มีใครทำงานแถวๆ ซอยสุขุมวิท 55 บ้างมั๊ยครับ ผมมีเมนูอาหารกลางวันมาแนะนำครับ เลือกเมนูได้ตามชอบครับ ซุป+สลัด+พาสต้า เปลี่ยนบรรยากาศกินข้าวกลางวันอย่างหรู ราคา 299 บาท กันเนอะ ^^ วันนี้ผมอยู่ที่ห้องอาหาร S-SEN Brasserie and More Hotel Verve ในซอย สุขุมวิท 55 ครับผม ห้องอาหาร S-SENBrasserie and More เป็นห้องอาหารนานาชาติครับ มีทั้งอาหาไทย ญี่ปุ่น เอเชีย และอเมริกัน ครับ นอกจากอาหารแล้วยังมี ชา กาแฟ ให้เราได้นั่งจิบชา กาแฟ ยามบ่าย ทำกิจกรรมกับเพื่อนฝูงอีกด้วยนะครับ
อย่างที่ผมแนะนำไปครับ มื้อกลางวัน เค้าจะมีแบบ “Fit Your Style Lunch” เราสามารถเลือกเมนูหลักที่ชอบ กับสลัดและซุป ได้ครับ ขนาดกำลังดี ราคาไม่แพงครับ 3 อย่าง ซุป สลัด เมนูหลักอย่าง พาสต้าหรือแซนด์วิช ราคาเพียง 299 บาท ครับผม แต่ถ้าอยากกินแบบจานใหญ่ๆ เค้าก็ยังมีเมนูแบบ a la carte ให้เลือกเพียบครับ อาหารเพื่อสุขภาพก็มีน้า เยอะเกิ้น ห้าๆๆๆๆๆ เลือกไม่ถูกแว้วววว
ช่วงบ่ายๆ สำหรับที่นี่ดินแดนแห่งชาวญี่ปุ่น #สุขุมวิท #ทองหล่อ คนญี่ปุ่นเยอะเกิ้น ก็จะมีกลุ่มแม่บ้านญี่ปุ่น หรือคนที่สนใจมานั่งจิบชากินขนมชิลๆ กับเพื่อนๆ ทำงานคราฟท์ ร้อยลูกปัด ถักสร้อย เพลินๆ แก้เบื่อยามบ่ายกันด้วยนะครับ ที่นี่เค้ามีอุปกรณ์ให้บริการครับ ไม่ต้องหิ้วของมาเอง ทำแล้วเอากลับบ้านไปได้เลย
ส่วนของช่วงเย็นก็เป็นช่วงเวลาของการดินเนอร์สุดโรแมนติกกับคนรู้ใจ จิบค็อกเทลเบาๆ ชิลๆ สบายๆ ได้อีกด้วยนะครับ
เกริ่นมาซะยาวเหยียดมาดูบรรยากาศของห้องอาหาร S-SENBrasserie and More Hotel Verve กันดีกว่าเนอะ อ้อ… ก่อนที่จะพาไปที่ห้องอาหารผมแนะนำก่อนนิดนึงว่า Hotel Verve อยู่ตรงไหนครับ ผมแอบยืนงงในดงสุขุมวิท 55 อยู่ซักพักใหญ่ครับ สังเกตง่ายๆ ครับ เข้าทางเดียวกันกับโรงแรม นิกโก้ กรุงเทพ (Hotel Nikko Bangkok) เลยครับ เดินเข้าไปด้านใน โรงแรม นิกโก้ กรุงเทพ อยู่ซ้าย Hotel Verve อยู่ด้านขวาครับ ตามภาพต่อไปเลยครับ
ส่วนของห้องอาหาร S-SENBrasserie and More จะอยู่ที่ชั้น 2 ครับ
เดินเข้าโรงแรมไปแล้วขึ้นบันไดไปได้เลยครับผม
การตกแต่งเป็นสไตล์โมเดิร์นครับ
การตกแต่งของที่นี่จะแบ่งเป็นห้องโทนสีดำและโทนสีขาวครับ
ห้องแรกบริเวณนี้ จะมีโซนสีดำครับ ยาวปายถึงด้านหลัง สามารถแบ่งเป็นห้องย่อยๆ ได้ประมาณ 3 ห้องครับ
ปิดกั้นเป็นห้องๆ ด้วยประตูพับได้ฮะ
เข้ามาอีกหน่อยจะเป็นห้องสีขาวสะอาดห้องใหญ่ ห้องนี้จะเป็นห้องสำหรับรับประทานอาหารเช้าของโรงแรมด้วยครับ
ส่วนของไลน์บุฟเฟ่ต์ก็จะอยู่มุมนึงของห้องรูปถัดไปครับ
เปลี่ยนความรู้สึกไปเลยนะครับ จากห้องสีดำ มืดๆ เดินมาอีกหน่อยขาว โปร่ง เลือกได้ตามชอบเลยครับ
เลยห้องสีขาวก็จะเป็นห้องดำอีกรอบนึงครับ สามารถเดินทะลุไปห้องแรกได้ครับ
ทั้ง 3 ห้องสามารถเดินทะลุหากันได้ครับ
เผื่อใครอยากจะมาเหมาห้องจัดเลี้ยงครับ ห้องเค้าใหญ่กว้างขวางมากครับผม
ส่วนของอุปกรณ์ตกแต่งห้องอาหาร แอบชอบเป็นการส่วนตัวครับ
คนที่ชอบถ่ายรูปไปถ่ายรูปเล่นกันได้น้า
ตรงนี้เป็นงานคราฟท์อย่างที่บอกไว้ตอนต้นครับ
ทางโรงแรมคิดค่าบริการ 99 บาทครับ ทำเสร็จแล้วเอากลับบ้านไปได้เลยครับ เผื่อใครเบื่อๆ มานั่ง ร้อยลูกปัด ถักสร้อยกันได้จ้า
สั่งอาหารกันดีกว่าเนอะ ดูเมนูซักหน่อยมีอะไรกินบ้างน้า ?
