ต้องเรียกน้ำย่อยกันก่อนนิดนึง
เริ่มจาก Cocktails กันก่อน
สำหรับ Signature Cocktails ของที่นี่ ต้อง 2 แก้วนี้เลยครับ
Sake Lychee และ Benihana Punch
ราคาแก้วละ 290 บาท
ฟ้าชอบ Benihana Punch ส่วนผมชอบ Sake Lychee
(Sake Lychee ขมกว่านิดนึง มีส่วนผสมของสาเก แปลก อร่อยดีครับ)
ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ ก็แทะถั่วแระญี่ปุ่นไปพลางๆ กันก่อน
เพลินจนไม่อยากจะหยุด 555+
และแล้วอาหารจานแรกก็มาถึง ซาชิมิ (Sashimi) รวม 4 อย่าง ประกอบไปด้วย
ปลากะพงแดง (Red Snapper), ปลาหางเหลือง (Hamachi), กุ้งหวาน (Sweet Shrimp)
และ หอยเชลล์ญี่ปุ่น (Japanese Scallop)
เรือลำนี้ ราคา 850 บาท ครับ
เมนูนี้ สด หวาน อร่อย มากๆ โดยเฉพาะหอยเชลล์ญี่ปุ่น ชอบเป็นพิเศษ ^^
เมนูต่อมานี้ Tsukiji Market ราคา 700 บาท
ข้าวห่อสาหร่ายไส้หอยแครง โปะด้วยกุ้งหวาน ปลาโอหมักมิริน
อร่อยใช้ได้ครับ
ถัดมาเป็น สลัดปลากะพงแดง (Madai Salad) ราคา 600 บาท
ไม่ค่อยได้กินเมนูประมาณนี่เท่าไหร่ อร่อยดี
ตามมาติดๆ กับเมนู Hamachi Beach ราคา 600 บาท
ข้าวห่อสาหร่ายไส้กุ้งทอดเทมปุระ ต้นอ่อนหัวผักกาด หุ้มด้วยปลาหางเหลือง หมี่ผัด ไข่ปลาแซลมอน
รสชาติใช้ได้ ^^
เรียกน้ำย่อยเยอะไปละ เดี๋ยวอิ่ม มาเริ่มเมนูเทปันยากิ กันดีกว่า
เมนูเทปปันยากิเสิร์ฟพร้อมซุปหัวหอม สลัด กุ้ง ผัดผัก และข้าวสวย ครับ
ก่อนอื่นเชฟขอแนะนำตัวก่อน
มีทั้งชื่อในครัว นอกครัว ชื่อลูกค้าเรียก ชื่อ …. เยอะไปหมด สุดท้ายผมกับฟ้าก็จำไม่ได้ 555+
ก่อนจะเริ่มวิทยายุทธ เชฟมือทอง ต้องเสิร์ฟน้ำจิ้มสูตรเด็ดกันก่อน
น้ำจิ้มมีให้เลือก 3 แบบ
เลือกจิ้มได้ตามต้องการ หลายแบบหลายสไตล์ ส่วนเนื้อต้องมายองเนสเลยครับ
ก่อนจะเริ่มเมนูแรกของเทปันยากิ เชฟขอโชว์ลีลาหั่นกุ้ง ผัดผัก กันก่อน
ลีลาการหั่นกุ้งเด็ดมากครับ
อยากรู้ว่าเด็ดยังไงต้องลองไปชิมกันครับ ^^
เมนูนี้เด็ดตรงหางกุ้งครับ
ไม่ได้พิมพ์ผิดนะครับ “หางกุ้ง” จริงๆ เชฟย่างใส่ซอสนิดหน่อย จนกรอบ อร่อยผุดๆ
โชว์เด็ดต่อมา …
ผมขอตั้งชื่อว่า หอมใหญ่ ภูเขาไฟ ก่อนอื่นของจัดเรียงหอมใหญ่กินก่อน
หลังจากนั้นก็ … จุดไฟ จ้า
ตื่นเต้นใช้ได้ ภาพก็สวย เหมือนภูเขาไฟระเบิด ชอบ ชอบ เอาอีก 555+
ตามด้วยข้าวผัด ผัดกันสดร้อนๆ
แล้วก็ตามด้วย เมนูแรกของเทปันยากิได้แก่ … หอยเชลล์ญี่ปุ่น (Japanese Scallops) ราคา 700 บาท
หอยเชลล์ตัวใหญ่ เนื้อหวาน อร่อยเลย
ย่างสุกกำลังดี ลุยกันเล้ย
ก่อนจะถึงเมนูที่ 2 ขอโชว์การแสดงขั้นเวลานิสนึง
เริ่มจากการโยนไข่ ควงไข่ ด้วยตะหลิว เจ๋งอ่ะ
ตอนแรกคิดว่าไข่ต้ม ฟ้าของลอง แตกจ้า 2 ใบ ดีน้า เชฟไม่คิดตังเพิ่ม ห้าๆๆๆ
ขำและฮากันไป