วันนี้ผมสั่งเป็น… “Fit Your Style Lunch” Soup, Half Salad & Half Pasta ราคา 299 บาทครับ
ซุปผมสั่งเป็น Shrimp Bisque (ส่วนของซุปจะมีให้เลือกประมาณ 4 อย่างครับ)
ส่วนของสลัดเลือกเป็น S-SEN Salad ครับ (ส่วนของสลัดก็จะมีให้เลือกประมาณ 3 อย่างครับ)
ปิดท้ายกันที่ Udon Carbonara ครับผม (ส่วนของส่วนของ Pasta จะมีให้เลือกประมาณ 5 อย่างครับ)
ส่วนตัวผมชอบซุปมากครับ เข้มข้น หอม อร่อยมากครับ
ส่วนของสลัด น้ำสลัดถือว่าใช้ได้ครับ ส่วน Udon Carbonara ก็ถือว่าอร่อย แปลกใหม่ดีครับ ยังไม่เคยกิน Udon Carbonara มาก่อนเลยครับ
เข้ากันใช้ได้ครับ
สำหรับ “Fit Your Style Lunch” เหมาะสำหรับคนที่ชอบกินอย่างละนิดอย่างละหน่อยหลายๆ อย่างครับ
จริงๆ ถ้าเราสั่งแยก Shrimp Bisque จะราคา 195 บาท S-SEN Salad ราคา 245 บาท Udon Carbonara ราคา 315 บาท
รวม 755 บาท แพงกว่าแถมอาจจะกินไม่หมดด้วยครับ จานจะใหญ่กว่านี้ครับ ^^
#แค่นี้ก็กินไม่หมดแล้วน้า ห้าๆๆๆๆ
แต่ถ้าใครยังไม่อิ่ม สามารถสั่งเมนู a la carte แบบผมเพิ่มเติมได้นะครับ
เมนูที่ผมสั่งเพิ่มเป็น Norwegian Salmon with Lime Butter Sauce ราคา 425 บาท
เมนูนี้ปลาแซลมาสุกกำลังดีเลยครับ เนื้อนุ่ม อร่อยมากครับ
อาหารพร้อม คนพร้อม ลุยยยยยย…
อ้อลืมไป เครื่องดื่ม ผมจัดนิดนึงพอเป็นกระสัย Lychee Martini ราคา 500 บาท
หลังจากที่อิ่มอาหารคาว ก็ได้เวลาจิบชา กาแฟ ยามบ่ายพอดิบ พอดี๊ ห้าๆๆๆ
จัดไปครับ Cappuccino ร้อน ราคา 105 บาท และ Tropical Fruits ราคา 140 บาท ชาและกาแฟที่นี่จะเสิร์ฟพร้อมขนมดังภาพครับ
กาแฟรสชาติกำลังดี ส่วนชาผมชอบครับ หอมกลิ่นผลไม้มากครับ สดชื่นดี
ยังไม่หายอยากกับของหวาน เลยของเพิ่มอีกซักเมนูกับ Vanilla Creme Brulee ราคา 155 บาท หอม อร่อยมากๆ ครับ
จัดปายยยย ยาวๆๆๆๆ ฟินกันปายยยย
ระหว่างกินไปก็ร้อยลูกปัด ถักสร้อยกันไปเนอะๆ ชิลๆ สบายๆ ยามบ่าย
ปิดรีวิวนี้กันดีกว่า… #ประมาณเหมือนพูดปิดคลิป VLOG กำลังมาก ห้าๆๆๆๆ ส่วนของบรรยากาศ ห้องอาหาร S-SEN Brasserie and More Hotel Verve บรรยากาศดีแน่นอนครับ ห้องอาหารในโรงแรมไม่เคยทำให้ผมผิดหวังครับ ^^ ส่วนของรสชาติอาหารถือว่าใช้ได้ครับ ส่วนของราคาผมชอบ “Fit Your Style Lunch” นะครับ 3 อย่างเลือกเมนูได้ 299 บาท ไม่แพงนะครับ เผื่อว่าจะเปลี่ยนบรรยกาศกินอาหารโรงแรมมื้อกลางวัน ซุป สลัด พาสต้า ไฮโซววววววว ห้าๆๆๆๆ
ส่วนของลายแทง ห้องอาหาร S-SEN Brasserie and More Hotel Verve อยู่ในซอยสุขุมวิท 55 ครับ แนะนำว่านั่งรถไฟฟ้าไปสะดวกมากครับ ลงสถานีทองหล่อ เดินเข้าซอยสุขุมวิท 55 ประมาณ 300 เมตร แล้วเข้าทางเดียวกันกับโรงแรม นิกโก้ กรุงเทพ (Hotel Nikko Bangkok) เดินเข้าไปด้านใน โรงแรม นิกโก้ กรุงเทพ อยู่ซ้าย Hotel Verve อยู่ด้านขวาครับ ตามภาพด้านบนเลยครับ ใครที่ทำงานแถวนั้น หรือแวะไปแถวนั้น อยากเปลี่ยนบรรยากาศกินอาหารมื้อเที่ยงในโรงแรม ราคา 299 บาท ลุยกันได้เลย… ครับผม ^^