เมนูต่อมา Japanese Hida Wagyu Beef A4 ราคา 3,500 บาท
สำหรับเมนูนี้ ฟินสุโค่ย อร่อยสุดๆ ครับ
บอกเลย
เนื้อสันนอกชิ้นโตๆ หั่นพอดีคำ สุกแบบ Medium ส่วนมัน เชฟหั่นทิ้งข้างๆ ย่างนานหน่อย
เกรียมนิดนึงถึงจะอร่อย
หลังจากเนื้อได้ที่ เชฟก็เสิร์ฟให้ถึงจาน อิ่ม อร่อย กันไป
มาถึงเมนูสุดท้ายในส่วนของเทปันยากิ เมนูนี้ก็คือ ตับห่าน (Foie Gras) ราคา 1,000 บาท
เมนูตับห่านเชฟบอกว่าไฟต้องแรงนิดนุง กรอบนอกนุ่มใน
อร่อยแบบที่เชฟบอกจริงๆ ^^
เป็นอันเรียบร้อยส่วนของเมนูเทปันยากิ ทั้ง 3 เมนู (Chef’s recommendation) อร่อยไม่ผิดหวังจริงๆ
มาต่อกันที่ของหวานกันบ้างนะครับ
เริ่มจาก เค้กชาเขียวราดมูสช็อกโกแลตขาว (Green Tea Chocolate Mousse) ราคา 140 บาท
ต่อด้วย ไอศกรีมทอดในซอสเทมปุระและเสาวรส (Ice Cream Tempura) ราคา 120 บาท
ผมชอบเมนูนี้ครับ เปรี้ยว หวาน กรอบ เย็น ครบเลย
อร่อยดี ^^
อิ่มแป้ … กลับบ้านกันดีกว่าเนอะ
สรุปภาพรวมของห้องอาหาร “เบนิฮานา” กันนิดนึง เริ่มจากบรรยายกาศของร้านกันก่อน ส่วนของบรรยายกาศร้านใช้ได้เลยครับ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ จะมากับเพื่อน จะมาติดต่อธุรกิจก็สามารถทำได้ ชิว ชิว สบายๆ ส่วนของรสชาติอาหาร ซาชิมิ เนื้อสด หวาน อร่อย ส่วนของเมนูเทปันยากิ อร่อยใช้ได้ ที่ผมชอบสุดๆ ก็จะเป็น Japanese Hida Wagyu Beef A4 เนื้อนุ่ม ลองลงมาก็จะเป็น ตับห่าน และหอยเชลล์ญี่ปุ่น (สรุปคืออร่อยทุกอย่าง 555+) ส่วนของราคาก็ตามคุณภาพของวัตถุดิบนะครับ ^^
ใครที่อยากจะลองชิม ตื่นเต้น และฮา เหมือนผมกับฟ้า เชิญได้เลยครับที่ร้าน “เบนิฮานา” ตอนนี้เปิดให้บริการ 2 สาขาเท่านั้น สาขาแรกอยู่ที่โรงแรม อนันตรา กรุงเทพ ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา และสาขาที่สองที่ผมกับฟ้าไปชิมมาคือ โรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพฯ ครับ
โรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพ ฯ อยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ วิ่งจากแยกอโศก-เพชรบุรี ไปทางตึกอิตาเลี่ยนไทย ก่อนถึงตึกอิตาเลี่ยนไทยโรงแรมจะอยู่ขวามือครับ
ห้องอาหารเบนิฮานา เปิดให้บริการทุกวัน แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาดังนี้
- มื้อกลางวันเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.30 – 14.30 น.
- มื้อเย็นเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.30 น.
สนใจจองโต๊ะและเลือกเชฟเทปันยากิส่วนตั๊ว ส่วนตัว จองผ่านเว็บไซต์เราที่ www.avanihotels.com หรือ อีเมล์ benihana.vatr@avanihotels.com หรือ โทร. 02-718-2023 ได้เลยครับ
Related Articles